• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  18 เมษายน 2566

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุม ครม. ถึงการบูรณาการการทำงานของหลายกระทรวง ในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 โดยเน้นย้ำให้หน่วยงานต่างๆ ติดตามอย่างใกล้ชิด และรายงานให้ทราบทุก 3 วัน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที ซึ่งจากแรงงานภาพถ่ายดาวเทียม จะเห็นว่าจุดความร้อนในประเทศไทยสามารถควบคุมให้ลดลงได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนของประเทศเพื่อนบ้านก็ยังคงเฝ้าระวังอยู่

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้หารือกับผู้นำเมียนมา และผู้นำ สปป.ลาว ผ่านเทเลคอนเฟอเรนซ์แล้ว ซึ่งจะต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป และอาจจะไม่ใช่เฉพาะเพื่อนบ้านในอาเซียนเท่านั้น เพราะยังมีฝุ่นควัน ที่มาจากแถบประเทศอินเดียด้วย ดังนั้นอาจจะต้องนำเรื่องฝุ่น PM2.5 ไปพูดในเวทีต่างๆ ด้วย อย่างไรก็ตามก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการที่ส่วนราชการกำหนดเพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 รวมถึงหมอกและควันด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้มีการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซึ่งปีนี้อาจมีผลกระทบจากสภาพดินฟ้าอากาศที่มีภัยแล้งเข้ามา โดยที่สั่งการให้ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังติดตามข้อมูลสภาพอากาศ ปริมาณฝนที่ตก ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ รวมถึงวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ที่อาจส่งผลให้เกิดภัยแล้งในพื้นที่เพื่อเสนอเป็นข้อมูลในการตัดสินใจด้วย รวมถึงต้องมีแผนเผชิญเหตุ ดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้อย่างทันท่วงที นอกจากนั้นยังสั่งการให้วางแผนการบริหารจัดการน้ำ ทั้งการใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค รวมสินรักษาระบบนิเวศ การเกษตรและอุตสาหกรรม รวมทั้งกำหนดแนวทางการระบายและกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในแหล่งต่างๆ ให้เพียงพอในปีนี้ ตลอดจนทบทวนและจะทำแผนเผชิญเหตุภัยแล้งของจังหวัดให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ ไม่มีการสำรวจพื้นที่หมู่บ้านชุมชนที่เคยเกิดปัญหากรณีขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นประจำอยู่แล้วเพื่อเฝ้าดูไม่ให้มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแผนปฏิบัติการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก

นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานดำเนินการ จัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร ตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้านการเกษตรในช่วงฤดูแล้งและกำหนดมาตรการรองรับในพื้นที่เฝ้าระวัง เสี่ยงขาดเติมน้ำ โดยเฉพาะกรณีพืชที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจ รวมถึงประสานกรมฝนหลวงและการบินเกษตรปฏิบัติการพื้นที่การเกษตร เมื่อสภาวะอากาศเอื้ออำนวย เพื่อกักเก็บน้ำเพิ่มเติมในแหล่งน้ำต่างๆให้ได้มากที่สุด และเตรียมความพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือต่างๆ เพื่อดำเนินการ ทั้งในส่วนพลเรือน ทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง และให้ฝ่ายปกครอง ร่วมกับทหาร ตำรวจ ในพื้นที่สอดส่องทำความเข้าใจและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย โดยเฉพาะการขายคราบน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค รักน้ำเพื่อการเกษตร รวมทั้งสร้างการรับรู้ต่างๆ ให้เข้าใจถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ มาตรการบริหารจัดการน้ำภาครัฐ พี่ให้เกิดความร่วมมือในการใช้น้ำอย่างประหยัด

ที่ประชุม ยังรับทราบ เรื่องที่ประเทศไทย ได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปี สภาผู้ว่าการธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2569 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จากแถลงรายละเอียดให้ทราบในวันพรุ่งนี้ต่อไป


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.