• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  29 กันยายน 2566

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (28 ก.ย.66) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 50,140 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 66 ของความจุอ่างฯ รวมกัน สามารถรับน้ำได้อีก 26,257 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 12,751 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างฯ รวมกัน สามารถรับน้ำได้อีกประมาณ 12,120 ล้าน ลบ.ม.

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์จะมีร่องมรสุมพาดผ่าน ในช่วงวันที่ 26-29 ก.ย. 66 ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักมากในบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกและภาคใต้ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก จึงสั่งการไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่เสี่ยง ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

พร้อมทั้งปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 66 และ 3 มาตรการเพิ่มเติม เพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญ ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้อ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำต่างๆ ให้ได้มากที่สุด บริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำและเจ้าหน้าที่ ประจำจุดเสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที เพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุดจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  28 กันยายน 2566

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักตามแนวร่องมรสุมถึงวันที่ 29 กันยายนนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในลุ่มน้ำมูลและลุ่มน้ำชี ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าจังหวัดอุบลราชธานี เกิดน้ำล้นตลิ่งบริเวณสถานีวัดน้ำ M7 ตรงสะพานเสรีประชาธิปไตย อำเภอวารินชำราบ เพราะมีบางช่วงเป็นพื้นที่ฟันหลอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมือจัดทำทำนบดินชั่วคราว นำกระสอบทรายมากั้นเป็นกำแพงป้องกันน้ำท่วม หลังคาดการณ์จะมีระดับน้ำสูงสุดวันที่ 30 กันยายนนี้ ย้ำว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น หากนำมาเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยังไม่น่าเป็นห่วง

กรมชลประทาน ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำและจัดการจราจรทางน้ำในลุ่มน้ำมูลและลุ่มน้ำชี เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง พร้อมจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันเฉียงเหนือ ที่สำนักงานชลประทานที่ 7 เพื่อเตรียมพร้อมปฏิบัติงาน ตั้งแต่การป้องกันก่อนเกิดภัย ร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องวางแผน เร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วและลดผลกระทบต่อกับประชาชนให้ได้มากที่สุด

รองอธิบดีกรมชลประทาน ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา มี 3 เขื่อนที่มีการกักเก็บน้ำต่ำกว่าร้อยละ 40 ได้แก่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนกระเสียว และเขื่อนทับเสลา ดังนั้นฝนี่ตกลงมาในช่วงนี้ จึงเป็นประโยชน์ต่อการกักเก็บน้ำไว้ใช้

สำหรับภาพรวมปริมาณน้ำในเขื่อน 35 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 435 แห่ง ปัจจุบันภาพรวมมีปริมาณน้ำ 49,700 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วยังมีปริมาณน้อยกว่า 5,400 ล้านลูกบาศก์เมตร อย่างไรก็ตาม อีกไม่ถึง 1 เดือนก็จะหมดฤดูฝน ขอให้ประชาชนกักเก็บน้ำไว้ใช้ รวมถึงขอความร่วมมือเกษตรกร งดทำนาปีต่อเนื่อง เพื่อสงวนน้ำไว้ใช้ให้เพียงพอถึงช่วงหน้าแล้งปีหน้า


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  27 กันยายน 2566

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพิ่มความเข้มงวดการบริหารจัดการน้ำช่วงปลายฤดูฝน คาดการณ์ฝนที่ตกหนักช่วงนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนต่างๆ โดยเฉพาะในลุ่มเจ้าพระยาและในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ช่วงปลายฤดูฝนปรากฎการณ์เอลนีโญทำให้ปริมาณฝนตกในประเทศไทยปีนี้น้อยกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 14 โดยเฉพาะภาคกลางปริมาณฝนน้อยกว่าค่าปกติถึงร้อยละ 31 และภาคตะวันออกร้อยละ 26 แต่ถึงวันที่ 29 กันยายนจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่งผลดีต่อปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนและแหล่งน้ำต่างๆมีปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ช่วงสัปดาห์นี้จะมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างขนาดใหญ่ 35 แห่งทั่วประเทศ ประมาณ 4,700 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะ 4 เขื่อนหลักเจ้าพระยาจะมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์รวมกันประมาณ 1,300 ล้ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้ง ยังเพิ่มปริมาณน้ำอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 3 แห่ง ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้อีกประมาณ 220 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถสนับสนุนความต้องการใช้น้ำทั้งภาคอุปโภค-บริโภค การรักษาระบบนิเวศ ภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรต่อเนื่อง และไม้ผล ได้เพียงพอ

ทั้งนี้ ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งเก็บกักน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำต่างๆ ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะภาคเหนือที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนหลักของลุ่มเจ้าพระยา พร้อมรณรงค์ให้เกษตรกรที่มีแหล่งเก็บกักน้ำเป็นของตนเองให้เก็บน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดจากเอลนีโญในระยะยาว


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  26 กันยายน 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเฝ้าระวังระดับน้ำในลุ่มน้ำชี - มูล ถึงวันที่ 28 กันยายนนี้

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ประเทศไทย ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง กรุงเทพมหานครปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก กับมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ช่วง 24 ชั่วโมงสูงสุดที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ตราด ปทุมธานี ราชบุรี ระนอง แพร่ และอุบลราชธานี โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ทำให้ต้องระวังระดับน้ำในลุ่มน้ำชี - มูล ถึงวันที่ 28 กันยายนนี้ คาดการณ์จะมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำบริเวณแนวฟันหลอและไหลหลากเข้าท่วมชุมชนที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ จึงขอให้เฝ้าระวังน้ำท่วมขัง บริเวณพื้นที่ด้านท้ายน้ำอ่างเก็บน้ำลำปาว คือ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด กมลาไสย ฆ้องชัย และร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ และพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ คือ อำเภอเมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ สว่างวีระวงศ์ และพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

ทั้งนี้ หากเกิดสภาวะวิกฤติ กอนช. ได้ออกประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยก่อนเกิดเหตุล่วงหน้าเป็นเวลา 3 วัน เพื่อเตรียมพร้อมอพยพ ส่วนศูนย์อำนวยการน้ำส่วนหน้าจะออกปฏิบัติการเข้าประจำการพื้นที่เสี่ยงหากเกิดกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน เพื่อให้การช่วยเหลือทันเหตุการณ์และช่วยบรรเทาภัยทางน้ำให้กับประชาชนผู้อาศัยในพื้นที่เสี่ยงได้ล่วงหน้า ขณะนี้ยังมีหลายพื้นที่ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักต่อเนื่อง เช่น ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง พื้นที่ภาคตะวันออก และพื้นที่ภาคใต้ตอนบน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  25 กันยายน 2566

ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับให้แก้ปัญหาวิกฤติน้ำในบึงบอระเพ็ดลดระดับลง จนกระทบระบบนิเวศ ด้วยการสูบน้ำเติมเข้าพื้นที่ต่อเนื่อง

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงสถานการณ์น้ำและสภาพบึงบอระเพ็ด เนื่องจากพบมีระดับน้ำต่ำกว่าเมื่อช่วงปีที่ผ่านมาเข้าขั้นวิกฤติ ว่า สถานการณ์ความแห้งแล้งปีนี้ส่งผลให้ปริมาณน้ำในบึงบอระเพ็ดมีปริมาณน้ำน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 10 เท่า โดยปีนี้บึงบอระเพ็ดจึงประสบกับปัญหาความแห้งแล้ง ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำชับให้กรมทรัพยากรน้ำเร่งสูบน้ำจากแม่น้ำน่านเข้าสู่บึงบอระเพ็ดเป็นการเร่งด่วน ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมจนถึงปัจจุบันได้ปริมาณน้ำประมาณ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะดำเนินการสูบน้ำเติมเข้าพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลายหลายทางชีวภาพที่มีคุณค่าความสำคัญและเป็นลักษณะเฉพาะของพื้นที่ พร้อมให้ร่วมกับจังหวัดนครสวรรค์แก้ไขวิกฤติน้ำในบึงบอระเพ็ดต่อไป


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  24 กันยายน 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ระวังฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ พร้อมบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยาเน้นกักเก็บน้ำส่วนเกินสำรองไว้ใช้อุปโภค-บริโภคแล้งหน้า

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ประเทศไทย ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.กาญจนบุรี กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี ยโสธร และอุทัยธานี โดย กอนช.ได้ติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาเน้นกักเก็บสำรองไว้ใช้อุปโภค-บริโภค ภาพรวมสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,248 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 4.7 เมตร มีแนวโน้มลดลง และควบคุมการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่สถานี C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ในอัตรา 898 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ ได้บริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้งระบบอย่างสอดคล้องกันด้วยการกักเก็บน้ำไว้ในพื้นที่ตอนบนให้มากที่สุด เพื่อสำรองไว้ใช้สำหรับอุปโภค-บริโภค และรักษานิเวศ ส่วนตอนกลางจะใช้เขื่อนเจ้าพระยาบริหารจัดการน้ำ โดยระบบชลประทานฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกรับน้ำเข้าไปเก็บกักไว้ใช้ในหน้าแล้งหน้าให้ได้มากที่สุด ด้านตอนปลายจะเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลเพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน พร้อมประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้ง 11 จังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยให้รับทราบและติดตามสถานการณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด

ขณะที่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้มอบน้ำดื่มสะอาดขนาดบรรจุ 5 ลิตร 120 แกลลอน ให้เทศบาลตำบลแม่วาง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่บ้านน้ำต้น หมู่ที่ 6 ต.แม่วาง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ และมอบน้ำดื่มสะอาดบรรจุขวดขนาด 500 มิลลิลิตร 500 ขวด เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.นากว้าง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ที่ประสบภัยน้ำท่วมและน้ำหลาก ส่วน กรมชลประทาน ได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำ D10 และประตูระบายน้ำหนองผือ ตำบลพระลับ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  23 กันยายน 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มใน 14 จังหวัด จากฝนตกหนักต่อเนื่องหลายพื้นที่

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ประเทศไทย ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลางกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักมาก ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ภูเก็ต ชลบุรี กรุงเทพมหานคร แพร่ ศรีสะเกษ และกาญจนบุรี ทำให้ กอนช. ต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มช่วงวันที่ 25 – 30 กันยายนนี้ใน 14 จังหวัด คือ ระยอง , จันทบุรี , ตราด , ชุมพร , ระนอง , พังงา , ภูเก็ต , กระบี่ , สุราษฎร์ธานี , สตูล , ตรัง , พัทลุง , สงขลา และนครศรีธรรมราช และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งและท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมทั้ง เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) 6 แห่ง รวมถึง อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจนเสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ ควบคู่กับปรับแผนบริหารจัดการน้ำ อ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ ประตูระบายน้ำ ระบบชลประทาน เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์และตามศักยภาพคลองชลประทานในแต่ละช่วงเวลาที่สามารถรองรับได้

ขณะที่ กรมทรัพยากรน้ำ เร่งส่งน้ำจากแม่น้ำน่าน-บึง ถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยเร่งสูบส่งน้ำจากแม่น้ำน่านเข้าบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ เพื่อรักษาระบบนิเวศในบึงบอระเพ็ดที่อยู่ในภาวะวิกฤติ เนื่องจากภาวะฝนทิ้งช่วงที่เกิดจากสถานการณ์เอลนีโญสามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับบึงบอระเพ็ดได้ 5.7 ล้านลูกบาศก์เมตร


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  22 กันยายน 2566

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (21 ก.ย. 66) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 48,201 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯรวมกัน เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 12,003 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 48 ของความจุอ่างฯรวมกัน

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามันและด้านตะวันตกของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทย ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก จึงสั่งการไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่เสี่ยง ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้อ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำต่างๆ ให้ได้มากที่สุด พร้อมบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มศักยภาพ เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเจ้าหน้าที่ ประจำจุดเสี่ยง สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

ส่วนสถานการณ์เอลนีโญ ปัจจุบันมีกำลังปานกลาง แต่มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นในช่วงปลายปี 2566 จึงสั่งการให้พิจารณาปรับลดการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต


  1. กอนช. เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วง 22 – 26 ก.ย.นี้ จากปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น หลังเกิดฝนตกหนักในภาคเหนือและภาคกลาง
  2. กรมอุทยานฯ เร่งแก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนในพื้นที่รอบเขตป่า พร้อมอนุมัติใช้เงินอุทยานแห่งชาติเพิ่มการจ้างชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังช้างป่า
  3. กอนช. กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมรับมือฝนตกเพิ่ม ด้วยการเร่งระบายน้ำท่วมขัง หลังหลายพื้นที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง
  4. กรมป่าไม้ เดินหน้าการบริหารจัดการป่าไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ประเทศ ด้วยการสร้างภาคประชาชนเป็นเครือข่ายสำคัญปกป้องดูแลผืนป่า
© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.