กฟผ. ดึง แน็ก ชาลี และ “พาราด็อกซ์” ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ประหยัดไฟ ผ่านเพลง “ฤดูเซฟ”
- pratip
- ข่าวสิ่งแวดล้อม
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 19 มีนาคม 2567
ที่มา: https://mthai.com/news/pr/359922.html
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้เปิดตัว “โครงการประชาร่วมใจ ประหยัดไฟฟ้า” ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น “โครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5” กฟผ. ได้ผลักดันให้เกิดมาตรฐานระดับประสิทธิภาพพลังงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงด้วยการติดฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงาน ในปี 2538 ได้ดำเนินการรับรองฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานผลิตภัณฑ์แรกและได้ขยายขอบข่ายผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และในปี 2567 กฟผ. ได้พัฒนารูปแบบฉลากฯ ใหม่ และปรับระดับประสิทธิภาพสูงสุดเป็นเบอร์ 5 ห้าดาว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการบริโภคสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในยุคเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น เพื่อสนับสนุนนโยบายและเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2593
นอกจากจะมีการเปิดตัวพรีเซนเตอร์แล้ว ยังดึงเอา Music Marketing เข้ามาเป็นส่วนในการรุกตลาดด้วย โดย กฟผ. ได้เล็งเห็นความสำคัญของการตลาดผ่านเพลง ที่สามารถเชื่อมโยงเนื้อหาจากเพลงที่เป็นที่นิยม ติดหูคนฟัง มาใช้ในการสื่อสารสามารถสร้างการจดจำ และช่วยสร้างภาพจำให้กับแคมเปญได้เป็นอย่างดีในระยะเวลาสั้น ซึ่ง กฟผ. ทำการคัดเลือกเพลงดังอยู่หลายเพลง จนได้เพลงคุ้นหู “ฤดูร้อน” ของวงพาราด็อกซ์ (Paradox) ซึ่งตรงกับช่วงหน้าร้อนที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง จึงมองว่าการนำเพลงมาดัดแปลงเนื้อร้อง ให้เป็น “ฤดูเซฟ” สร้างการจดจำได้เป็นอย่างดี พร้อมทำมิวสิควิดีโอ หลังจากที่ปล่อยซิงเกิลนี้ออกไป ก็ได้รับผลตอบรับที่ดี มียอดรับชมทั้งมิวสิค วิดีโอ และหนังโฆษณา รวมแล้วกว่า 10,000,000 ครั้ง และเป็นไวรัลในโซเชียลได้เป็นอย่างมาก ทำให้ยอดผู้ติดตามโซเชียลมีเดียของ กฟผ. เพิ่มขึ้นและถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กล่าวว่า พรีเซนเตอร์คนใหม่ล่าสุด คือ แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ เพราะว่ามีคาแรคเตอร์ชัดเจน คนไทยคุ้นเคย และตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เช่นเดียวกันกับศิลปินนักร้องวงพาราด็อกซ์ ที่มีเพลงติดหูอยู่หลายเพลง ซึ่งทั้งสองศิลปินดังกล่าว รู้จักทุกวัย จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสื่อสารเรื่องฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์แบบใหม่นี้ ให้เข้าถึงคนไทยทั้งประเทศได้ ผ่านแคมเปญการตลาดในรูปแบบ Music Marketing ที่กล่าวมาข้างต้น หลังจากนี้ เราวางแผนประชาสัมพันธ์ในสื่อทุกช่องทาง ทั้งออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูป ติ๊กต๊อก และช่องทางออฟไลน์ เช่น สื่อโทรทัศน์ และสื่อนอกบ้าน ป้ายโฆษณา ควบคู่ไปกับแคมเปญและกิจกรรมต่าง ๆ ให้เข้าถึง ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เพราะเรามองว่า เรื่องการประหยัดพลังงานเป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญร่วมกัน สำหรับแคมเปญปรับโฉมใหม่