• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  26 กรกฎาคม 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงกลางคืนวันที่ 28 กรกฎาคม – 1 สิงหาคมนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงกลางคืนวันที่ 28 กรกฎาคม – 1 สิงหาคมนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ออกประกาศเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 22 เนื่องจากพบสภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียงช่วงวันที่ 28 กรกฎาคม – 1 สิงหาคมนี้ เวลาประมาณ 19.00 - 22.00 น. เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับ กรมชลประทานได้ประกาศแจ้งการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,000 – 1,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเพิ่มสูงขึ้น คาดการณ์ว่าช่วงดังกล่าวระดับน้ำอาจมีความสูงประมาณ 1.90 – 2.10 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง อาจส่งผลกระทบต่อบริเวณพื้นที่ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมแม่น้ำและเสริมคันบริเวณจุดเสี่ยงบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำ แนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตามริมแม่น้ำทราบล่วงหน้า และปรับแผนบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ และประตูระบายน้ำ เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  25 กรกฎาคม 2565

กรมชลประทาน เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หลังฝนตกติดต่อกันหลายวัน พร้อมบริหารจัดการน้ำตามเกณฑ์ ลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ว่า ปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 42,776 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 56 ของความจุอ่าง ยังสามารถรับน้ำได้อีก 33,308 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำรวมกัน 10,274 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 41 ของความจุอ่าง สามารถรับน้ำได้อีก 14,597 ล้าน ลบ.ม. และเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มมากขึ้น

กรมชลประทาน ได้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมบริหารจัดการน้ำตามเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งประกาศแจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบได้รับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ทำให้การบริหารจัดการน้ำยังคงเป็นไปตามแผน ทั้งนี้ จากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 25-28 กรกฏาคมนี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 29-31 กรกฏาคมนี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้

จึงได้กำชับให้โครงการชลประทาน และสำนักเครื่องจักรกลในพื้นที่เสี่ยง ให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำตามเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งพิจารณาปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ ใช้ระบบโทรมาตรมาช่วยในแจ้งเตือนประชาชนก่อนการระบายน้ำ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด พร้อมขอให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำจากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  24 กรกฎาคม 2565

วันนี้ (24 กรกฎาคม 2565) เวลา 14.00 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท นายอรรถสิทธิ์ อึ้งเหมอนันต์ อุตสาหกรรมจังหวัดนครสวรรค์ และ นายชัยยุทธ์ เทพยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไร่พัฒนา เดินทางลงพื้นที่วัดหัวหว้าและชุมชนตำบลไร่พัฒนา เพื่อตรวจสอบกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากโรงงานปล่อยน้ำเสียลงคลองชลประทาน

จากการตรวจสอบพบว่าโรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ที่ ต.หนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยประชาชนได้แจ้งความเสียหายไปยัง นายชัยยุทธ์ เทพยา นายก อบต.ไร่พัฒนา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่โรงงานปล่อยน้ำไหลลงคลองชลประทานไปสู่พื้นที่ จ.ชัยนาท เนื่องจากเป็นน้ำมีลักษณะเป็นน้ำเสีย มีสีเขียว มีกลิ่นเหม็น คาดว่ามาจากเยื่ออ้อยที่ใช้ในการผลิตของโรงงาน

เบื้องต้นทางอุตสาหกรรมจังหวัดนครสวรรค์ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นจริง โดยในรายละเอียดของ EIA มีการอนุโลมให้สามารถนำน้ำไปใช้กับเกษตรกรได้ แต่พบว่าระบบกักเก็บน้ำมีปัญหา จึงได้สั่งการให้โรงงานแก้ไขและดำเนินการ โดยห้ามโรงงานปล่อยน้ำลงคลองชลประทานอีกเด็ดขาด หากจำเป็นต้องนำน้ำออกให้ทำระบบท่อไปสู่แปลง โดยผ่านการทำ MOU ระหว่างโรงงานและเกษตรกรรายแปลงไป และต้องมีระบบจัดการน้ำที่ดี นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้โรงงานทำพื้นที่รับน้ำหรือบ่อกักเก็บเพิ่มเติม โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้องตาม EIA ต่อไป

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหารือร่วมกัน เนื่องจากโรงงานและพื้นที่ที่เกิดปัญหาคาบเกี่ยวระหว่างจังหวัดนครสวรค์และจังหวัดชัยนาท จำเป็นต้องหารือและประสานความร่วมมือกับหลายฝ่ายเพื่อแก้ไขปัญหา พรัอมกับเน้นย้ำให้มีการตรวจสอบสารเคมีในน้ำเสียที่ปล่อยลงสู่แม่น้ำ หวั่นกระทบต่อคุณภาพน้ำ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน และระบบนิเวศ ขอให้เร่งประสานโรงงานต้นเหตุ เพื่อให้กระบวนการแก้ปัญหาเป็นไปอย่างเบ็ดเสร็จครบถ้วน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  23 กรกฎาคม 2565

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในรายการ “คุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี” ผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถึงสถานการณ์ความมั่นคงด้านอาหารของไทย ว่า ในฐานะผู้แทน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ที่ผ่านมาทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยประสบวิกฤติเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในส่วนของประเทศไทย รัฐบาลมีโนบายบริหารจัดการและออกมาตรการดูแลประชาชนควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกภาคส่วน ซึ่งภาคการเกษตรก็เป็นอีกหนึ่งกลไกและฟันเฟืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรให้มีอาชีพสร้างรายได้ สามารถผลิตอาหารที่มีคุณภาพส่งออกไปไปจำหน่ายทั่วโลก และมีเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ เช่น ข้าวที่สามารถผลิตได้มากกว่า 20 ล้านตันต่อปี ใช้บริโภคภายในประเทศประมาณ 12-13 ล้านตันที่เหลือสามารถส่งออกนำรายได้เข้าประเทศ รวมถึง มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ผลิตภัณฑ์จากไก่ สินค้าประมง เป็นต้น

โดยช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคมที่ผ่านมา ไทยสามารถส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นถึง 700,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 550,000 ล้านบาท จึงยันยันได้ว่าประเทศไทยมีความมั่นคงด้านอาหาร ไม่มีขาดแคลนอย่างแน่นอน แม้ปัจจุบันประเทศไทยจะประสบปัญหาปัจจัยด้านการผลิต โดยเฉพาะราคาปุ๋ยเคมี ที่ปรับตัวสูงขึ้น จากปัญหาความขัดแย้งในต่างประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อกลไกการนำเข้า-ส่งออกสินค้าในตลาดโลกมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร โภคภัณฑ์ในหลายประเภท ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว นอกจากการสร้างความรู้ให้แก่เกษตรกรในการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างถูกต้องแล้ว รัฐบาลจะมีการส่งเสริมให้มีการสร้างโรงงานผลิตปุ๋ย โพแทสเซียม ภายในประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมีแร่ธาตุที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตปุ๋ย รวมถึงการนำของเหลือใช้ภายในประเทศมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ ควบคู่การเจรจานำเข้าเข้าปุ๋ยกับประเทศผู้ผลิตปุ๋ยในราคาที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนปุ๋ยและสามารถนำมาทดแทนการนำเข้าแก้ไขปัญหาระยะยาวได้

เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงด้านอาหารเอเปค ครั้งที่ 7 โดยประเทศไทยจะใช้โอกาสจากเวทีการประชุมดังกล่าวผลักดันประเด็นหลักที่จะช่วยสนับสนุนโยบายความมั่นคงด้านอาหารและครัวไทยสู่ครัวโลก ในการผลิตสินค้าที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ พร้อมแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความมั่นคงอาหารในภูมิภาค และจะมีการรับรองปฏิญญาความมั่นคงอาหารเอเปคร่วมกับสมาชิกเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  22 กรกฎาคม 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ประชาชนระวังฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก- ดินถล่มใน 6 จังหวัด

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (22 ก.ค.65) ว่า ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกสูงสุดบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี 243 มิลลิเมตร , กรุงเทพมหานคร 137 มิลลิเมตร และชลบุรี 122 มิลลิเมตร พร้อมเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก- ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วัน บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ชัยภูมิ และตราด ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำแหล่งน้ำทุกขนาด 45,025 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 55 พร้อมเฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง คือ กิ่วคอหมา กิ่วลม และน้ำพุง

ทั้งนี้ กอนช. ยังคงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ามาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้ต่อเนื่อง อย่างกรมโยธาธิการและผังเมืองเร่งเสริมกำลังเรือกำจัดผักตบชวาและขุดลอกคูคลองในพื้นที่รับผิดชอบแม่น้ำสายหลัก 2 สาย คือ แม่น้ำแม่กลอง ตั้งแต่ใต้เขื่อนแม่กลอง ผ่านจังหวัดราชบุรี และสมุทรสงคราม ลงสู่อ่าวไทย และแม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่ใต้ประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร ลงสู่อ่าวไทย พร้อมสนับสนุนเรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืชเข้าช่วยเสริมกำลังหน่วยงานอื่นในพื้นที่ต่าง ๆ

สำหรับภาพรวมการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในแหล่งน้ำเปิด แหล่งน้ำเชื่อมโยง และในแหล่งน้ำปิดสาธารณะทั่วประเทศของหน่วยงานหลักตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ถึงปัจจุบัน รวมทั้ง ในแหล่งน้ำที่ได้จากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA พบสำรวจได้ 1,909 จุด สามารถกำจัดผักตบชวาไปแล้ว 5,775,179 ตัน แบ่งเป็น กรมโยธาธิการและผังเมืองกำจัดได้ 933,501 ตัน // กรมชลประทาน 3,396,468 ตัน // กรมเจ้าท่า 496,154 ตัน // กรุงเทพมหานคร 255,275 ตัน // คณะทำงานระดับจังหวัด 551,701 ตัน และกรมประมง 142,080 ตัน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  21 กรกฎาคม 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ประชาชนระวังฝนตกหนักหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตรียมแผนรับมืออุทกภัยใน จ,พิษณุโลก

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (21 ก.ค.65) ว่า ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น มีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักบริเวณ จ.พังงา 175 มิลลิเมตร , กรุงเทพมหานคร 165 มิลลิเมตร และฉะเชิงเทรา 160 มิลลิเมตร พร้อมเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก- ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ จ.แพร่ น่าน ลำปาง พิษณุโลก อุทัยธานี เพชรบูรณ์ ลพบุรี เลย นครราชสีมา ชัยภูมิ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง ตราด และพังงา ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำแหล่งน้ำทุกขนาด 44,925 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 55 พร้อมเฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง คือ กิ่วคอหมา กิ่วลม และน้ำพุง ทั้งนี้ กอนช. ยังคงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ามาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้ต่อเนื่อง อย่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้นำเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล อัตราการสูบ 28,000 ลิตรต่อนาที พร้อมด้วยรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยพร้อมอุปกรณ์เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในเขตพื้นที่ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  20 กรกฎาคม 2565

กรุงเทพมหานคร และ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หารือแนวทางความร่วมมือในการจัดการขยะอย่างเป็นรูปธรรม เล็งปรับภูเขาขยะอ่อนนุชเป็นพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่

วันนี้(20ก.ค.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมหารือร่วมกับผู้บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เรื่องแนวทางความร่วมมือโครงการที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการขยะและปลูกต้นไม้ล้านต้น โดยในที่ประชุม ผู้บริหาร GC ได้นำเสนอโครงการเกี่ยวกับการจัดการขยะที่ผ่านมา ซึ่งได้ดำเนินการร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งโครงการเกี่ยวกับ Waste Management / Recycling / Upcycling พร้อมยกตัวอย่างโครงการที่เคยร่วมมือกับ กทม. อาทิ โครงการแยกขวด ช่วยหมอ ซึ่งนำขวด PET ใช้แล้ว ไปผลิตเส้นใยเพื่อจัดทำชุด PPE ส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ และโครงการมือวิเศษกรุงเทพ ภารกิจแยกเพื่อให้...พี่ไม้กวาด ซึ่งต่อยอดมาจากโครงการแยกขวด ช่วยหมอ โดยนำขยะพลาสติก แปรรูปเป็นชุดปฏิบัติงานให้พนักงานรักษาความสะอาดของกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้บริหาร GC ยินดีที่จะสนับสนุน กทม. ผ่านการจัดทำโครงการต่าง ๆ อาทิ การตั้งจุด Drop-point เพื่อรับขวดพลาสติกจากประชาชนในพื้นที่สาธารณะ จัดทำศูนย์เรียนรู้เพื่อการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ให้ความรู้ในเรื่องของการจัดการขยะ การลดก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการสนับสนุนโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขยะ กทม.เป็นเรื่องใหญ่มาก มีปัญหาในการคัดแยกขยะ ถ้าสามารถทำให้เกิดการแยกขยะตั้งแต่ต้นทางก็จะช่วยให้การเก็บขยะทำได้เร็วขึ้น โดยขณะนี้ กทม.ได้เริ่มเขตนำร่องในการคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบแล้ว และมีคณะทำงานด้านการจัดการขยะแล้ว ซึ่งต่อไปจะให้มีการเชิญ GC เข้าร่วมประชุมหารือด้วยกัน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  19 กรกฎาคม 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 18 จังหวัด ช่วงวันที่ 21-25 กรกฎาคมนี้ จากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ออกประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ฉบับที่ 21 หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ช่วงวันที่ 20 – 24 กรกฎาคม ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เบื้องต้นได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบจะมีปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง ประกอบกับ สถานการณ์น้ำในลำน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติบางพื้นที่ที่ฝนตกหนักอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก อาจส่งผลให้เกิดน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงช่วงวันที่ 21-25 กรกฎาคม คือ เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก - น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ภาคเหนือ บริเวณอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ , อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย , อำเภอบ่อเกลือ เชียงกลาง และเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน , อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ , อำเภอนครไทย และชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก , อำเภอน้ำหนาว เมืองเพชรบูรณ์ และหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี // ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณอำเภอเมืองเลย ด่านซ้าย และท่าลี่ จังหวัดเลย , อำเภอโพนพิสัย และรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย , อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร , อำเภอเมืองบึงกาฬ โซ่พิสัย เซกา ปากคาด บึงโขงหลง ศรีวิไล และบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ , อำเภอบ้านเขว้า และหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ , อำเภอภูเวียง ภูผาม่าน เวียงเก่า และหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น , อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ และยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ , อำเภอเสิงสาง จักราช พิมาย ห้วยแถลง ชุมพวง หนองบุญมาก และลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา , อำเภอนางรอง ละหานทราย ประโคนชัย เฉลิมพระเกียรติ โนนดินแดง โนนสุวรรณ และลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ , อำเภอปราสาท และกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ // ภาคตะวันออก บริเวณอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว , อำเภอเกาะกูด เกาะช้าง และเขาสมิง จังหวัดตราด

ขณะเดียวกัน กอนช. ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน บริเวณแม่น้ำน่านและลำน้ำสาขา แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเลย แม่น้ำชี แม่น้ำมูล และแม่น้ำตราด // เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) 3 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล จังหวัดเชียงใหม่ , อ่างเก็บน้ำลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ , อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ บริเวณเชียงใหม่ น่าน และเพชรบูรณ์ // ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเลย บึงกาฬ ขอนแก่น และนครราชสีมา // ภาคตะวันออก บริเวณสระแก้ว และตราด

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ พร้อมตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ ซ่อมแซมแนวคันบริเวณริมแม่น้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ //วางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำและระดับน้ำในลำน้ำ เพื่อเตรียมพร้อมรับน้ำหลากป้องกันน้ำท่วมให้สามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพ


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.