• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  28 พฤษภาคม 2566

กรมทรัพยากรธรณี ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากถึงวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ในพื้นที่ 7 จังหวัด หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง

ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ได้ออกประกาศขอให้อาสาสมัครเครือข่ายกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไปเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากถึงวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มบริเวณอำเภอขลุง มะขาม เขาคิชณกูฎ จังหวัดจันทบุรี // อำเภอบ่อไร่ เขาสมิง เกาะช้าง จังหวัดตราด // อำเภอเมือง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์ สุขสำราญ จังหวัดระนอง และอำเภอกะปง คุระบุรี ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เนื่องจากวัดปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชั่วโมง ได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร ในบางพื้นที่เริ่มมีน้ำป่าไหลหลากอาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มได้

ทั้งนี้ ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังด้วย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  27 พฤษภาคม 2566

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าขับเคลื่อนการเพิ่มคาร์บอนเครดิตในพื้นที่ป่าชายเลน เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจในชุมชนและประเทศให้เติบโต พร้อมตั้งเป้า 10 ปี เพิ่มป่าชายเลนให้ได้ 300,000 ไร่

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวในงาน "วันป่าชายเลนแห่งชาติ ประจำปี 2566" ภายใต้คำขวัญ “ป่าชายเลนชุมชน คนดูแลป่า พัฒนาเศรษฐกิจ สร้างคาร์บอนเครดิต ลดวิกฤติโลกร้อน” บริเวณบ้านน้ำร้อน ตำบลห้วยน้ำขาว อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังคงเดินหน้างานด้านการบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนมาโดยตลอดผ่านการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เช่น โครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) ร่วมกันให้ภาคเอกชนและชุมชนชายฝั่งเข้ามามีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจกตามความสมัครใจปรับตัวสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ โดยตั้งเป้า 10 ปี ระหว่างปี 2565-2574 เพิ่มป่าชายเลนให้ได้ 300,000 ไร่ ถือเป็นความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือของประชาชนทุกคนช่วยกันดูแล รักษา และฟื้นฟู จนผืนป่าชายเลนกลับคืนสภาพสมบูรณ์ในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้มอบหนังสืออนุมัติโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตสำหรับชุมชนให้ผู้แทนชุมชน 16 ชุมชน รวมเนื้อที่ 894 ไร่ บริเวณบ้านน้ำร้อน จ.กระบี่ ถือเป็นการเปิดป่าชายเลนสำหรับชุมชนครั้งแรกของ ทช.

ด้าน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีป่าชายเลนเพิ่มขึ้นกว่า 200,000 ไร่ ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน แต่ยังคงมีความท้าทายจากความต้องการใช้ที่ดินปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมและปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลน จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะร่วมแก้ปัญหานี้ สำหรับปีนี้จะมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมจากภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะเครือข่ายชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลที่เป็นฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนการทำงานในท้องถิ่น และช่วยกันดูแลผืนป่าชายเลนจนมีจำนวนพื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้น


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  26 พฤษภาคม 2566

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เร่งพัฒนาศักยภาพเครือข่ายชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลให้มีประสิทธิภาพ หวังให้เข้ามาช่วยป้องกันและรักษาทรัพยากรของประเทศให้คงความสมบูรณ์และเกิดการใช้ประโยชน์ให้สูงสุด โดยตั้งเป้า 10 ปี ต้องเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้ได้ 300,000 ไร่

นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้พัฒนาศักยภาพเครือข่ายชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาแนวคิดร่วมกันในการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดประชุมภาคีชุมชนชายฝั่ง อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 7 ในพื้นที่จังหวัดพังงาและระนอง เพื่อรับฟังความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารนำมาพัฒนาความรู้ทางนโยบาย ระเบียบ กฎหมาย ข้อมูลระดับพื้นที่ สภาพระบบนิเวศ แหล่งทรัพยากร การจัดการทรัพยากรในท้องถิ่นของชุมชน ที่สำคัญยังเป็นฐานข้อมูลสำหรับพัฒนาระบบการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปัจจุบันจังหวัดระนองมีเครือข่ายชุมชนชายฝั่ง 21 กลุ่ม รวม 546 คน และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล 786 คน ส่วนจังหวัดพังงามีเครือข่ายชุมชนชนชายฝั่ง 42 กลุ่ม รวม 1,227 คน และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล 1,302 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง การแปรรูปอาหารทะเลและป่าชายเลน เกษตรกรรม และการเพาะปลูกพืชต่างๆ ทั้งนี้ เครือข่ายชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลมีความสำคัญมากต่อการดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เนื่องจากเป็นผู้อยู่ใกล้ชิดและได้รับผลกระทบโดยตรงจากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ด้วยการให้ช่วยกันสอดส่องดูแลทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่ง ป่าชายเลน สัตว์ทะเลหายาก พร้อมฝึกอบรมเครือข่ายชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลรุ่นเยาวชน เพื่อสานต่องานด้านเครือข่ายทางทะเลให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สร้างโอกาสและอาชีพในการหารายได้จากทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่มาปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยและจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเกิดเป็นธุรกิจขนาดย่อมในชุมชนด้วย ควบคู่กับเดินหน้าโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ปรับตัวสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ ตั้งเป้า 10 ปี ต้องเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้ได้ 300,000 ไร่

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ทช. ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนร่วมคิดร่วมทำ ผ่านแนวทางการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ การปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของไทยสำคัญต่อระบบนิเวศ เป็นแหล่งสร้างอาหาร แหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้ประเทศจำนวนมาก แต่ขณะนี้พบมีการทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทั้งโดยเจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์จำนวนมาก ประกอบกับ ทช. มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทั้งประเทศ จำเป็นจะต้องอาศัยพลังของเครือข่ายประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมพิทักษ์รักษาดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  25 พฤษภาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำชับให้กรมชลประทานและกรุงเทพมหานครเร่งบริหารจัดการน้ำให้พร้อมรับมือฤดูฝนนี้

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (25 พ.ค.66) ว่า กอนช. ยังได้เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าแผนปฏิบัติ 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้อย่างเคร่งครัด โดยกรมชลประทานได้ปรับ 12 มาตรการรับฤดูฝนสู่ 6 แนวทางปฏิบัติของกรมชลประทาน คือ กักเก็บเต็มประสิทธิภาพ // คาดการณ์พื้นที่เสี่ยง // หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง // ระบบชลประทานเร่งระบาย // เตรียมพร้อมเครื่องมือเครื่องจักร และสุดท้าย แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ พร้อมจัดสรรเครื่องจักร-เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำประจำอยู่ทั่วประเทศรวม 5,382 หน่วย ส่วนกรุงเทพมหานครได้เตรียมพร้อมแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เขตประเวศและติดตั้งครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมบริเวณจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม พร้อมแก้ปัญหาจุดเสี่ยงพื้นที่เอกชนบริเวณหมู่บ้านเมืองทอง 2/4

ขณะที่สภาพอากาศมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับ มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก แต่ยังคงมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  24 พฤษภาคม 2566

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ขอให้ประชาชนระมัดระวังการใช้น้ำจากแหล่งน้ำต่างๆช่วงต้นฤดูฝน อาจเกิดการปนเปื้อนสารต่างๆจากการชะล้างของน้ำฝนบนผิวดิน โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนของทุกปี

นายพิทยา ปราโมทย์วรพันธุ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ประเทศไทย เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว โดยช่วงต้นฤดูฝนจะมีการชะล้างสิ่งปนเปื้อนต่างๆลงสู่แหล่งน้ำเป็นจำนวนมาก เช่น น้ำเสียที่ตกค้างอยู่ในท่อระบายน้ำเสีย น้ำชะจากพื้นที่เกษตร น้ำฝนที่ชะกองวัสดุสารเคมีและวัตถุอันตรายต่างๆ อาจทำให้คุณภาพน้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เช่น ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ความเป็นกรด - ด่าง และความขุ่นของน้ำอย่างรวดเร็วหลังฝนตก ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและระบบนิเวศ จากการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดินทั่วประเทศช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูฝนพบแหล่งน้ำจะอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมเพิ่มมากขึ้น หรืออยู่ในเกณฑ์แหล่งน้ำประเภทที่ 4 สามารถใช้ประโยชน์เพื่อการอุตสาหกรรม ส่วนการใช้ประโยชน์เพื่อการอุปโภค-บริโภคต้องผ่านการฆ่าเชื้อโรคตามปกติ และผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำเป็นพิเศษก่อน ทั้งนี้ ผลกระทบที่เกิดจากการชะล้างสิ่งปนเปื้อนช่วงต้นฤดูฝนส่งผลให้น้ำมีความขุ่นและตะกอนแขวนลอยเพิ่มขึ้นเกิดผลกระทบต่อสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาจะมีปัญหาแลกเปลี่ยนออกซิเจนของเหงือกจนทำให้ปลาตายได้ครั้งละมากๆในระยะเวลาอันสั้น หรืออาการน็อคน้ำ (Fish kill) โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังควรเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสัตว์น้ำ เช่น เตรียมเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจน เมื่อฝนหยุดตกควรเปิดเครื่องตีน้ำและควรลดปริมาณอาหารให้น้อยลง หรืองดให้อาหารในวันที่ฝนตก เพื่อลดปริมาณของเสียบริเวณกระชัง

รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวย้ำว่า คพ. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนป้องกันปัญหาคุณภาพน้ำช่วงฤดูฝน ด้วยการจัดเก็บสารเคมีและวัตถุอันตรายที่ใช้ในการเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบ้านเรือนให้อยู่ในที่ปลอดภัยและพ้นน้ำ ดูแลบ่อเก็บกักน้ำเสียหรือบ่อบำบัดน้ำเสียและสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย ไม่ให้เกิดการรั่วไหลลงสู่แหล่งน้ำหรือออกสู่สิ่งแวดล้อม หากพบปัญหาน้ำเสียหรือสารเคมีรั่วไหลประชาชนสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินมายังกรมควบคุมมลพิษผ่านทางสายด่วน 1650


สำนักข่าว กรมปราะชาสัมพันธ์  23 พฤษภาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกหนักหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลากใน 17 จังหวัด ช่วงวันที่ 27 พฤษภาคม – 1 มิถุนายนนี้

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ออกประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก ฉบับที่ 4 หลัง กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมประเทศลาวและกัมพูชา ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 27 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน เบื้องต้นได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำนองไม่สามารถระบายได้ทันใน ภาคเหนือ คือ เพชรบูรณ์ บริเวณอำเภอหล่มเก่า // ภาคกลาง คือ เพชรบุรี บริเวณอำเภอท่ายาง บ้านลาด และเมืองเพชรบุรี , ประจวบคีรีขันธ์ บริเวณอำเภอหัวหิน และปราณบุรี // ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สุรินทร์ บริเวณอำเภอเมืองสุรินทร์ , บุรีรัมย์ บริเวณอำเภอเมืองบุรีรัมย์ , อุบลราชธานี บริเวณอำเภอเมืองอุบลราชธานี และพิบูลมังสาหาร // ภาคตะวันออก คือ ชลบุรี บริเวณอำเภอเมืองชลบุรี , ระยอง บริเวณอำเภอเมืองระยอง และแกลง , จันทบุรี บริเวณอำเภอเมืองจันทบุรี , ตราด บริเวณอำเภอเมืองตราด และเขาสมิง // ภาคใต้ คือ ชุมพร บริเวณอำเภอพะโต๊ะ , ระนอง บริเวณอำเภอกะเปอร์ เมืองระนอง และสุขสำราญ , พังงา บริเวณอำเภอกะปง คุระบุรี ตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง , ภูเก็ต บริเวณอำเภอกะทู้ ถลาง และเมืองภูเก็ต , กระบี่ บริเวณอำเภอเกาะลันตา คลองท่อม เมืองกระบี่ เหนือคลอง และอ่าวลึก , ตรัง บริเวณอำเภอเมืองตรัง กันตัง และปะเหลียน , สตูล บริเวณอำเภอทุ่งหว้า

ทั้งนี้ กอนช.ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำนองไม่สามารถระบายได้ทัน พร้อมเตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และลอกท่อระบายน้ำ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  22 พฤษภาคม 2566

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดรับฟังความคิดเห็นการกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับอาหารสัตว์ถึงวันที่ 15 มิถุนายนนี้ เพื่อควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงาน

นายพิทยา ปราโมทย์วรพันธุ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากการประกอบกิจการเกี่ยวกับอาหารสัตว์ หรือโรงงานปรับคุณภาพของเสียรวมบำบัดน้ำเสียไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ปล่อยทิ้งลงสู่แหล่งน้ำลำคลองสาธารณะ ทำให้ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้กำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับอาหารสัตว์ เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุดิบ กระบวนการผลิต มลพิษที่เกิดขึ้น เทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสีย และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน โดย คพ.ยังได้เปิดรับฟังความคิดเห็น ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับอาหารสัตว์ พ.ศ. ....เพื่อให้ประชาชนและภาคส่วนต่างๆเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถให้ความเห็นได้ถึงวันที่ 15 มิถุนายนนี้ จากนั้นจะรวบรวมความคิดเห็นเสนอขอความเห็นชอบจากคณะทำงานกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับอาหารสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างพิจารณาต่อไป


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  21 พฤษภาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำชับให้กรุงเทพมหานครเร่งแผนรับมือฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะจุดเสี่ยงน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังก่อสร้างแนวป้องกันให้แล้วเสร็จทั้งหมดในเดือนมิถุนายนนี้

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (21 พ.ค.66) ว่า กอนช. ได้เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าแผนปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้อย่างเคร่งครัด เช่น กรุงเทพมหานคร เตรียมพร้อมรับมือฤดูฝน ด้วยการจัดทำจุดเสี่ยงน้ำท่วมในระดับเขตและระดับสำนัก ภายใต้บทเรียนจากปีที่ผ่านมา ภาพรวมหลายโครงการคืบหน้าตามงบประมาณที่ลงทุน ทั้งเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาและการลอกท่อต่างๆ แล้วมีหลายโครงการใกล้เสร็จเรียบร้อย และมีบางโครงการอยู่ระหว่างรองบประมาณ สำหรับปีนี้คาดรับมือน้ำท่วมได้ดีกว่าปีที่แล้ว ทั้งนี้ ยังได้ติดตามความก้าวหน้างานก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเตรียมพร้อมรับมือช่วงน้ำหลากและน้ำทะเลหนุนสูง ขณะนี้งานก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงคลองสาทรถึงซอยเจริญกรุง 58 ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วร้อยละ 95 ส่วนงานก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณองค์การสะพานปลาก่อสร้างไปแล้วร้อยละ 87 โดยงานก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมทั้ง 2 งานคาดจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ยังดำเนินการลดจุดเสี่ยงน้ำท่วมจากการคาดการณ์ช่วง 3 เดือนแรกของฤดูฝนปีนี้จะมีปริมาณน้ำน้อยกว่าปีที่แล้วร้อยละ 5 จึงให้เขตลาดกระบังทำเขื่อนกั้นน้ำเพื่อสำรองน้ำให้เกษตรกรใช้หน้าแล้ง และน้ำสำหรับดูแลต้นไม้ในสวนสาธารณะต่างๆด้วย


  1. ก.ทรัพย์ เตรียมจัดกิจกรรมเนื่องในวันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ ประจำปี 66 หวังสร้างรู้ความเข้าใจด้านความหลากหลายทางชีวภาพมาใช้สนับสนุนการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพ
  2. กรมอุทยานฯ และ ทช. ร่วมกันเร่งศึกษาวิจัยและการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น
  3. กอนช. กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้บริหารจัดการน้ำตามแผนรับมือฤดูฝนปีนี้ หลังประเทศไทยมีแนวโน้มเข้าสู่สภาวะเอลนีโญ
  4. พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปี2566 พระยาแรกนาเสี่ยงทายหยิบผ้าได้ 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนา จะได้ผลบริบูรณ์ พระโคกินหญ้าและเหล้า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร การค้าขายกับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจรุ่งเรือง
© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.