สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2 กรกฎาคม 2567
ที่มา: https://www.chiangmainews.co.th/social/3361373/
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เป็นประธานร่วมในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ “การบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสาขาสาธารณสุข ภายใต้แผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ” เสริมสร้างความร่วมมือและเตรียมความพร้อมในการรับมือต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมี นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย ผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ร่วมงาน
พล.ต.อ.พัชรวาท ทส. ให้ความสำคัญกับการรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชน จึงได้มีความร่วมมือกับ สธ. เพื่อยกระดับการขับเคลื่อนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้านสาธารณสุขอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพของประเทศไทย ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในทุกพื้นที่ รวมถึงการลดและป้องกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของประชาชนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ยังแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการบูรณาการการดำเนินงานของทั้งสองกระทรวง
ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกพบว่า มีประชากร 3,600 ล้านคน อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และคาดว่าในช่วงปี พ.ศ. 2573 – 2593 จะมีผู้เสียชีวิตจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มขึ้นประมาณ 250,000 คนต่อปี ซึ่ง สธ. ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มกำลังในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งในระดับนานาชาติ ตามนโยบายขององค์การอนามัยโลกและในระดับประเทศ โดยผลักดันนโยบายและแผนปฏิบัติการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้านสาธารณสุข พ.ศ. 2564 – 2573 รวมทั้งเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการพัฒนาระบบการให้บริการสุขภาพ เมื่อเผชิญกับภัยที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพให้แก่ประชาชนและชุมชนสามารถจัดการความเสี่ยงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยและโลกใบนี้อย่างยั่งยืนต่อไป