• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  12 สิงหาคม 2566

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักสะสมในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง และบริเวณแขวงบอลิคําไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทําให้ระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศจีนตอนใต้ ทําให้ประเทศไทยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงตอนล่าง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 10 – 15 สิงหาคมนี้

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมและเฝ้าระวัง อีกทั้งได้แจ้งเตือนประชาชน 8 จังหวัดริมน้ำโขงตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี สํานักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานว่าได้ประสานประเทศสมาชิกน้ำโขงและจีน ผ่านสํานักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ขอความร่วมมือช่วยบริหารน้ำเพื่อควบคุมระดับแม่น้ำโขง เพื่อลดความเสี่ยงอุทกภัย จากฝนตกหนักใน สปป.ลาว

รองโฆษกประจำสำนักนสยกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงวันนี้(12 ส.ค.) - 18 สิงหาคมนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ คาดการณ์ผลกระทบจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกําลังแรงขึ้น จะมีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน ทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำทั้งเรื่องการป้องกันความเสียหาย การอพยพ การเข้าช่วยเหลือ ฟื้นฟู ส่วนเรื่องการเยียวยาความเสียหายต่อพืชผลการเกษตร หน่วยงานที่รับผิดชอบจะเข้าไปสำรวจทันทีเมื่อสามารถดำเนินการได้


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  11 สิงหาคม 2566

วันที่ 10 สิงหาคม 2566 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดตัวรถมินิบัสไฟฟ้า “ชาร์จไฟใส่ EV ชาร์จอากาศดีๆ ให้โลกเรา” โดยมี นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานพร้อมด้วย นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. คณะผู้บริหาร กฟผ. หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดลำปางและอำเภอแม่เมาะ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้นำชุมชน อ.แม่เมาะ ร่วมงาน ณ กฟผ.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง

นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จังหวัดลำปางได้ร่วมมือกับ กฟผ.แม่เมาะ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ชุมชนแม่เมาะ พัฒนาอำเภอแม่เมาะให้เป็นเมืองน่าอยู่ (Mae Moh Smart City) โดยขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่แม่เมาะ เพื่อมุ่งสู่เมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำของจังหวัดลำปาง สอดรับกับนโยบาย Carbon Neutrality ซึ่งประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะบรรลุ Net Zero ให้ได้ในปี ค.ศ. 2050 ซึ่งงานเปิดตัวรถมินิบัสไฟฟ้าในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงอีกหนึ่งการดําเนินงานของ กฟผ. ที่ช่วยส่งเสริมนโยบายดังกล่าวให้ลุล่วง ด้วยการเปลี่ยนจากการใช้รถสันดาปเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเกิดความคล่องตัวในการจราจรบนท้องถนนจังหวัดลําปางอีกด้วย

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยว่า กฟผ. มีนโยบายในการสนับสนุนการนำรถมินิบัสไฟฟ้ามาใช้ในพื้นที่ของ กฟผ. เริ่มที่ กฟผ. สำนักงานใหญ่ ศูนย์การเรียนรู้ และที่ กฟผ. แม่เมาะ แห่งนี้มีจำนวนมากที่สุดถึง 28 คัน ดำเนินการโดย บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ กฟผ. ช่วยส่งเสริมนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ และสนับสนุนแนวทางการพัฒนาพื้นที่อำเภอแม่เมาะ และจังหวัดลำปาง สู่การเป็นเมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำให้แม่เมาะและจังหวัดลำปางเป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน โดยมาใช้รถบัสไฟฟ้าแทนรถบัสดีเซลแบบเดิม ซึ่งจะช่วยลดปัญหามลภาวะและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากไอเสียของยานยนต์ และช่วยเพิ่มความคล่องตัวบนท้องถนนด้วยรถที่ขนาดเล็กลง สำหรับค่าเชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันแล้ว รถมินิบัสไฟฟ้าจะใช้พลังงานเฉลี่ย 0.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 1 กิโลเมตร หรือคิดเป็นค่าไฟประมาณ 2.90 บาทต่อกิโลเมตร ในขณะที่รถน้ำมันจะมีค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงประมาณ 8 บาทต่อกิโลเมตร นอกจากนี้ ที่ผ่านมา กฟผ. ยังมีการรณรงค์ใช้รถไฟฟ้าในองค์กร เช่น มีการปรับรถประจำตำแหน่งผู้บริหารเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด และในอนาคตจะมีการปรับเปลี่ยนรถสำหรับใช้ในหน่วยงานต่างๆ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ กฟผ. มุ่งมั่นสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ในระดับประเทศ ผ่านการดำเนินงานและการร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรเครือข่ายต่างๆ อาทิ การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EleX by EGAT ทั่วประเทศไทย ภายในสิ้นปี 2566 ตั้งเป้าหมายขยายสถานี และสถานีพันธมิตรในเครือข่าย จำนวนรวม 180 สถานี การพัฒนาแอปพลิเคชัน EleXa สำหรับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาระบบบริหารจัดการสถานีอัดประจุไฟฟ้า BackEN EV สำหรับองค์กร และภาคธุรกิจ ตลอดจนร่วมขับเคลื่อนและรณรงค์การใช้งานในแคมเปญระดับประเทศ เพื่อให้ประเทศพร้อมสูงสุดในการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า สร้างระบบการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปูทางสู่เป้าหมายร่วมตามนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในอนาคตอันใกล้


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  10 สิงหาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่ 16 จังหวัด ช่วงวันที่ 12 - 18 สิงหาคม

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.นราธิวาส แพร่ สกลนคร กรุงเทพมหานคร ตราด และกาญจนบุรี โดยต้องเฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทันช่วงวันที่ 12 - 18 สิงหาคมในพื้นที่ 16 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต สตูล และตรัง ทำให้มีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย 7 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ตาก น่าน จันทบุรี ตราด พังงา และระนอง ช่วงวันที่ 11 – 13 สิงหาคม ทั้งนี้ กอนช. เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จะมีการประกาศแจ้งเตือนในทันที และกำชับให้หน่วยงานเตรียมพร้อมเครื่องจักร-เครื่องมือเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนตามแผน 12 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  9 สิงหาคม 2566

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ร่วมกันพัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิลช่วยลดพลาสติกใช้แล้วกว่า 4,500 กิโลกรัม พร้อมต่อยอดสู่การเป็นต้นแบบพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง และส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้ร่วมกันจัดทำโครงการพัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิล ภายในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นพัฒนาพื้นที่สาธารณะประโยชน์ในชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นต้นแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนและสร้างประโยชน์ต่อชุมชน ควบคู่กับรักษาความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนาการก่อสร้างถนนทางเดินอัพไซเคิลและท่าน้ำอัพไซเคิลจากพลาสติกใช้แล้ว บริเวณพื้นที่รอบสระน้ำของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมระยะทาง 320 เมตร สามารถลดปริมาณขยะพลาสติกไปสู่หลุมฝังกลบมากกว่า 4,500 กิโลกรัม และช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 4,700 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ได้มากกว่า 495 ต้น สิ่งสำคัญโครงการนี้ที่ได้รับฟังความคิดเห็น การออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุร่วมกับชุมชนในพื้นที่แล้วที่คำนึงถึงระบบนิเวศและการใช้งานอย่างสมดุล โดยยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติที่หลากหลาย และสามารถพัฒนาให้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ในชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อยอดสู่การเป็นต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง

สำหรับโครงการพัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิลจะส่งเสริมให้สังคมเห็นถึงประโยชน์ของการหมุนเวียนทรัพยากร ผ่านการมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี หมุนเวียนกลับมาสร้างคุณค่า และสร้างประโยชน์ให้ “พลาสติก เทิร์นเมือง” เป็นผลิตภัณฑ์รีไซเคิลส่งต่อสู่การอัพไซเคิล ถือเป็นการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรแบบ Closed loop ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ต่อยอดสู่การพัฒนาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  8 สิงหาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลงในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องในพื้นที่ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง ช่วงวันที่ 10 – 15 สิงหาคมนี้

นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ออกประกาศเฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลงในแม่น้ำโขง ฉบับที่ 13 หลัง พบมีปริมาณฝนตกหนักสะสมในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง และบริเวณแขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับ อิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศจีนตอนใต้ ทำให้ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงตอนล่างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงวันที่ 10 – 15 สิงหาคมนี้ ประกอบด้วย สถานีเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันมีระดับน้ำ 5.42 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 7.38 เมตร เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 40 - 60 เซนติเมตรเมตร // สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย ปัจจุบันมีระดับน้ำ 12.26 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 3.74 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 - 2.50 เมตร // สถานีหนองคาย จังหวัดหนองคาย ปัจจุบันมีระดับน้ำ 8.35 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 5.05 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.50 - 3.50 เมตร // สถานีนครพนม จังหวัดนครพนม ปัจจุบันมีระดับน้ำ 9.46 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 2.54 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.50 - 3.50 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะมีแนวโน้มล้นตลิ่งช่วงวันที่ 11 – 15 สิงหาคม // สถานีมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ปัจจุบันมีระดับน้ำ 8.98 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 3.52 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2 - 2.50 เมตร // สถานีโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันมีระดับน้ำ 10.60 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 3.90 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 1 - 1.50 เมตร

ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขงเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว คือ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี พร้อมประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงและแจ้งเตือนให้ประชาชนที่สัญจรและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง และผู้ที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  7 สิงหาคม 2566

กรมทรัพยากรธรณี ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 2 - 3 วันนี้ในพื้นที่ 4 จังหวัด หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง

ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ได้ออกประกาศขอให้อาสาสมัครเครือข่ายกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไปเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 2 - 3 วันนี้ ในพื้นที่จังหวัดน่าน แม่ฮ่องสอน ตาก และกาญจนบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากบริเวณอำเภอบ่อเกลือ ปัว เฉลิมพระเกียรติ ทุ่งช้าง เชียงกลาง จังหวัดน่าน // อำเภอเมือง ปาย ปางมะผ้า แม่ลาน้อย ขุนยวม สบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน // อำเภอแม่ระมาด แม่สอด ท่าสองยาง พบพระ อุ้มผาง จังหวัดตาก // อำเภอทองผาภูมิ สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากมีฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชั่วโมง ได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร และวัดปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วันได้มากกว่า 300 มิลลิเมตร ทำให้ชั้นดินบนภูเขาอุ้มน้ำไว้มากอาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มได้

ทั้งนี้ ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังด้วย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  6 สิงหาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1 - 3 วันนี้ในพื้นที่ 8 จังหวัด พร้อมเร่งซักซ้อมแผนเผชิญเหตุให้ประชาชนในภาคกลางรับมืออุทกภัย

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางถึงหนักมากบริเวณ จ.ตาก นราธิวาส สกลนคร กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา และสระแก้ว โดยมีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1 - 3 วันนี้ ในภาคเหนือ บริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แม่ฮ่องสอน ตาก // ภาคตะวันตก บริเวณ จ.กาญจนบุรี // ภาคตะวันออก บริเวณ จ.จันทบุรี และตราด พร้อมให้ สทนช. ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้าและสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชนในภาคกลาง ที่มีรูปแบบการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัยเป็นการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ (TTX) และจำลองสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ทั้งการจำลองการจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและใช้กลไกการปฏิบัติตามโครงสร้างของศูนย์ส่วนหน้า // การเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักร-เครื่องมือแผนเผชิญเหตุการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องข้อมูลสถานการณ์น้ำ ช่องทางและการเชื่อมโยงการรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารระหว่างภาคประชาชนและภาครัฐ การแนะนำการใช้งานแอปพลิเคชันติดตามและแจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำ ผ่าน National ThaiWater (NTW) และช่องทางการติดต่ออื่นๆ เพื่อพร้อมรับมือฤดูฝนปีนี้

ทั้งนี้ กอนช. ยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้อย่างเคร่งครัด โดยกองทัพบกเร่งเจาะบ่อน้ำตื้นแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค ให้กับประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์เอลนีโญ่ ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ส่วนกรุงเทพมหานครเร่งตรวจสอบคุณภาพในคลองผดุงกรุงเกษม คลองมหานาค คองบางลำพูคลองโอ่งอ่าง สำหรับแนวทางการบริหารจัดการน้ำในคลองผดุงกรุงเกษมจะเปิดประตูน้ำที่สถานีสูบน้ำเทเวศร์ เพื่อรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาให้มีการไหลเวียนถ่ายเท (flushing) โดยไประบายออกบริเวณสถานีสูบน้ำกรุงเกษม ซึ่งอยู่ปลายอีกด้านหนึ่งของคลองผดุงกรุงเกษม รวมถึง ยังสามารถบริหารน้ำให้ไหลเวียนผ่านคลองมหานาคเข้าสู่คลองแสนแสบ โดยใช้อาคารรับน้ำแสนเลิศของอุโมงค์ระบายน้ำใต้บึงมักกะสันเพื่อช่วยในการบังคับทิศทางน้ำเป็นการปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองแสนแสบด้วย


สำนักข่าว กรมปราะชาสัมพันธ์  5 สิงหาคม 2566

กรมทรัพยากรธรณี ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1 - 2 วันนี้ในพื้นที่ 6 จังหวัด หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง

ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ได้ออกประกาศขอให้อาสาสมัครเครือข่ายกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไปเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1 - 2 วันนี้ ในพื้นที่จังหวัดน่าน เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก และกาญจนบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากบริเวณอำเภอบ่อเกลือ ปัว เฉลิมพระเกียรติ ทุ่งช้าง เชียงกลาง จังหวัดน่าน // อำเภอเวียงแก่น เทิง จังหวัดเขียงราย // อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ // อำเภสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน // อำเภอแม่ระมาด แม่สอด ท่าสองยาง พบพระ อุ้มผาง จังหวัดตาก // อำเภอทองผาภูมิ สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากมีฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชั่วโมงได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร และวัดปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วันได้มากกว่า 300 มิลลิเมตร ทำให้ชั้นดินบนภูเขาอุ้มน้ำไว้มาก อาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มได้

ทั้งนี้ ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังด้วย


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.