• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  26 มิถุนายน 2565

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก เฝ้าระวังคุ้มครองฝูงนกเงือกกรามช้างปากเรียบอพยพ หลังพบอพยพมาอยู่บริเวณบ้านปลายคลอง จ.ระนอง เป็นจำนวนมาก

นายพัฒพงค์ มนต์นิมิตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก จังหวัดระนอง และจังหวัดชุมพร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) ได้เฝ้าระวังคุ้มครองนกเงือกกรามช้างปากเรียบอพยพ บริเวณบ้านปลายคลอง ตำบลน้ำจืด อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ซึ่งอยู่นอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก ซึ่งจำเป็นต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยต่อเนื่อง หลังได้รับการแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ ถือเป็นปรากฎการ์ทางธรรมชาติที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์และเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับกลุ่มนกอพยพ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  25 มิถุนายน 2565

กองทัพเรือ จัดกิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ตามแนวพระดำริฯ

พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เป็นประธานจัดกิจกรรมดำน้ำ เพื่อการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ตามแนวพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ณ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง โดยมีผู้แทนจากมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ตามแนวพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้แทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้แทนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้แทนกรมประมง ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง พร้อมด้วยประชาชน และเยาวชนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

การจัดกิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ตามแนวพระดำริฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนองพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ให้มีการรณรงค์การดำน้ำเชิงอนุรักษ์แบบยั่งยืนโดยไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติในทะเล และเป็นการเสริมสร้างความตระหนักรู้และให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล

สำหรับกิจกรรมประกอบด้วย พิธีเปิดกรวยถวายสักการะต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา การเก็บขยะชายหาด การดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล การปล่อยพันธุ์ปลา การปลูกปะการัง และการจัดแสดงนิทรรศการของหน่วยงานร่วมสนองพระดำริ โดยมีศิลปิน ดารา นักแสดง ร่วมกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเลในครั้งนี้ การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ให้แก่นักเรียน และเยาวชน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีแด่พระบรมวงศานุวงศ์

อีกทั้ง เป็นการส่งเสริมงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ อันจะเป็นประโยชน์ในการประสานขอความร่วมมือในการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ในโอกาสต่อไป


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  24 มิถุนายน 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ประชาชนภาคตะวันออกและภาคใต้ระวังฝนตกหนัก ขณะที่กรมชลประทานเร่งกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำในคลองส่งน้ำ เพื่อรองรับฝนตก

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (24 มิ.ย.65) ว่า ภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักบริเวณ จ.อุตรดิตถ์ 151 มิลลิเมตร , เลย 118 มิลลิเมตร และสตูล 108 มิลลิเมตร พร้อมเฝ้าระวังน้ำหลาก – ดินถล่ม บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ เลย พังงา และนราธิวาส ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำแหล่งน้ำทุกขนาด 44,551 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 54 โดย กอนช.ยังคงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ามาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้ต่อเนื่อง อย่างกรมชลประทานเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ด้วยการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำในคลองส่งน้ำ บริเวณพื้นที่ ต.วังเล็ก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี พร้อมขุดลอกตะกอนดินทราย บริเวณปากคลองเชิงแส ต.เชิงแส อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา เพื่อรองรับปริมาณฝนที่ตกลงมา


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  23 มิถุนายน 2565

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ย้ำ ประกาศควบคุมมาตรฐานเตาเผาศพใหม่มีผลบังคับใช้ในกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา เขตเทศบาลนคร และเขตเทศบาลเมืองก่อน เพื่อลดผลกระทบให้กับชุมชนบริเวณใกล้วัด ส่วนนอกเขตเทศบาลบาลมีผลในอีก 3 ปีข้างหน้า

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ออกประกาศเผยแพร่ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดให้เตาเผาศพเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียออกสู่สิ่งแวดล้อม พ.ศ.2565 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยให้มีผลใช้บังคับกับเตาเผาศพในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา เขตเทศบาลนคร และเขตเทศบาลเมือง ส่วนพื้นที่อื่นๆนอกเขตเทศบาลจะมีผลบังคับใช้จากนี้ในอีก 3 ปีข้างหน้า นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เนื่องจากเกิดปัญหาเกี่ยวกับเขม่าควันและกลิ่นจากการเผาศพมีอยู่เป็นระยะ โดยเฉพาะช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่มีการเผาศพจำนวนมากและเผาพร้อมกันหลายวัด พบบางวัดเตาเผาศพยังไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ทำให้ประชาชนในเขตชุมชนได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นจากการเผาศพ เช่น กลิ่น ควัน ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และขี้เถ้าจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง ซึ่งมาจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์หรืออุณหภูมิไม่สูงพอ จนเกิดความเดือดร้อนและมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในชุมชนใกล้เคียง ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้คำแนะนำคณะกรรมการควบคุมมลพิษเห็นสมควรปรับปรุงการกำหนดให้เตาเผาศพเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียออกสู่สิ่งแวดล้อม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ซึ่งพร้อมประชุมรับฟังความคิดเห็นจากสำนักงานสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติและทุกภาคส่วน

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวย้ำว่า สำหรับองค์ประกอบของกลิ่นเผาศพประกอบด้วยก๊าซหลายชนิด เช่น แอมโมเนีย ไฮโดรเจนซัลไฟด์ เมอร์แคปแทน และฟอร์มาลดีไฮด์จากนํ้ายารักษาศพ ทั้งนี้ เตาเผาศพในกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่สามารถควบคุมมลพิษได้ตามมาตรฐานอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเตาเผาแบบ 2 ห้องเผา แล้วผู้ควบคุมเตาเผาศพปลอดมลพิษต้องควบคุมอุณหภูมิตลอดการเผาศพให้สูงกว่า 800 องศาเซลเซียสด้วย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  22 มิถุนายน 2565

ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมานี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและโมเดลเศรษฐกิจ BCG ครั้งที่ 2/2565 โดยมี ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม

โดยที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบการจัดทำแผนการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในภารกิจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ปฏิบัติการ ที่มีแนวทางการดำเนินงานในการจัดเก็บข้อมูลสถานะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ข้อมูลสถานการณ์มลพิษสิ่งแวดล้อม รวมถึงข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นในพื้นที่ นำมารวบรวม และเชื่อมโยงพัฒนาฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การลดขยะ ของเสีย และมลพิษสิ่งแวดล้อม การลดปริมาณคาร์บอนจากกิจกรรมในพื้นที่ ที่จะยกระดับและเพิ่มมูลค่าของการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเพื่อสร้างและกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนบนฐานทรัพยากร

ที่ประชุม ยังได้พิจารณาเห็นชอบ การคัดเลือกพื้นที่ปฏิบัติการ ได้แก่ อุทยานธรณีโลกสตูล พื้นที่สงวนชีวมณฑลดอยเชียงดาว พื้นที่สงวนชีวมณฑลระนอง พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก ป่าชุมชนภูปอบ้านนาอุดม และป่าชุมชนบ้านซับสะเดา เป็นพื้นที่นำร่องโครงการ รวมถึงพิจารณาให้ความเห็นชอบ (ร่าง) คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน ได้แก่ คณะทำงานวิชาการเพื่อพัฒนาแนวทางการประยุกต์ใช้มาตรการป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม คณะทำงานพัฒนาระบบฐานข้อมูลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะทำงานขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในพื้นที่ปฏิบัติการ

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้รับทราบงบประมาณภายใต้ (ร่าง) พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy Model) ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีโครงการที่ได้รับการจัดสรร จำนวน 32 โครงการ อาทิ โครงการส่งเสริมการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ โครงการอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนาแหล่งน้ำและบริหารจัดการน้ำ จำนวน 117 แห่ง และโครงการจัดการป่าสงวนแห่งชาติ อีกด้วย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  21 มิถุนายน 2565

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้วันที่ 3 เมษายนของทุกปี เป็น “วันน้ำบาดาลแห่งชาติ” เพื่อใช้ในการรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนได้น้อมรำลึกและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์กับการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาล และร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานในการร่วมดูแล รักษา ปกป้องทรัพยากรน้ำบาดาลให้เกิดความยั่งยืนตลอดไป

การใช้น้ำบาดาลเริ่มต้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 มีการเจาะน้ำบาดาลบ่อแรกของประเทศ ณ โรงพยาบาลเทียนหัว ย่านเยาวราช กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ วันที่ 3 เมษายน 2565 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  20 มิถุนายน 2565

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เร่งสร้างความมั่นคงด้านน้ำ พร้อมทบทวนกรอบแนวทางและค่าเป้าหมายแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เพื่อปรับปรุงแผนให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและการแก้ปัญหาด้านน้ำในเชิงพื้นที่

นายสราวุธ ชีวะประเสริฐ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า จากการประชุมปฐมนิเทศ “โครงการศึกษาปรับปรุงกรอบแนวทางและค่าเป้าหมายแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี” ร่วมกับหน่วยงานด้านน้ำและคณะกรรมการลุ่มน้ำ 22 ลุ่มน้ำ โดยแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ดำเนินการมาแล้วช่วงระยะเวลาหนึ่ง จึงต้องประเมินผลต่อเนื่องนำไปสู่เป้าหมายของการดำเนินการ ซึ่งผลการประเมินในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาพบมีบางกลยุทธ์หรือแผนงานที่ยังไม่ได้ดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมและยังไม่ได้ขับเคลื่อน แล้วบางกลยุทธ์ต้องปรับปรุงแผนงาน เนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในช่วงระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เช่น สถานการณ์โควิด-19 ทำให้แรงงานคืนถิ่นนำไปสู่ความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งน้ำกินน้ำใช้และน้ำเพื่อการเกษตรเพื่อสร้างรายได้ // ภาวะสงครามที่ทำให้เกิดวิกฤติอาหารโลกนำไปสู่ความต้องการพืชอาหารบางประเภทและการใช้น้ำที่มากขึ้นในบางพื้นที่ // การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการน้ำและภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดภัยพิบัติรุนแรงขึ้น ทั้งอุทกภัย ภัยแล้ง และการรุกตัวของน้ำเค็ม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ยังไม่ได้บรรจุในแผนแม่บทฯน้ำ 20 ปีเดิม จึงต้องปรับปรุงแผนใหม่ให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกและประเทศไทย

รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวย้ำว่า กระบวนการปรับปรุงกรอบแนวทางและค่าเป้าหมายแผนแม่บทฯน้ำ 20 ปี ครั้งนี้ เน้นกระบวนการ Co-Design และการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้การปรับแผนตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง แล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปขับเคลื่อนสู่แผนปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การแก้ปัญหาด้านน้ำในภาพรวมของประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้นจากการอุปโภค-บริโภคน้ำสะอาด มีน้ำใช้สร้างรายได้ ลดความเสียหายจากภัยพิบัติด้านน้ำ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  19 มิถุนายน 2565

นายอรรถพล เจริญชันญา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยภายในงานสัมมนาวิชาการเผยแพร่ผลการดำเนินงานของโครงการวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า ถือเป็นการผลักดันการใช้ประโยชน์จากการศึกษาวิจัย ตั้งแต่ปี 2563 ที่ได้มีการติดตามป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมทางน้ำ อากาศ และขยะสำหรับประเทศไทย รวมถึงมุ่งเน้นการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การใช้วิทยาศาสตร์การวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในการบูรณาการผลผลิตเพื่อให้เกิดความสำเร็จจากผลงานวิจัยและนวัตกรรมสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด จึงได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆมาร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้

ด้าน รศ.ดร.นเรศ เชื้อสุวรรณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เปิดเผยถึงภาพรวมการศึกษาโดยใช้เครื่องมือและวิธีการมาตรฐานในการจัดเก็บตัวอย่างของฝุ่น PM2.5 ซึ่งได้มีการจัดเก็บในเขตพื้นที่ปริมณฑล 5 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดสมุทรปราการ นนทบุรี สมุทรสาคร ปทุมธานี และนครปฐม โดยพบว่า จังหวัดสมุทรสาครจะมีค่า PM2.5 สูงสุดในช่วงฤดูหนาว ขณะที่จังหวัดสมุทรปราการ ค่าฝุ่น PM2.5 จะสูงสุดในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน

ส่วน ผศ.ดร.สุรัตน์ บัวเลิศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยกรณีแหล่งกำเนิดของ PM2.5 เกิดจากฝุ่นบริเวณใกล้ผิวดิน จึงมีนโยบายในการจัดเก็บฝุ่นในชั้นบรรยากาศ โดยจะไม่มีการเข้าใกล้แหล่งกำเนิด หรือหลักเลี่ยงสถานที่ที่อันตราย ซึ่งมีการจัดเก็บตัวอย่างฝุ่นโดยนำมาส่องกล้องขนาดเล็ก เพื่อสังเกตลักษณะของฝุ่นเป็นอย่างไร อีกส่วนนำมาเผา หลังจากนั้นนำตัวอย่างฝุ่นมาวิเคราะห์เพื่อหาองค์ประกอบทางเคมี เช่น Organic Carbon, Elemental Carbon ไอออนที่ละลายน้ำและธาตุอื่นๆ สำหรับการทำ Source Profiles เพื่อหาสัดส่วนแหล่งที่มาของ PM2.5 รวมถึงสังเกตผลและนำกระบวนการที่ได้มาเป็นฐานข้อมูลเพื่อการวิจัยและหาวิธีการแก้ไขต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอความคิดเห็นและแนวทางการป้องกัน การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่แตกต่างกันออกไป แต่มีการเสนอผลลัพธ์ วัตถุประสงค์และผลการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.