• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  5 มิถุนายน 2566

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกันเปลี่ยนโลก ด้วยการลด-ละ-เลิก พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เพื่อลดมลพิษจากขยะพลาสติก เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ขณะที่ภาพรวมสามารถลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วและโฟมบรรจุอาหารได้กว่า 3,414 ล้านใบ

นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กล่าวว่า เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ประจำปี 2566 ตรงกับวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกันเปลี่ยนโลก ด้วยการลด-ละ-เลิก พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว single-use plastics เพื่อลดมลพิษจากขยะพลาสติก โดยทุกคนสามารถช่วยโลกได้เพียงเริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้ ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนการจัดการขยะพลาสติกร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องมาโดยตลอดผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมรณรงค์ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดรับลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก” ในตลาดสดเทศบาลกว่า 7,000 แห่ง สามารถลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วและโฟมบรรจุอาหารได้กว่า 3,414 ล้านใบ หรือประมาณ 9,824 ตัน // กิจกรรมรณรงค์ “Everyday Say No To Plastic Bags” ร่วมกับเครือข่ายห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 – ธันวาคม 2565 สามารถลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วแบบใช้ครั้งเดียวรวมกว่า 14,349 ล้านใบ หรือประมาณ 81,531 ตัน // โครงการเปลี่ยนพลาสติกเป็นบุญ (เมื่อคุณหมุนเวียน) รับบริจาคพลาสติกแข็งและพลาสติกยืด โดยตั้งจุดรับคืนพลาสติก (Drop Point) นำกลับไปรีไซเคิลหรือเพิ่มมูลค่ากลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ (Upcycling) สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกแบบบางในภาพรวมลดลงร้อยละ 43 หรือประมาณ 148,699 ตัน // โครงการร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop) และโครงการอื่นๆที่ยังดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  4 มิถุนายน 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ 22 จังหวัด ช่วงวันที่ 7 – 11 มิถุนายนนี้

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ออกประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ฉบับที่ 5 หลังพบจะมีร่องมรสุมพาดผ่าน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมและมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้จะยังมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านรับมรสุม และมีฝนตกหนักบางแห่งช่วงวันที่ 7 – 11 มิถุนายน เบื้องต้นได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน คือ ภาคเหนือ ใน จ.เชียงใหม่ บริเวณอำเภอเชียงดาว แม่แจ่ม แม่วาง กัลยาณิวัฒนา จอมทอง สะเมิง อมก๋อย และฮอด // แม่ฮ่องสอน บริเวณอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน แม่ลาน้อย แม่สะเรียง ขุนยวม ปางมะผ้า ปาย และสบเมย // ลำพูน บริเวณอำเภอทุ่งหัวช้าง แม่ทา บ้านโฮ่ง และป่าซาง // ตาก บริเวณอำเภอแม่ระมาด แม่สอด พบพระ ท่าสองยาง และอุ้มผาง // แพร่ บริเวณอำเภอเด่นชัย // พิจิตร บริเวณอำเภอบางมูลนาก // อุตรดิตถ์ บริเวณอำเภอฟากท่า // นครสวรรค์ บริเวณอำเภอบรรพตพิสัย // เพชรบูรณ์ บริเวณอำเภอวิเชียรบุรี // อุทัยธานี บริเวณอำเภอหนองขาหย่าง ขณะที่ภาคตะวันออก ใน จ.ฉะเชิงเทรา บริเวณอำเภอบ้านโพธิ์ // สระแก้ว บริเวณอำเภอวัฒนานคร // ชลบุรี บริเวณอำเภอพานทอง // ระยอง บริเวณอำเภอเมืองระยอง บ้านค่าย และแกลง // จันทบุรี บริเวณอำเภอเมืองจันทบุรี แหลมสิงห์ และขลุง // ตราด บริเวณอำเภอเกาะกูด เกาะช้าง เขาสมิง เมืองตราด แหลมงอบ และคลองใหญ่ ส่วน ภาคใต้ ใน จ.ระนอง บริเวณอำเภอกะเปอร์ เมืองระนอง และสุขสำราญ // พังงา บริเวณอำเภอกะปง คุระบุรี ตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง // ภูเก็ต บริเวณอำเภอกะทู้ ถลาง และเมืองภูเก็ต // กระบี่ บริเวณอำเภอคลองท่อม เกาะลันตา เมืองกระบี่ เหนือคลอง และอ่าวลึก // ตรัง บริเวณอำเภอเมืองตรัง กันตัง และปะเหลียน // สตูล บริเวณอำเภอละงู และยะลา บริเวณอำเภอรามัน

ทั้งนี้ กอนช.ยังกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน พร้อมเตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก ความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ และพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  3 มิถุนายน 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกหนักจนมีพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก โดยเฉพาะในภาคตะวันออกและภาคใต้ ขณะที่หน่วยงานต่างๆเร่งเตรียมแผนรับมืออุทกภัยและเอลนีโญ

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (3 มิ.ย.66) ว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.อุทัยธานี กาฬสินธุ์ นราธิวาส นครนายก สิงห์บุรี และกาญจนบุรี ทำให้ต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำหลากช่วง 1-3 วัน ในภาคเหนือ บรเิวณ จ.แม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่ // ภาคตะวันออก จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด // ภาคใต้ จ.ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล พร้อมคาดการณ์สถานการณ์ฝน

มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย คือ จังหวัดพังงา บริเวณ อ.ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า คุระบุรี เพื่องพังงา และระนอง บริเวณ อ.เมืองระนอง ทั้งนี้ กอนช. ยังได้เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าแผนปฏิบัติ 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้อย่างเคร่งครัด โดยกรมทางหลวงชนบทเร่งขุดลอกดินโคลนและเศษวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำบริเวณห้วยหินแตก พร้อมติดตั้งกล่องลวดตาข่ายบรรจุหิน (Gabion boxes) ป้องกันกระแสน้ำกัดเซาะตลิ่งและบริเวณเชิงสะพานบนถนนทางหลวงชนบทสาย นค.3026 แยก ทล.211 บ้านเชียงดี (ตอนหนองคาย) อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์อุทกภัยช่วงฤดูฝน รวมถึง การทำความสะอาดช่องทางระบายน้ำ ตัดหญ้า กำจัดวัชพืชที่ขวางทางระบายน้ำ ท่อลอดหรือสะพาน เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน

ขณะเดียวกัน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหน่วยงานในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เดินหน้าแผนรับมือเอลนีโญในพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำปาสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เบื้องต้นรับทราบปัญหาการใช้น้ำในพื้นที่ทั้งปัญหาน้ำลันตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนช่วงน้ำหลากเป็นประจำทุกปี // ดินตะกอนไหลทับถมกลางแม่น้ำป่าสักเกิดการตื้นเชิน // ช่วงหน้าแล้งมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำด้านการอุปโภค-บริโภค ของประชาชนในพื้นที่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการป้องกันตลิ่งและเสริมกันกั้นน้ำแม่น้ำป่าสัก ม.2 ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  2 มิถุนายน 2566

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดให้ท่องเที่ยวฟรีในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทั่วประเทศ สำหรับบุคคลชาวไทยวันที่ 3 มิถุนายนนี้

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ออกประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทั่วประเทศ สำหรับบุคคลชาวไทยและยานพาหนะทั่วประเทศ เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันที่ 3 มิถุนายน 2566 เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมถวายความจงรักภักดีสนองต่อพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึง ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปได้ศึกษา เรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ ครอบคลุมด้านนันทนาการและพักผ่อนหย่อนใจในอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทั่วประเทศ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวติดกัน 3 วัน เหมาะกับการท่องเที่ยวพักผ่อน ทั้งนี้ กรมอุทยานฯขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าและเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด สิ่งสำคัญขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่นำพลาสติก โฟม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าพื้นที่และขอความร่วมมืองดให้อาหารสัตว์ป่าด้วย

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลการปิดแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติต่างๆ ปิดประจำปี เพื่อฟื้นฟูทรัพยากร ปิดเฝ้าระวังเหตุภัยพิบัติ ปิดเพื่อปรับปรุงได้ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  1 มิถุนายน 2566

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่มเติมในเขตเมือง เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ 2566

นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กล่าวว่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ 2566 ปีนี้ ตรงกับวันที่ 3 มิถุนายน บริเวณศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อสร้างและกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ แล้วยังช่วยป้องกัน ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดมลภาวะที่เกิดจากฝุ่นละอองและหมอกควัน เนื่องจากเมืองและชุมชนขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้นไม้และพื้นที่สีเขียวลดลง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลภาวะเป็นพิษจากฝุ่นและหมอกควัน ดังนั้น การเพิ่มพื้นที่สีเขียว หรือการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นจะช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้อย่างดี

สำหรับกิจกรรมมีการเรียนรู้ขั้นตอน วิธีการปลูก บำรุงต้นไม้ พร้อมปลูกป่านิเวศตามทฤษฎีของ ศาสตราจารย์ อาคิระ มิยาวากิ เป็นการปลูกป่าด้วยพันธุ์ไม้พื้นเมืองที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเป็นการปลูกต้นไม้ในใจคนให้เกิดความรักความหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ซึ่งเป็นหนทางนำไปสู่การอนุรักษ์และรู้จักการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานต่อไปในอนาคต จึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกันปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โลก


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  31 พฤษภาคม 2566

คณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พิจารณาขึ้นทะเบียนโครงการและรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกของโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) 14 โครงการ พร้อมเดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศทุกช่องทาง

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ครั้งที่ 6 ได้พิจารณาเรื่องการขึ้นทะเบียนโครงการและรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกของโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) โดยมีการขึ้นทะเบียนโครงการ Standard T-VER 1 โครงการ และการรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกโครงการ Standard T-VER 13 โครงการ รวมทั้ง การอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร 111 องค์กร // คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ 345 ผลิตภัณฑ์ จาก 41 บริษัท // ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือฉลากลดโลกร้อน 58 ผลิตภัณฑ์ จาก 10 บริษัท // คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจหมุนเวียน 11 ผลิตภัณฑ์ จาก 7 บริษัท พร้อมยังได้รับทราบการรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้จากโครงการ LESS และการออกใบประกาศเกียรติคุณ การสรุปผลการประชุมด้านเทคนิคและศึกษาดูงานด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการกักเก็บและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ณ ประเทศญี่ปุ่น และการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดกิจกรรมโครงการป่านิเวศระยองวนารมย์ กลุ่ม ปตท.

ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวย้ำว่า ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. โดยเฉพาะการสร้างผลสัมฤทธิ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสร้างความรู้ความเข้าใจต่อการทำงานของ อบก. 4 เรื่องสำคัญมาใช้ขับเคลื่อน คือ กฎหมายและนโยบาย // นวัตกรรมและเทคโนโลยี // งบประมาณ และสุดท้ายการมีส่วนร่วม โดยขอให้พัฒนางานต่อเนื่องและผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ให้บรรลุเป้าหมายเป็นผลสำเร็จได้


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  30 พฤษภาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากจากฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ของประเทศ ขณะที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตรยังคงขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงแก้ปัญหาฝนทิ้งช่วงในพื้นที่การเกษตร

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (30 พ.ค.66) ว่า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.นครนายก // พังงา // ราชบุรี // เพชรบูรณ์ // สิงห์บุรี และชัยภูมิ ทำให้พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำหลากช่วง 1-3 วันในพื้นที่ภาคเหนือ บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก // ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.ศรีสะเกษ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี // ภาคกลาง จ.ชัยนาท สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี นครนายก นครปฐม พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล // ภาคตะวันออก บริเวณ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด // ภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี ราชบุรี // ภาคใต้ บริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ขณะเดียวกันกรมฝนหลวงและการบินเกษตรยังคงขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงแก้ปัญหาฝนทิ้งช่วงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรใน จ.ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สุพรรณบุรี ขอนแก่น กาญจนบุรี ชุมพร และระนอง พร้อมเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเหนือเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ , เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น , เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี และเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้ กอนช. ยังได้เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าแผนปฏิบัติ 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้อย่างเคร่งครัด โดย กรมเจ้าท่า เร่งขุดลอกแม่น้ำสงคราม ตำบลอ้อมกอ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ระยะทาง 2,350 เมตร โดยขุดลอกเพื่อเพิ่มความกว้างและความลึกของร่องน้ำ และเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำในหน้าน้ำหลากลดปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ทางการเกษตร


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  29 พฤษภาคม 2566

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพแห่งแรกที่ จ.กระบี่ เพื่อยกระดับการสื่อสารสู่พื้นที่และให้ประชาชนน้ำไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด พร้อมเตรียมขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เปิดศูนย์ประสานงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ จังหวัดกระบี่ เป็นศูนย์แห่งแรกของประเทศไทย ที่สามารถใช้ประโยชน์ในการสื่อสาร สร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักถึงเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึง ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในจังหวัด ท้องถิ่น และประชาชนนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจังหวัดกระบี่เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ในหลากหลายมิติและสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เชื่อว่า การดำเนินงานของศูนย์ประสานงานฯแห่งนี้จะเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานยุทธศาสตร์ของจังหวัดกระบี่ ที่จะสามารถเชื่อมโยงทั้งความหลากหลายทางชีวภาพ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าไว้ด้วยกัน โดยจะเป็นศูนย์กลางให้ความรู้ประชาชนและหน่วยงานต่างๆในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวย้ำว่า ในอนาคตจะเปิดศูนย์ประสานงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพในอีกหลายแห่งทั่วประเทศ เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้พร้อมป้องกันบรรเทาปัญหาความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และศูนย์ประสานงานฯนี้จะเป็นบทบาทสำคัญทำให้ทุกภาคส่วนของประเทศไทย ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน มีการทำงานอย่างบูรณาการร่วมกันเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศอย่างยั่งยืน


  1. กรมทรัพยากรธรณี ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากถึง 29 พ.ค.นี้ในพื้นที่ 7 จังหวัด หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง
  2. ก.ทรัพย์ เดินหน้าขับเคลื่อนการเพิ่มคาร์บอนเครดิตในพื้นที่ป่าชายเลน พร้อมตั้งเป้า 10 ปี เพิ่มป่าชายเลนให้ได้ 300,000 ไร่
  3. ทช. เร่งพัฒนาศักยภาพเครือข่ายชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลให้มีประสิทธิภาพ หวังให้เข้ามาช่วยป้องกันทรัพยากรของประเทศให้คงความสมบูรณ์ โดยตั้งเป้า 10 ปี ต้องเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้ได้ 300,000 ไร่
  4. กอนช. กำชับให้กรมชลประทานและกรุงเทพมหานครเร่งบริหารจัดการน้ำให้พร้อมรับมือฤดูฝนนี้
© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.