นายกรัฐมนตรี กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามแก้ไขปัญหาไฟป่า-หมอกควัน-ฝุ่นละออง กรุงเทพและเชียงใหม่
- pratip
- ข่าวสิ่งแวดล้อม
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 23 พฤศจิกายน 2565
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง ตามแนวทางแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองปี 2566
ซึ่ง กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้คาดการณ์แนวโน้มฝุ่นละอองปี 2566 อาจมีแนวโน้มสูงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากสภาพทางอุตุนิยมวิทยา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 จนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่มีสภาพเพดานการลอยตัวอากาศต่ำ สภาวะอากาศที่นิ่ง ลมสงบ ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการจราจรและรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ยังคงพบปริมาณฝุ่น PM2.5 เท่าเดิมต่อเนื่องทุกปี และในพื้นที่ภาคเหนือที่มีความกังวลถึงสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่น PM2.5 แผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหา จึงเน้นยกระดับความเข้มงวดของการดำเนินงานภายใต้หลักการ 3 พื้นที่ คือ พื้นที่เมือง พื้นที่ป่า และพื้นที่เกษตรกรรม ควบคู่กับ 7 มาตรการ ตามกรอบสื่อสารเชิงรุกยกระดับปฏิบัติการสร้างการมีส่วนร่วม ซึ่งในส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะดำเนินการภายใต้ 16 แนวทาง อาทิ วิจัยหาต้นเหตุ/ ตรวจโรงงาน/ แจกอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ให้แก่กลุ่มเปราะบาง / ตรวจสถานที่ก่อสร้างและตรวจรถควันดำในสถานที่ก่อสร้าง/ ใช้ CCTV ตรวจจับรถยนต์ปล่อยควันดำ/ ส่งเสริมรถราชการในสังกัด กทม. เป็นรถพลังงานไฟฟ้า / ขยายระบบการติดตามและแจ้งเตือนฝุ่นสู่ระดับแขวง 1,000 จุด และ พัฒนาพื้นที่ปลอดฝุ่น ผ่านโครงการ BKK Clean Air Area
ขณะที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 แบบบูรณาการ โดยกำหนดเป้าหมายลดจุดความร้อน (Hotspot) ไม่เกิน 9,833 จุด และลดพื้นที่เผาไหม้ลง 20% หรือไม่เกิน 718,056 ไร่ พร้อมดำเนินการภายใต้ 4 แนวทางเพื่อลดค่าฝุ่นละอองในเขตเมืองควบคู่กับการควบคุมการเผาป่า ได้แก่ ควบคุมควันดำจากท่อไอเสียรถยนต์ ประสานงานร่วมกับขนส่งจังหวัด / ควบคุมการเผาเศษใบไม้หรือขยะจากครัวเรือน / ล้างทำความสะอาดถนนทุกสายในจังหวัด / ควบคุมฝุ่นละอองจากไซต์ก่อสร้างหรือควันจากโรงงาน รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคเหนือทั้ง 4 จังหวัด หารือร่วมกันในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด (เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน) และเพิ่มการบริหารจัดการเชื้อเพลิงผ่านการใช้แอปพลิเคชัน “Fire D” (ไฟดี) ซึ่งเป็นระบบจัดเก็บบันทึกข้อมูลชุมชน ศูนย์วิชาการของจังหวัด เพื่อดำเนินการตัดสินใจเวลาเหมาะสมในการกำจัดเชื้อเพลิงในแต่ละวัน