• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  2 กรกฎาคม 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ประชาชนระวังฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (2 ก.ค.65) ว่า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักบริเวณ จ.เชียงราย 149 มิลลิเมตร , เชียงใหม่ 107 มิลลิเมตร และมุกดาหาร 106 มิลลิเมตร ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำแหล่งน้ำทุกขนาด 43,974 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 54 โดย กอนช.ยังคงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ามาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้ต่อเนื่อง อย่างกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งทำโครงการศึกษาและประเมินปริมาณการสูบน้ำบาดาลที่ปลอดภัยในเขตวิกฤตการณ์น้ำบาดาลปีงบประมาณ 2565 ในพื้นที่การเกษตร จ.พระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี เพื่อนำมาเป็นข้อมูลปรับปรุงแบบจำลองทางคณิตศาสตร์น้ำบาดาลในการประเมินสถานการณ์น้ำบาดาล และจัดทำค่าปริมาณการสูบน้ำบาดาลที่ปลอดภัยในเขตวิกฤตการณ์น้ำบาดาล เพื่อการใช้น้ำบาดาลอย่างอนุรักษ์


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  1 กรกฎาคม 2565

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เร่งสร้างบุคลากรคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้และมีทักษะ เพื่อเสริมการปฏิบัติการตอบโต้เหตุฉุกเฉินจากสารเคมี และปกป้องประชาชนจากภาวะมลพิษต่างๆ

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เห็นความจำเป็นและความสำคัญของปัญหามลพิษจากอุบัติภัยสารเคมี การปกป้องประชาชนจากภาวะมลพิษต่างๆ การสร้างบุคลากรคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้และมีทักษะเพื่อเสริม-สนับสนุนการปฏิบัติการตอบโต้เหตุฉุกเฉินจากสารเคมีให้มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน จึงได้จัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การตอบโต้เหตุฉุกเฉินจากสารเคมีระดับเทคนิค” ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อให้ความรู้และทักษะการวางแผนเตรียมการ การฝึกปฏิบัติในการตอบโต้เหตุฉุกเฉินจากสารเคมี การใช้เครื่องมือเพื่อตรวจสอบบ่งชี้กากของเสียและไอระเหยสารเคมีในภาคสนาม แล้วนำความรู้ไปต่อยอดการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบและแก้ปัญหา รวมถึง การสร้างเครือข่ายหน่วยงานท้องถิ่นและภาคประชาชนในพื้นที่ต่อไป หากเกิดเหตุอุบัติภัยสารเคมี สามารถโทรแจ้งได้ที่ สายด่วน 1650 ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเกิดเหตุอุบัติภัยสารเคมีรั่วไหล เหตุระเบิด และเพลิงไหม้โรงงานที่มีการสะสมสารเคมีและวัตถุอันตรายเป็นระยะๆตั้งแต่ปี 2560 – 2564 ประมาณ 180 ครั้ง พบเป็นอุบัติภัยจากโรงงานอุตสาหกรรม 93 ครั้ง // การขนส่งสารเคมี 41 ครั้ง // ไฟไหม้บ่อขยะ 25 ครั้ง // โกดังเก็บสารเคมี 15 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นเหตุเพลิงไหม้โรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการผลิตและแปรรูปพลาสติก โรงงานผลิตสารเคมี โรงงานรีไซเคิล ร้านรับซื้อของเก่าและวัสดุรีไซเคิลไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง ซึ่งในหลายกรณีเมื่อเกิดเหตุแล้วก่อให้เกิดความเสียหายต่อทั้งชีวิต ทรัพย์สิน ผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้าง

สำหรับเหตุการณ์เพลิงไหม้สำคัญช่วงที่ผ่านมาที่กระทบสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่ เช่น เหตุระเบิดเพลิงไหม้โรงงาน บริษัท หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ แรงระเบิดทำให้บ้านเรือนในพื้นที่โดยรอบเสียหายเป็นมูลค่ามากกว่า 400 ล้านบาท มลพิษจากเขม่าควันและไอระเหยสารเคมีส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบในรัศมีไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร // เหตุเพลิงไหม้โรงงานรับกำจัดและรีไซเคิลกากอุตสาหกรรม บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด จังหวัดราชบุรี ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศส่งผลกระทบต่อชุมชนในพื้นที่ด้านท้ายลม


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  30 มิถุนายน 2565

คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) มีมติเดินหน้าแผนบริหารจัดการน้ำประเทศ ด้วยการเร่งรัดโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ 4 โครงการ เพื่อเสริมความมั่นคงด้านน้ำทุกภาคส่วน

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) กล่าวถึงการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติชุดใหม่ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ที่มี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้กำชับให้เร่งรัดขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่และโครงการสำคัญให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย เพื่อสนับสนุนน้ำอุปโภค - บริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม และระบบนิเวศ โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและแนวพระราชดำริมาขับเคลื่อน โดยมีมติเห็นชอบแผนงานโครงการสำคัญด้านทรัพยากรน้ำที่หน่วยงานเสนอรวม 4 โครงการ คือ โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกิ จ.น่าน สามารถส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทาน 35,558 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 8 ตำบล ใน อ.ท่าวังผา ระยะ 7 ปี ระหว่างปี 2567 – 2573 โดยให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้จ่ายค่าชดเชยผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็ว // สถานีสูบน้ำดิบพร้อมระบบท่อส่งน้ำ เพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จ.ปัตตานี ส่งน้ำไปยังพื้นที่ 4 อำเภอ ใน จ.ปัตตานี ประกอบด้วย อ.หนองจิก อ.แม่ลาน อ.โคกโพธิ์ และอ.เมืองปัตตานี ระยะเวลา 3 ปี ระหว่างปี 2567 – 2569 โดยให้ อบจ.ปัตตานี และสำนักงบประมาณ พิจารณาการจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมดำเนินโครงการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง // แผนงานพัฒนาระบบระบายน้ำและจัดการน้ำเสียบริเวณบึงมักกะสันแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคูน้ำ ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมขังและจัดการน้ำเสียช่วงจากถนนวิภาวดีรังสิตบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงและบึงมักกะสันไปจนถึงสนามบินดอนเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมพื้นที่ 81.53 ตารางกิโลเมตร แผนงาน 4 ปี ระหว่างปี 2567 – 2570 โดยให้กรุงเทพมหานครเร่งรัดการดำเนินการลดผลกระทบปัญหาจราจร พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์ควบคุมระบบระบายน้ำ ที่เห็นควรให้นำเสนอผลจากการคาดการณ์และการเกิดสถานการณ์จริง ณ เวลาปัจจุบัน เพื่อแจ้งเตือนประชาชนด้วย และสุดท้าย แผนพัฒนาและอนุรักษ์คลองพระพิมล จ.นนทบุรี-จ.นครปฐม 41 โครงการ ระยะเวลา 6 ปี ระหว่างปี 2565 – 2570 แล้วให้รายงานความก้าวหน้าต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำทราบเป็นระยะ ซึ่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านน้ำบูรณาการแผนงานโครงการโดยใช้ระบบ Thai Water Plan (TWP) และติดตามประเมินผลโดยใช้ระบบ Thai Water Assessment (TWA)

เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวย้ำว่า ที่ประชุมยังให้คณะกรรมการลุ่มน้ำเร่งจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง แผนป้องกัน และภาวะน้ำท่วมทั้ง 22 ลุ่มน้ำ ที่ต้องเชื่อมโยงกับแผนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การป้องกันและแก้ภาวะน้ำท่วมปีนี้มีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรให้ใช้แผนป้องกันและแก้ภาวะน้ำท่วมปีนี้ไปก่อนตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำเสนอ ประกอบด้วย (ร่าง) แผนป้องกันและแก้ภาวะน้ำท่วม // 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้ // แผนปฏิบัติการของหน่วยงานภายใต้ 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้ และสุดท้าย แผนการบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูฝน ซึ่งต้องมีแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนและแผนเผชิญเหตุ ทั้งการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก มีการปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ การกำจัดผักตบชวา การเตรียมพื้นที่ลุ่มต่ำรองรับน้ำหลาก การให้ความช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบเหตุให้เร็วที่สุด และต้องวางแผนการเก็บน้ำสำรองไว้ใช้ช่วงหน้าแล้งด้วย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  29 มิถุนายน 2565

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เร่งจัดทำเขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์ประกอบแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา เพื่อแก้ปัญหาที่ดินที่มีความขัดแย้งมายาวนาน โดยเฉพาะป่าอนุรักษ์ เบื้องต้นสำรวจพบประชาชนถือครองที่ดินแล้วกว่า 310,000 ราย

นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า จากการประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดทำเขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์เพื่อประกอบแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ 2562 และตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ. 2562 ที่อยู่ระหว่างกระบวนการจัดทำกฎหมายลำดับรอง (ร่างพระราชกฤษฎีกา) เพื่อเป็นเครื่องมือยืนยันให้ประชาชนเห็นว่าสามารถแก้ปัญหาที่ดิน ซึ่งเป็นปัญหาที่มีความขัดแย้งมานานให้สำเร็จได้ตามกฎหมายที่กำหนด โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนในทุกพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนและคัดเลือกหมู่บ้านเป้าหมายที่ได้สำรวจแล้ว เพื่อนำมาจัดทำแผนการจัดทำเขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์ ถือเป็นการเตรียมพร้อมการจัดทำแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาตามที่กฎหมายกำหนดให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2566 ทั้งนี้ ได้ขอให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทุกพื้นที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะเป็นนโยบายสำคัญที่ใช้เป็นเครื่องมือยืนยันให้ประชาชนเห็นว่าสามารถแก้ปัญหาที่ดินที่มีความขัดแย้งมานานให้สำเร็จได้ โดยเฉพาะป่าอนุรักษ์ ที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้สำรวจการถือครองที่ดินของประชาชนในเขตป่าอนุรักษ์เสร็จแล้วภายในระยะเวลา 240 วันตามที่กฎหมายกำหนด

ด้าน นายอนันต์ ปิ่นน้อย ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กล่าวว่า กรมอุทยานฯ ได้สำรวจการถือครองที่ดินของประชาชนในเขตป่าอนุรักษ์ในพื้นที่ 227 แห่งเสร็จแล้ว พบมีประชาชนถือครองที่ดิน 316,560 ราย รวม 468,256 แปลง เนื้อที่ประมาณ 4,273,726 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำกฎหมายลำดับรอง เพื่อใช้ตรวจสอบคุณสมบัติและกำหนดเงื่อนไขในการใช้พื้นที่ ควบคู่กับจัดทำเขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์ เพื่อตราเป็นพระราชกฤษฎีกาต่อไป


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  28 มิถุนายน 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ประชาชนระวังฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่กรุงเทพมหานครเร่งขุดลอกคลองเปิดทางน้ำให้ไหลรองรับฝนที่จะตกลงมา

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (28 มิ.ย.65) ว่า ภาคเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกสูงสุดบริเวณ จ.เลย 75 มิลลิเมตร , อุทัยธานี 67 มิลลิเมตร และฉะเชิงเทรา 64 มิลลิเมตร ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำแหล่งน้ำทุกขนาด 44,247 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 54 พร้อมเฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง คือ กิ่วคอหมา กิ่วลม และน้ำพุง โดย กอนช.ยังคงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ามาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้ต่อเนื่อง อย่างกรุงเทพมหานคร เร่งขุดลอกคลอง บริเวณคลองมหาศร เขตหนองแขม และคลองพระไชยยศสมบัติ เขตบางขุนเทียน เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลได้สะดวก พร้อมตรวจสอบการทำงานของเครื่องสูบน้ำให้สามารถทำงานได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  27 มิถุนายน 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ประชาชนระวังฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ ขณะที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเร่งขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เพื่อหาน้ำอุปโภค-บริโภค

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (27 มิ.ย.65) ว่า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน 94 มิลลิเมตร , ราชบุรี 82 มิลลิเมตร และจ.นราธิวาส 78 มิลลิเมตร ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำแหล่งน้ำทุกขนาด 44,317 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 54 โดย กอนช.ยังคงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ามาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้ต่อเนื่อง อย่างกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเร่งขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลตามโครงการจัดหาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภค-บริโภคขนาดใหญ่ (งบกลาง) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงปีนี้ในพื้นที่บ้านเนินหิน ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  26 มิถุนายน 2565

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก เฝ้าระวังคุ้มครองฝูงนกเงือกกรามช้างปากเรียบอพยพ หลังพบอพยพมาอยู่บริเวณบ้านปลายคลอง จ.ระนอง เป็นจำนวนมาก

นายพัฒพงค์ มนต์นิมิตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก จังหวัดระนอง และจังหวัดชุมพร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) ได้เฝ้าระวังคุ้มครองนกเงือกกรามช้างปากเรียบอพยพ บริเวณบ้านปลายคลอง ตำบลน้ำจืด อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ซึ่งอยู่นอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก ซึ่งจำเป็นต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยต่อเนื่อง หลังได้รับการแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ ถือเป็นปรากฎการ์ทางธรรมชาติที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์และเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับกลุ่มนกอพยพ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  25 มิถุนายน 2565

กองทัพเรือ จัดกิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ตามแนวพระดำริฯ

พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เป็นประธานจัดกิจกรรมดำน้ำ เพื่อการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ตามแนวพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ณ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง โดยมีผู้แทนจากมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ตามแนวพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้แทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้แทนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้แทนกรมประมง ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง พร้อมด้วยประชาชน และเยาวชนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

การจัดกิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ตามแนวพระดำริฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนองพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ให้มีการรณรงค์การดำน้ำเชิงอนุรักษ์แบบยั่งยืนโดยไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติในทะเล และเป็นการเสริมสร้างความตระหนักรู้และให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล

สำหรับกิจกรรมประกอบด้วย พิธีเปิดกรวยถวายสักการะต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา การเก็บขยะชายหาด การดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล การปล่อยพันธุ์ปลา การปลูกปะการัง และการจัดแสดงนิทรรศการของหน่วยงานร่วมสนองพระดำริ โดยมีศิลปิน ดารา นักแสดง ร่วมกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเลในครั้งนี้ การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ให้แก่นักเรียน และเยาวชน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีแด่พระบรมวงศานุวงศ์

อีกทั้ง เป็นการส่งเสริมงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ อันจะเป็นประโยชน์ในการประสานขอความร่วมมือในการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ในโอกาสต่อไป


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.