• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

นายกรัฐมนตรี กำชับทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ลด PM2.5 อย่างเร่งด่วน

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  28 มีนาคม 2566

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดของฝุ่น PM2.5 ว่า จากข้อมูลของจิสด้า หรือสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ประเทศไทยพบจุดความร้อนทั้งสิ้น 5,396 จุด ซึ่งจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน พบ 555 จุด แม่ฮ่องสอน 429 จุด และ อุตรดิตถ์ 382 จุด โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการยกระดับมาตรการการป้องกันการแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM2.5 อย่างเร่งด่วน ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการระดมเครือข่ายอาสาสมัครอุปกรณ์เครื่องมือ ในการลาดตระเวนเฝ้าระวัง เพื่อปฏิบัติการณ์เฝ้าระวังการดับไฟอย่างเข้มข้น กระทรวงมหาดไทยมีการกำชับไปยังจังหวัดห้ามเผาทุกพื้นที่ทุกกรณี รวมถึงให้มีการบริการหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อลาดตระเวนเฝ้าระวัง กระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการกำชับให้ โรงงานน้ำตาล งดรับอ้อยไฟไหม้ สำหรับกระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ได้มีการพิจารณามาตรการเรื่องของการจำกัดเวลาพื้นที่ และปริมาณสำหรับรถบรรทุกที่จะเข้ามาในเขตเมือง รวมถึงให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย กับผู้ลักลอบเผาและผู้กระทำความผิดอย่างเข้มข้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการปฎิบัติการทำฝนหลวง เพื่อบรรเทาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย มีการจัดให้ทำห้องปลอดฝุ่น มีการแจกจ่ายอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นเท่าที่จำเป็น รวมถึงยารักษาโรคในพื้นที่ พร้อมเร่งจัดบริการด้านการแพทย์ โดยการจัดรถคลินิกมลพิษเคลื่อนที่ในทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสุขภาพและให้ความรู้กับประชาชน ส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการพูดคุยพร้อมสั่งการไปทางเอกอัครราชทูต เร่งประสานขอความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เรื่องการลดการเผาในพื้นที่การเกษตร

อีกทั้งนายกรัฐมนตรี ยังใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประสานทางด้านหน่วยงานความมั่นคงเพิ่มเติมไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อขอความร่วมมืองดการเผาในพื้นที่การเกษตร รวมถึงขอความร่วมมือกับบริษัทเอกชนของไทยที่เข้าไปลงทุนทำธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน ให้ช่วยดูแลเรื่องการเผาในพื้นที่เกษตรในพื้นที่นั้นๆ อีกด้วย


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.