• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  25 ธันวาคม 2565

คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เตรียมพิจารณาโครงการด้านทรัพยากรน้ำเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนปลายสัปดาห์หน้า

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) จะประชุมในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ พิจารณาขับเคลื่อนโครงการด้านทรัพยากรน้ำเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยเฉพาะการผลักดันและเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างด้านน้ำทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำเดิมและการพัฒนาแหล่งน้ำใหม่ๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็งการบริหารจัดการน้ำของชุมชนในหลายพื้นที่ อย่างเช่นพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำของตนเอง โดยรัฐบาลเน้นให้ความสำคัญการอนุมัติงบประมาณให้กับแหล่งน้ำขนาดเล็ก เพิ่มประสิทธิภาพประปาหมู่บ้าน พัฒนาแหล่งน้ำผิวดิน พัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร สร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหลายโครงการเกิดประโยชน์โดยตรงจนเป็นที่พอใจต่อประชาชน เช่น การอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ทั้งฤดูฝนและหน้าแล้ง , จัดทำแผนงานและโครงการจัดหาน้ำบนดินและใต้ดินเป็นแหล่งน้ำสำรองสำหรับใช้แก้ปัญหาในเชิงพื้นที่ระยะเร่งด่วน , การศึกษาโครงการประตูระบายน้ำป้องกันการรุกล้ำของน้ำเค็มในแม่น้ำสายหลักพื้นที่ภาคกลาง , เร่งขยายผลโครงการพัฒนาน้ำบาดาลในเกษตรแปลงใหญ่ไปทุกพื้นที่อย่างน้อยหนึ่งอำเภอหนึ่งโครงการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวย้ำว่า การดำเนินงานแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปีตั้งแต่ปี 2561 – ปัจจุบัน พบสามารถเพิ่มประสิทธิภาพประปาหมู่บ้านได้ถึง 4,973 แห่ง พัฒนาแหล่งน้ำผิวดินสามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้น 1,189 ล้านลูกบาศก์เมตร พัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรได้ปริมาณน้ำ 149 ล้านลูกบาศก์เมตร การก่อสร้างระบบป้องกันอุทกภัยมีพื้นที่ได้รับการป้องกัน 32,005 ไร่ มีประชาชนได้รับการป้องกัน 27,364 ครัวเรือน สร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชน 14 แห่ง และอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำได้ถึง 156,070 ไร่


สำนักข่าว กรมประาชาสัมพันธ์  24 ธันวาคม 2565

วันนี้ (24 ธ.ค.65) ที่วัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน เป็นประธานเปิดงานร่วมพิธีเปิดมหกรรม ทส.พบประชาชน” ทรัพยากรสร้างคุณค่า พัฒนาคุณภาพชีวิต “Kick off ป่าชุมชนแห่งแรก สู่ตลาดคาร์บอนเครดิต” ณ ป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงความสำคัญของคาร์บอนเครดิตว่า นับเป็นตัวผลักดันสำคัญไม่ใช่เฉพาะในมิติเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเดียวแต่ยังเกี่ยวทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะสร้างรายได้ให้ชุมชน ขอชื่นชมชาวบ้าน ผู้นำชุมชนที่ร่วมกันทำป่าชุมชนขึ้นมานับเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ความสมบูรณ์ของป่า ให้กลายเป็นคาร์บอนเครดิตจะเป็นตัวกระตุ้นให้กับประชาชนทั่วประเทศได้เข้าใจว่าความสำคัญของป่าว่า จากนี้ไปมันมีค่ามากกว่าการจะไปหาของป่า มีค่ามากกว่าการเป็นต้นน้ำหรืออากาศ ที่จะเป็นตัวเร่งคืนความสมดุลให้กับธรรมชาติของประเทศไทยเรา จากที่ผ่านมาต้องเจอปัญหาภัยแล้ง ปัญหาน้ำท่วม มานานนับหลายสิบปี การที่มีคาร์บอนเครดิตจะเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชน เร่งหันกลับมาปลูกต้นไม้มากขึ้น ไม่เพียงคืนสมดุลให้กับธรรมชาติ แต่จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนในระดับรากหญ้าต่อไป กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ป่าชุมชนเพชรบุรี จะเป็นต้นแบบที่สำคัญ ในการนำโมเดล ไปเผยแพร่ส่งต่อข้อมูล และให้กรมป่าไม้ประเมินศักยภาพของคาร์บอนเครดิตในแต่ละพื้นที่ว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างไร รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ให้ผู้สนใจสามารถติดต่อมาได้ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือมาที่บ้านโค้งตาบาง จังหวัดเพชรบุรี ปัญหาปริมาณก๊าซเรือนกระจก จะสามารถดูดซับได้โดยการใช้คาร์บอนเครดิต

สำหรับป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง เพชรบุรี กรมป่าไม้ ได้ให้“บ้านโค้งตาบาง เป็นป่าชุมชนแห่งแรก สู่ตลาดคาร์บอนเครดิต”ซึ่งนับเป็นความสำเร็จ การสร้างธุรกิจใหม่ให้คนไทย ซื้อขายคาร์บอนเครดิต เตรียมยกระดับการขับเคลื่อน การดำเนินงานด้านป่าไม้เพื่อประโยชน์คาร์บอนเครดิต สะท้อนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศไทย การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน เพื่อนำไปสู่การสร้างเครือข่ายในระดับภาคประชาชน ให้เกิดความร่วมมือในการช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือจากประชาชน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  23 ธันวาคม 2565

ที่สถานพัฒนาที่ดินนครราชสีมา สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานวันดินโลก ปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นโดย สถานีพัฒนาที่ดินนครราชสีมา สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 3 เพื่อน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติคุณ ในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาทรัพยากรดินเพื่อการเกษตร รวมทั้งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับวันดินโลก เพื่อให้ประชาชนทั่วไปจะได้มีส่วนร่วมตระหนักรู้ และปกป้องรักษาดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ ถ้าดินมีคุณภาพดี ย่อมผลิตพืชผลที่มีคุณค่าทางโภชนาการ อันจะส่งผลถึงความมั่นคงและปลอดภัยทางอาหารและสิ่งแวดล้อมที่ดี สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ แสดงพระอัจริยะภาพ

ด้านการพัฒนาที่ดิน และแสดงพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นิทรรศการวันดินโลก พิพิธภัณฑ์ดินนครชัยบุรินทร์ การมอบประกาศเกียรติคุณแก่หมอดินอาสา ที่น้อมนำแนวพระราชดำริด้านการดูแลทรัพยากรดิน นิทรรศการกลางแจ้ง ได้แก่ แปลงเกษตรผสมผสาน ทุ่งปอเทือง จุดเรียนรู้การทำน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมักชีวภาพ และเวทีเสวนาหมอดินอาสา ตลาดนัดสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น พร้อมทั้งความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ จากหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เป็นต้น


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  22 ธันวาคม 2565

Kick Off โครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี

วันที่ 22 ธันวาคม 2565 เวลา 13.30 น. นางเพชรรัตน์ เลิศรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ลงพื้นที่อำเภอท่าหลวง เพื่อติดตามการขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเป็นประธานการเปิดโครงการ Kick Off การจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอท่าหลวง โดยมอบถังขยะเปียกลดโลกร้อนให้กับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขยายผลการดำเนินงานต่อไป ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้สาธิตวิธีการใช้งานและการทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน พร้อมทั้งเยี่ยมชมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลท่าหลวง อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี

โดยกระทรวงมหาดไทยกำหนดนโยบายการจัดการขยะ ดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศและนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ว่า ประเทศไทยพร้อมยกระดับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเต็มที่ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2593 (ค.ศ.2050) และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี 2608 (ค.ศ. 2065) โดยให้จังหวัดดำเนินโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในครัวเรือน ในโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีเป้าหมายให้ดำเนินการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนให้ครบทุกครัวเรือน สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในการแก้ไขปัญหาขยะ ตามแผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน "จังหวัดสะอาด" ที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 ภายใต้กรอบการดำเนินงาน 3 ระยะ คือการลดปริมาณขยะ การส่งเสริมการคัดแยกขยะที่ต้นทาง, การจัดทำระบบเก็บขนอย่างมีประสิทธิภาพ และการกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  21 ธันวาคม 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกหนักในภาคใต้ต่อเนื่อง พร้อมให้หน่วยงานต่างๆเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (21 ธ.ค.65) ว่า ภาพรวมภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาฝนตกหนักมากบริเวณ จ.ยะลา , นราธิวาส และสงขลา ทำเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ เช่น กรมทรัพยากรน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว 5 เครื่อง พร้อมเร่งเดินเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อผลักดันน้ำออกจากพื้นที่บริเวณ สวน 72 พรรษาเฉลิมพระเกียรติ ต.บ่อยาง , กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา , บ้านทุ่งใหญ่ หมู่ที่ 3 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา , ถนนสายหน้าสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ชุมชนบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนประมาณ 700 ครัวเรือน

สำหรับประตูระบายน้ำคลองท่าแนะระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงต้องปรับการระบายน้ำจากเดิม 1 เมตร เพิ่มเป็น 1.50 เมตร แล้วต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งและท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ ตำบลชะมวง ตำบลควนขนุน ตำบลโตนดด้วน ตำบลพนมวังก์ ตำบลดอนทราย ตำบลปันแต ตำบลพนางตุง ตำบลมะกอกเหนือ ตำบลแหลมโตนด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  20 ธันวาคม 2565

วันนี้ (20 ธันวาคม 2565) เวลา 09.00 น. ณ โดมอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแห อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมบริหารจัดการขยะในชุมชน ภายใต้โครงการ “1 ครัวเรือน 1 อถล. 1 ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแห ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566” โดยมี นายศักดิ์ดา บรรดาศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง นายอำเภอเมืองอ่างทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแห กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรม

โครงการ “1 ครัวเรือน 1 อถล. 1 ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแห มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรณรงค์ให้หน่วยงานราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชน เกิดพฤติกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม และเป็นการส่งเสริมการสร้างวินัยในการคัดแยกขยะมูลฝอยที่ต้นทางอย่างถูกวิธี โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรม สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

ในการนี้ ได้มอบอุปกรณ์สำหรับสาธิตการดำเนินการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน จากนั้นได้ดำเนินการฝังถังขยะเปียกลดโลกร้อน บริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแห


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  19 ธันวาคม 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ต่อเนื่อง พร้อมหยุดการระบายน้ำของเขื่อนบางลางถึงวันนี้ เพื่อลดผลกระทบการเกิดอุทกภัยให้ประชาชน

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (19 ธ.ค.65) ว่า ภาพรวมภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ โดยช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาฝนตกหนักมากบริเวณ จ.นราธิวาส , ปัตตานี และสงขลา ทำให้ต้องหยุดการระบายน้ำของเขื่อนบางลางถึงวันนี้ (19 ธ.ค.65) เพื่อบรรเทาและลดผลกระทบกับประชาชน บริเวณท้านเขื่อนในพื้นที่จังหวัดยะลาและปัตตานี ส่วนประตูระบายน้ำคลองท่าแนะ พบระดับน้ำหน้าประตูระบายน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงต้องปรับการระบายน้ำจากเดิม 1 เมตร เพิ่มเป็น 1.50 เมตร โดยต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งและท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ ตำบลชะมวง ควนขนุน โตนดด้วน พนมวังก์ ดอนทราย ปันแต พนางตุง มะกอกเหนือ แหลมโตนด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

ทั้งนี้ กอนช. ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างหลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำหลากและน้ำล้นตลิ่งหลายพื้นที่ จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและเฝ้าระวัง พร้อมแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบและเตรียมความพร้อม คือ แม่น้ำปัตตานี ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หากยังมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำปัตตานีบริเวณพื้นที่ชุมชนบ้านบริดอ บ้านจางา ตำบลปะกาฮะรัง ตำบลบาราเอาะ ตำบลตะลุโบะ พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำปัตตานีในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี อำเภอเมือง และริมคลองตุยง บ้านโคกยาร่วง ตำบลลิปะสะโง อำเภอหนองจิก ตำบลแม่ลาน ตำบลป่าไร่ ตำบลม่วงเตี้ย อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด // แม่น้ำสายบุรี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นประมาณชั่วโมงละ 10 - 15 เซนติเมตร หากยังมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง ตำบลตะโละดือรามัน ตำบลปล่องหอย อำเภอกะพ้อ ชุมชนบ้านตะพา ชุมชนบางตาหยาด ชุมชนลาเมาะทะเล ชุมชนลาเมาะบก ตำบลตะลุบัน ตำบลกะดุนง ตำบลมะนังดาลำ ตำบลตะบิ้ง ตำบลปะเสยะวอ อำเภอสายบุรี และพื้นที่ลุ่มต่ำริมคลองกอตอ ตำบลตะโละไกรทอง อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณฝนที่ตกลงมา


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  18 ธันวาคม 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ 10 จังหวัด พร้อมระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งด้วย

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (18 ธ.ค.65) ว่า ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาฝนตกหนักมากบริเวณ จ.นราธิวาส , พัทลุง และสงขลา ทำให้ต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขังบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส พร้อมเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ของ แม่น้ำตาปี แม่น้ำพุมดวง แม่น้ำปากพนัง แม่น้ำตรัง คลองชะอวด แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำโก-ลก รวมทั้ง เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุดแล้วมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.