• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  12 ตุลาคม 2566

กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น56,338 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 74% ของความจุรวมกัน เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น15,220 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 61% ของความจุ

โดยกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ร่องมรสุมเลื่อนพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งในพื้นที่ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงได้สั่งการไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดควบคู่ไปกับการจัดจราจรน้ำ และตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อน อาคาร อ่างเก็บน้ำ รวมทั้งเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆพร้อมทั้งผสานกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  11 ตุลาคม 2566

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เฝ้าระวังสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยเสี่ยงน้ำท่วม หลังพบใน 3 จังหวัดเกิดน้ำท่วมหลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง

นางกัญชลี นาวิกภูมิ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า เนื่องจากหลายพื้นที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องจนเกิดน้ำท่วมในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3 แห่ง คือ เทศบาลเมืองสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย // องค์การบริหารส่วนตำบลโนนศิลาเลิง จังหวัดกาฬสินธุ์ และองค์การบริหารส่วนตำบลดงละคร จังหวัดนครนายก โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ก่อสร้างคันดินเพื่อป้องกันน้ำและติดตั้งตาข่ายดักขยะมูลฝอยเพื่อป้องกันขยะมูลฝอยไหลออกนอกพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ภาพรวม ณ ปัจจุบันสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของจังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอยได้ตามปกติ แต่ในส่วนสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของจังหวัดกาฬสินธุ์และนครนายกสถานการณ์น้ำท่วมยังทรงตัว จึงไม่สามารถดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่ได้ โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 2 แห่งได้ประสานขนส่งขยะมูลฝอยไปกำจัดบริเวณสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่ใกล้เคียง

รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ย้ำว่า สถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของกาฬสินธุ์และนครนายก ควรบริหารจัดการขยะมูลฝอยตามนโยบายการรวมกลุ่มพื้นที่ของจังหวัด ควบคู่กับส่งเสริมให้ชุมชน ภาคเอกชน สถานศึกษา และศาสนสถาน ดำเนินการลดและคัดแยกขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง แล้วนำขยะมูลฝอยกลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อลดปริมาณขยะมูลฝอยที่ถูกนำไปกำจัด ทั้งนี้ คพ. จะติดตามเฝ้าระวังสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการลดความเสี่ยงต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและบรรเทาผลกระทบที่เกิดกับสิ่งแวดล้อม


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  10 ตุลาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของประเทศ หลังเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำอยู่ที่ 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลอ่าวไทย

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ประเทศไทย ยังคงได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งและมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ โดยคาดการณ์ช่วงวันที่ 11 –14 ตุลาคมประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้ต้องระวังพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1-3 วันนี้ ในภาคเหนือ บริเวณ จ.เชียงใหม่ ลำปาง น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ // ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.กาฬสินธุ์ ขอนแก่น หนองบัวลำภู และอุดรธานี // ภาคใต้ บริเวณ จ.นครศรีธรรมราช และยะลา ขณะที่วันนี้ (10 ต.ค.66) ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำบริเวณสถานีวัดน้ำ C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อยู่ที่ 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายน้ำหลากจากทางตอนบนของประเทศ พร้อมตัดยอดน้ำเข้าระบบคลองชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ วัดไชโย คลองโผงเผง จ.อ่างทอง , อ.พรหมบุรี เมืองสิงห์บุรี และอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี , คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 20–80 เซนติเมตร ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ใช้ระบบชลประทานในลุ่มน้ำเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำจากตอนบนลงสู่ทะเลอ่าวไทย เพื่อลดผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งนอกคันกั้นน้ำและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังได้บริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำป่าสัก ด้วยการผันน้ำบางส่วนออกทางคลองระพีพัฒน์ ผ่านประตูระบายน้ำพระนารายณ์ ลงสู่คลองระพีพัฒน์ คลอง 13 และคลองพระองค์ไชยานุชิต เพื่อเร่งสูบระบายลงอ่าวไทย พร้อมตัดยอดน้ำบางส่วนออกทางคลองรังสิตประยูรศักดิ์ คลองหกวาสายล่าง คลองบางขนาก คลองนครเนื่องเขต และคลองสำโรง พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำแบบ Hydro Flow เพิ่มอีก 7 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำปลายคลอง 20 ประตูระบายน้ำปลายคลอง 19 ประตูระบายน้ำบางขนาก และประตูระบายน้ำท่าถั่ว เพื่อเร่งสูบน้ำลงสู่แม่น้ำนครนายกและแม่น้ำบางปะกง ซึ่งช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเขื่อนพระรามหก และลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง และ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้ง ลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครด้วย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  9 ตุลาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังการระบายน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาหลังใกล้แตะที่ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายน้ำหลากจากตอนบนของประเทศ หลังเกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ประเทศไทย ยังคงได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยคาดการณ์ช่วงวันที่ 10 –14 ตุลาคมประเทศไทยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้ต้องระวังน้ำหลากดินถล่มและน้ำล้นตลิ่งถึงวันที่ 15 ตุลาคมในพื้นที่ 27 จังหวัด พร้อมระวังน้ำล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ บริเวณแม่น้ำมูล // แม่น้ำท่าจีน // แม่น้ำปราจีนบุรี และแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยาคาดการณ์จะมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำ หากปริมาณน้ำตอนบนของประเทศเพิ่มมากขึ้น อาจส่งผลให้เขื่อนเจ้าพระยาจะต้องเพิ่มการระบายน้ำในอัตรามากกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ วัดไชโย คลองโผงเผง จ.อ่างทอง , อ.พรหมบุรี เมืองสิงห์บุรี และอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี , คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 20–80 เซนติเมตร

ปัจจุบัน ณ วันนี้ (9 ต.ค.66) ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำบริเวณสถานีวัดน้ำ C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อยู่ที่ 1,498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายน้ำหลากจากทางตอนบนของประเทศ โดยการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาใกล้แตะที่ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีแล้ว จึงต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำเป็นพิเศษ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  8 ตุลาคม 2566

กรมชลประทาน บริหารจัดการน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบริมน้ำเจ้าพระยา หลังปริมาณน้ำตอนบนของประเทศยังสูง

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทาน ได้เตรียมพร้อมรับน้ำหลาก ดินถล่ม และน้ำล้นตลิ่ง หลังคาดการณ์จะเกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก จะส่งผลให้มีน้ำในลำน้ำเพิ่มมากขึ้นและมีน้ำล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำช่วงวันที่ 9 - 15 ตุลาคม โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา คาดการณ์จะมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำ ซึ่งเขื่อนเจ้าพระยาต้องการระบายน้ำในอัตรามากกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เบื้องต้นกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้คาดการณ์ปริมาณน้ำที่สถานีวัดน้ำท่า C.2 จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1800 - 1900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาที่จะไหลมาสมทบประมาณ 200 - 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณระหว่าง 2,000 - 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งกรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 350 - 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,500 - 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 20 - 80 เซนติเมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ทำหนังสือแจ้งเตือน 11 จังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา คือ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร พร้อมร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ช่วยกันประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  7 ตุลาคม 2566

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตั้งหน่วยข่าวกรองอาชญากรรมด้านสัตว์ป่า (WCU) เพื่อลดอาชญากรรมด้านสัตว์ป่าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศในอนาคต

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เปิดห้องปฏิบัติการ "หน่วยข่าวกรองอาชญากรรมสัตว์ป่า หรือ WCU : Wildlife Crime Inteligence Unit" ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายในประเทศไทย (CIWT – GEF6) , โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) , สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย พร้อมสนับสนุนซอฟแวร์ I2 และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดอาชญากรรมด้านสัตว์ป่าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศในอนาคต ซึ่งห้องปฏิบัติการนี้ทำหน้าที่เป็นแกนกลางศูนย์ข้อมูลและศูนย์บัญชาการอำนวยความสะดวกการออกคำสั่งเชิงกลยุทธ์ และประสานการสื่อสาร ช่วยอำนวยความสะดวกในการตัดสินใจด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ซอฟแวร์ I2 ช่วยสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล การจัดการฐานข้อมูลอาชญากรรมสัตว์ป่า ทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน และสร้างการนำเสนอข้อมูลแบบรายงานการสืบสวนที่เป็นองค์ประกอบสำคัญทั้งหมดในภารกิจการต่อสู้กับอาชญากรรมสัตว์ป่า ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯได้รับการฝึกอบรมการใช้โปรแกรม I2 จำนวน 80 นายกระจายปฏิบัติหน้าที่ตามพื้นที่คุ้มครองทั่วประเทศ โดยในสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้องปฏิบัติการ WCU จะสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องบัญชาการ เป็นศูนย์กลางการประสานงาน พื้นที่ทำงานร่วม การวางแผนจัดสรรอุปกรณ์และควบคุมติดตามสถานการณ์เพื่อตอบสนองต่อสู้กับอาชญากรรมต่อสัตว์ป่าอย่างมีประสิทธิภาพที่ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี เพื่อจัดการเหตุการณ์และควบคุมการปฏิบัติการและรองรับการสืบสวนขยายผลอาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อมอื่นในอนาคตด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมอุทยานฯ ได้บังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ 2562 ที่พัฒนาปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับปัจจุบัน มีการเพิ่มบทกำหนดโทษในการครอบครอง ค้าขาย นำเข้า ส่งออก ซึ่งสัตว์ป่าที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้น และอนุสัญญาด้านพืชป่าสัตว์ป่าต่างๆที่ไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่าย ซึ่งเป็นการกำหนดมาตรการเพื่อปกป้องคุ้มครองไม่ให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้าขาย นำเข้า และส่งออกสัตว์ป่าระหว่างประเทศ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  6 ตุลาคม 2566

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ขอให้ท้องถิ่นเฝ้าระวังน้ำท่วมระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชน พบมีพื้นที่เสี่ยงท่วม 24 แห่ง โดยได้จัดทำแนวทางการป้องกันและลดผลกระทบแล้ว

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ จนเกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน โดย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.)ได้สำรวจระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนในประเทศมี 118 แห่ง พบมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ตั้งอยู่ในจังหวัดมีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย 24 แห่ง คือ เทศบาลเมืองลำพูน , เทศบาลนครเชียงใหม่ , เทศบาลนครลำปาง , เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี , เทศบาลเมืองน่าน , เทศบาลเมืองตาก เทศบาลนครแม่สอด จ.ตาก , เทศบาลเมืองกำแพงเพชร , เทศบาลตำบลสลกบาตร จ.กำแพงเพชร , เทศบาลเมืองชัยภูมิ , เทศบาลนครนครราชสีมา , เทศบาลเมืองปากช่อง จ.นครราชสีมา , เทศบาลนครอุดรธานี , เทศบาลเมืองยโสธร , เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ , เทศบาลนครขอนแก่น , เทศบาลนครอุบลราชธานี , เทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี , เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา , เทศบาลตำบลบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา , เทศบาลเมืองกาญจนบุรี , เทศบาลเมืองบ้านหมี่ จ.ลพบุรี และเทศบาลนครยะลา (2 ระบบ) ขณะนี้ยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ เบื้องต้น คพ.ได้จัดทำแนวทางการป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัยต่อระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชน ด้วยการจัดส่งให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ที่ 1 - 16 เพื่อเป็นแนวทางให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้ป้องกันและแก้ปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ พร้อมแจ้งเตือนสถานการณ์และให้ปรึกษาทางวิชาการ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  5 ตุลาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ประชาชนระวังฝนตกหนักต่อเนื่องถึงวันที่ 7 ตุลาคมนี้ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากหลายพื้นที่ ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำอยู่ที่ 1,479 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ประเทศไทย ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยคาดการณ์ถึงวันที่ 7 ตุลาคมไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้ต้องระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่มีน้ำมาก 8 แห่ง ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ แม่งัดสมบูรณ์ชล แม่มอก กิ่วลม ห้วยหลวง ลำปาว หนองหาร น้ำพุง และอุบลรัตน์ จึงขอให้หน่วยงานพิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุดบริเวณท้ายเขื่อน รวมทั้ง ระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1 - 3 วันนี้บริเวณจ.เชียงใหม่ ตาก ศรีสะเกษ กาญจนบุรี ราชบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด พังงา และนราธิวาส ขณะที่สถานการณ์เขื่อนเจ้าพระยาวันนี้ (5 ต.ค.66) ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำบริเวณสถานีวัดน้ำ C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อยู่ที่ 1,479 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากเมื่อวานระบายน้ำอยู่ที่ 1,449 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากเร่งระบายน้ำหลากจากทางตอนบนของประเทศ

สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนรวม 4 จังหวัด 15 อำเภอ 66 ตำบล 379 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,209 ครัวเรือน คือ จ.ตาก น้ำท่วมใน อ.สามเงา และบ้านตาก // กาฬสินธุ์ น้ำเอ่อล้นจากเขื่อนลำปาวใน อ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่องคำ ฆ้องชัย ยางตลาด กมลาไสย สามชัย ท่าคันโท หนองกุงศรี สหัสขันธ์ และห้วยเม็ก // อุบลราชธานี น้ำท่วมใน อ.เมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ ม่วงสามสิบ ตระการพืชผล ตาลสุม เหล่าเสือโก้ก ดอนมดแดง // ตราด น้ำท่วมในพื้นที่ อ.บ่อไร่ ภาพรวมในทุกพื้นที่ระดับน้ำลดลงแล้ว ส่วนพื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหาย 17 จังหวัด ใน 396,726 ไร่ คือ ลำพูน สุโขทัย ตาก ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครพนม สกลนคร ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง


  1. สทนช. เร่งระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำรอบใหม่ หลังคาดการณ์จะมีฝนตกหนักในภาคกลางช่วง 2 - 3 วันนี้
  2. คพ. เพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยและระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่น้ำท่วมและเสี่ยงน้ำท่วม เพื่อป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
  3. สคทช. และ GISTDA ร่วมกันจัดทำข้อมูลเพื่อติดตามการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ คทช. เพื่อเตรียมพร้อมให้เกษตรกรรับกฎหมายสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป
  4. ก.ทรัพย์ฯ เดินหน้าแผนรับมือการเข้าสู่ยุคโลกเดือด หลังการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามสำคัญทางเศรษฐกิจของโลกระยะยาว และป้องกันปัญหาการกีดกันทางการค้า
© 2025 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.