• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  25 มีนาคม 2566

ภาคเหนือ ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังวิกฤติ โดยเฉพาะใน จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย และเชียงใหม่อยู่ในระดับสีแดง พบสูงสุดบริเวณ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถึง 351 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ควรงดกิจกรรมกลางแจ้งและกลุ่มเสี่ยงให้เฝ้าระวังอาการผิดปกติ

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (25 มี.ค.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ยังปรับตัวสูงขึ้น เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 9 พื้นที่ และสีแดง 14 พื้นที่ บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน ลำปาง ลำพูน พะเยา และเชียงใหม่ อยู่ที่ 91 – 351 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยพบสูงสุดบริเวณ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพราะยังพบการเผาในเขตป่า ผลกระทบจุดความร้อน (Hotspot) จากประเทศเพื่อนบ้าน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีผลต่อการสะสมของฝุ่น จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง กลุ่มเสี่ยงให้เฝ้าระวังอาการผิดปกติ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ทั้งนี้ ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงบริเวณภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านต้องเฝ้าระวังพิเศษวันที่ 26 – 29 มีนาคม ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน พบเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 5 พื้นที่ และสีแดง 3 พื้นที่ บริเวณ จ. หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม อยู่ที่ 109 - 139 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศเปิดและมีลมพัด ยกเว้นบริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม อยู่ที่ 52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เพราะสภาพการจราจรค่อนข้างหนาแน่นและมีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ ศูนย์แบบจำลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.66) มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น เพดานการลอยตัวอากาศที่สูงขึ้น ประกอบกับ ลมทางใต้ที่กำลังแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  24 มีนาคม 2566

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมชลประทาน จัดสรรน้ำให้เกษตรกรเพาะปลูกข้าวนาปรังในช่วงแล้งปีนี้ ทั่วประเทศไปแล้ว 19,682 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 72 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการจัดสรรน้ำไปแล้วประมาณ 7,113 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 79 ของแผน จนถึงขณะนี้มีการเพาะปลูกพืชทั้งประเทศไปแล้วกว่า 9 ล้านไร่ จากแผนที่กำหนดไว้ 10 ล้านไร่ โดยมีพื้นที่ที่เก็บเกี่ยวแล้ว 2 ล้านไร่

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในช่วงแล้งนี้ เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ กรมชลประทาน ขอความร่วมมือจากเกษตรกร โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ที่เพาะปลูกและเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังแล้วเสร็จ ให้งดการเพาะปลูกข้าวนาปรังต่อเนื่อง(นาปรัง 2) เพื่อไม่ให้กระทบต่อแผนการจัดสรรน้ำช่วงแล้ง และเพื่อรักษาระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สามารถส่งน้ำเข้าระบบชลประทาน ส่งไปสนับสนุนการใช้น้ำอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศได้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี ลดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต รวมไปถึงเพื่อควบคุมคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดด้ว และประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือไปยัง เกษตร กลุ่มผู้ใช้น้ำ และทุกภาคส่วน ให้ช่วยกันประหยัดน้ำ เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เพียงพอใช้ทุกกิจกรรมตลอดในช่วงแล้งนี้


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  23 มีนาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังเกิดฝนตกในภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคใต้ ขณะที่กรมทรัพยากรน้ำเร่งสูบน้ำเติมแหล่งน้ำดิบระบบประปาหมู่บ้านในจังหวัดนครสวรรค์

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (23 มี.ค.66) ว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคตะวันออก ประกอบกับ ลมตะวันตกปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.ยะลา , ราชบุรี และกาญจนบุรี ทั้งนี้ กอนช. ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการรองรับหน้าแล้งอย่างเคร่งครัด เช่น กรมทรัพยากรน้ำ และเทศบาลตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ ร่วมกันติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์ 1 เครื่อง เพื่อสูบน้ำเติมแหล่งน้ำดิบระบบประปาหมู่บ้าน บริเวณคลองแม่วงก์ บ้านศาลเจ้าไก่ต่อ ต.ศาลเจ้าไก่ต่อ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค – บริโภค และรองรับภัยแล้ง มีประชาชนได้รับประโยชน์ 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 , 3 และ 4 จำนวน 1,000 ครัวเรือน รวม 3,200 คน ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  22 มีนาคม 2566

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงได้มีการประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2528 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายนของทุกปี ในบางส่วนของพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และจังหวัดตรัง ควบคู่ไปกับการรวบรวมและวิเคราะห์ผลการศึกษาทางวิชาการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงมาตรการให้สอดคล้องกับสภาวะของทรัพยากรสัตว์น้ำ สิ่งแวดล้อมและสังคมในปัจจุบัน

ผลการศึกษาทางวิชาการในช่วงการประกาศใช้มาตรการฯ ปี 2565 พบว่าสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจหลายชนิด มีความสมบูรณ์เพศสูง โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายนพบสัตว์น้ำวัยอ่อนมีความหนาแน่นสูงสุดถึง 1,197 ตัว/1,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าช่วงก่อนประกาศใช้มาตรการฯ ที่มีความหนาแน่นเพียง 470 ตัว/1,000 ลบ.ม. อีกทั้งข้อมูลขนาดสัตว์น้ำที่จับได้จากเครื่องมือประมงที่อนุญาตให้ใช้ในช่วงประกาศใช้มาตรการฯ เช่น อวนกุ้งและอวนปู พบว่ามีขนาดเหมาะสม โดยมีขนาดความยาวมากกว่าความยาวแรกสืบพันธุ์ จึงเป็นการยืนยันได้ว่ามาตรการที่ใช้มีความสอดคล้องกับผลการศึกษาทางวิชาการทั้งในด้านพื้นที่และช่วงเวลาในมาตรการฯ ว่ามีความถูกต้องและเหมาะสมกับฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ และยังเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำเพื่อคงความสมดุลทางธรรมชาติอีกด้วย

กรมประมง จึงประกาศใช้มาตรการ บริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามันประจำปี 2566 ในเขตพื้นที่บางส่วนของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และจังหวัดตรัง ตั้งแต่ปลายแหลมพันวา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ถึงปลายแหลมหยงสตาร์ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ครอบคลุมพื้นที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายนนี้ ตามประกาศฯ และกำหนดชนิดของเครื่องมือประมง วิธีการทำการประมง และเงื่อนไขที่สามารถทำการประมงได้ในช่วงประกาศใช้มาตรการ

กรมประมง ขอให้พี่น้องชาวประมงทุกคน ที่ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐในการปฎิบัติตามกฎหมายในมาตรการปิดอ่าวทะเลอันดามัน มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืนและเกิดความมั่นคงในการประกอบอาชีพประมงต่อไป


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  21 มีนาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังการเกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ของประเทศ ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินมาตรการรองรับหน้าแล้งอย่างเคร่งครัด

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (21 มี.ค.66) ว่า ประเทศไทยตอนบนอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันทำให้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย ทำให้ตอนบนของประเทศมีอากาศร้อน ประกอบกับ ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางแห่ง จากอิทธิพลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.ตราด // กาญจนบุรี และเชียงราย ทั้งนี้ กอนช. ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการรองรับหน้าแล้งอย่างเคร่งครัด เช่น จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำรวจพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและภัยแล้งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ พร้อมรายงานผลต่อคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดและคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อใช้วางแผนแก้ปัญหา // กรมทรัพยากรน้ำ สำรวจพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำและเตรียมแผนรับมือให้ทันต่อสถานการณ์ และกรมชลประทาน สำรวจ ซ่อมแซมบำรุงรักษาระบบระบายน้ำ อาคารบังคับน้ำและอาคารประกอบให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และสำรวจพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่อเตรียมแผนรับมือ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  20 มีนาคม 2566

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวหลังประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังวัสดุกัมมันตรังสี “ซีเซียม -137” สูญหายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และตรวจพบ ในโรงงานหลอมเหล็กแห่งหนึ่ง ใน จ.ปราจีนบุรี จนทำให้ประชาชนกังวลจะเกิดอันตรายจากการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีว่า เป็นเหตุการณ์ที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและทันที พร้อมสั่งการให้หน่วยงานในสังกัด อว.ที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยของประชาชน และดูแลไม่ให้มีการปนเปื้อนของซีเซียมในสิ่งแวดล้อม ทั้งดิน น้ำ อากาศ และมอบหมายให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ตรวจสอบการปนเปื้อนของกัมมันตรังสีซีเซียมฯ ในสิ่งแวดล้อม ทุกจุดและทุกวงดังกล่าว ทั้งดิน น้ำ อากาศ และให้รายงานผลการตรวจในทันที พร้อมมอบหมายให้มหาวิทยาลัยที่มีโรงเรียนแพทย์เข้าไปช่วยติดตามและดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ที่สำคัญ

กระทรวง อว. ยังได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม -137 ซึ่งพร้อมประสานข้อมูลและบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  19 มีนาคม 2566

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่ขณะนี้บริเวณพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยกำลังได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ประกอบกับมีลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยมีลูกเห็บตกบางแห่งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมถึงในช่วงวันที่ 20 – 22 มีนาคม 2566 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน จึงทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตกและอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามช่วยเหลือย่างใกล้ชิด กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่และสภาพอากาศเป็นประจำทุกวัน ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ และ จ.พิษณุโลก ได้ปฏิบัติการฝนหลวงภารกิจยับยั้งความรุนแรงของพายุลูกเห็บช่วงวันที่ 16-18 มีนาคม 2566 ช่วยเหลือบริเวณพื้นที่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ

ทั้งนี้ การปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งความรุนแรงของพายุลูกเห็บ เป็นการทำฝนหลวงในขั้นตอนที่ 5 โดยใช้เครื่องบินติดเครื่องมือยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์เข้าไปสลายกลุ่มเมฆที่มีการก่อตัวในระดับสูงและหนาแน่นเป็นผลึกน้ำแข็งหรือลูกเห็บ เพื่อทำให้ผลึกน้ำแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นเม็ดน้ำละลายตกลงมาเป็นน้ำฝน ซึ่งจะช่วยบรรเทาความรุนแรงและความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ สำหรับภารกิจด้านการช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ รวมถึงความต้องการน้ำของพื้นที่การเกษตรที่มีการร้องขอฝนหลวงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง กรมฝนหลวงฯ ได้มีการติดตามและปฏิบัติภารกิจทุกวันอย่างไม่มีวันหยุดเช่นกัน ซึ่งผลปฏิบัติการฝนหลวงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ทำให้มีฝนตกช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าบริเวณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบใน จ.ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กาญจนบุรี ลำพูน พะเยา เชียงใหม่ แพร่ น่าน และมีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.น่าน พะเยา ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และ จ.ตราด กล่าวทิ้งท้าย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  18 มีนาคม 2566

นายพีรยุทธ์ เหมาะพิชัย ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา มอบหมายให้ นายพิทักษ์ ยศแก้วอุด นายช่างชลประทานปฏิบัติงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน ลงพื้นที่ตรวจวัดคุณภาพน้ำตามมาตรการควบคุมการปล่อยน้ำเสียลงทางน้ำชลประทานประจำเดือนมีนาคม 2566 ณ บริเวณที่ตรวจวัดคุณภาพน้ำ อ่างเก็บน้ำกิ่วลม จำนวน 6 จุด ได้แก่

หน้าโรงสูบน้ำ การประปาลำปาง

บริเวณหน้าโรงสูบน้ำการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (แม่เมาะ) จังหวัดลำปาง

บริเวณหน้าอ่างเก็บน้ำกิ่วลมฝั่งซ้ายและฝั่งขวา

บริเวณกลางอ่างเก็บน้ำกิ่วลม

บริเวณท้ายเขื่อนกิ่วลม 300 เมตร ในพื้นที่ตำบลบ้านแลง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง

จากนั้นได้ตรวจสอบบริเวณจุดตรวจวัดคุณภาพน้ำ อ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมา จำนวน 3 จุด ได้แก่ บริเวณหน้าอ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมาฝั่งขวา บริเวณกลาง อ่างกิ่วคอหมา บริเวณหน้าอ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมาฝั่งซ้าย ในพื้นที่ตำบลปงดอน อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง

จากการตรวจสอบคุณภาพน้ำ ทั้งหมด 9 จุด พบว่าลักษณะของน้ำทั่วไปใส ไม่มีตะกอน ไม่มีกลิ่น คุณภาพน้ำปกติ และเป็นไปตามมาตรฐานที่กรมชลประทานกำหนด


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.