• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  15 ธันวาคม 2566

กรมทรัพยากรธรณี ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 2 –3 วันนี้ ในพื้นที่ภาคใต้ 6 จังหวัด หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง

ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ได้ออกประกาศขอให้อาสาสมัครเครือข่ายกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไปเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 2 - 3 วันนี้ ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มบริเวณอำเภอศรีบรรพต ตะโหมด ศรีนครินทร์ กงหรา ป่าบอน จังหวัดพัทลุง // อำเภอสะบ้าย้อย หาดใหญ่ รัตภูมิ จังหวัดสงขลา // อำเภอเบตง ธารโต บันนังสตา จังหวัดยะลา // อำเภอจะแนะ แว้ง ตากใบ สุไหงโก-ลก ศรีสาคร สุคิริน รือเสาะ ยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องวัดปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชั่วโมงได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร ประกอบกับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้มีฝนตกหนักสะสมอาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มได้

ทั้งนี้ ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังด้วย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  14 ธันวาคม 2566

นางสาวตริตาภรณ์ สนใจ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมปฏิบัติการ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลวันนี้ (14 ธ.ค.66) ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นยังปรับตัวลดลงทุกพื้นที่ แต่พบบางพื้นที่ยังอยู่ในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ตำบลนครปฐม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง

โดยจำเป็นต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องในช่วงนี้จนถึงวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เพราะฝุ่น PM2.5 มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้หากอากาศนิ่งและลมสงบ อาจส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กในระดับใกล้ผิวพื้นในรูปแบบฝาชีครอบและถูกกดทับได้ ทั้งนี้ จำเป็นต้องควบคุมและลดการระบายฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิดต่างๆ ต่อเนื่อง เพื่อลดปริมาณการปล่อยทั้งจากยานพาหนะ ด้วยการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล จึงขอให้ประชาชนหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะให้มากขึ้นแทนรถยนต์ส่วนบุคคล เช่น รถไฟฟ้า และงดการเผาในที่โล่ง เพราะเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นที่ส่งผลกระทบรุนแรง

สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่มีฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ โดยสามารถติดตามตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ได้ทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Air4thai และ AirBKK


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  13 ธันวาคม 2566

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการว่าจะทำอย่างไรต่อไป ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่เราก็ไม่ได้นอนใจ ซึ่งรัฐบาลก็เริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์ห้ามเผาป่า รับทราบดีว่าช่วงเวลานี้ของทุกปีจะเป็นช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 จะสูงขึ้น แต่เราก็พยายามจะบริหารจัดการต่อไป ไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่วนหนึ่งปัญหาฝุ่นที่เกิดขึ้นมาจากการเผา รวมถึงภาคกลางด้วยที่มีการเผาซากของพืชผลทางการเกษตร ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปดูแลตรงนี้ด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ประสานทางกองทัพให้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย โดยภาคเหนือ ได้มีการพูดคุยกันแม่ทัพภาคที่ 3 และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็ช่วยดูแลเฝ้าระวังเรื่องการเผาป่า ซึ่งการสัมมนา "SUSTAINABILITY FORUM 2024” เรื่อง Clean Energy for Thailand Economy through Sustainability ในวันนี้ เชื่อว่าเป็นการสร้าง การรับรู้ให้ทุกคนทราบว่าปัญหานี้ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันรับผิดชอบในการที่จะทำให้ปัญหาฝุ่นลดลง ขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเมียนมาและ สปป.ลาว ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะมีปัญหาฝุ่น PM2.5 ทุกปี และได้มีการพูดคุยกันจะต้องบริหารจัดการเรื่องการเผาซากผลผลิตทางการเกษตร เพราะมีภาคเอกชนของไทย ไปจ้างการปลูกพืชที่ สปป.ลาว ด้วย ซึ่งได้มีการพูดคุยว่า หากจะนำผลผลิตกลับเข้ามาขายในประเทศไทย จะต้องบริหารจัดการเรื่องการเผาให้ได้ ส่วนที่ประเทศเมียนมา ก็ต้องให้ทหารเข้าไปช่วยพูด เราไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามพูดคุยตลอดเวลา

นายกรัฐมนตรี ยังยกตัวอย่างมาตรการทางภาษีของผู้ประกอบการในการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า ภาคเอกชน ที่ไปจ้างปลูกข้าวโพดที่ฝั่ง สปป.ลาว แล้วจะนำกลับมาขายในประเทศไทย หากมีการตรวจสอบพบว่า มีการเผาซากผลผลิต เราก็จะชาร์จภาษีกับผู้ประกอบการ และจะนำเงินส่วนนี้มาช่วยในการแก้ไขปัญหาไฟป่า รวมถึงการบำบัดซากตอซังข้าว หรือข้าวโพด พัฒนาไปทำอย่างอื่นได้ เช่น ค่าขนส่ง เชื่อว่าผู้ประกอบการทุกคนจะเห็นด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ ที่พนักงานและลูกหลานของผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบจากอากาศที่ไม่บริสุทธิ์


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  12 ธันวาคม 2566

นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า เตรียมจัดงานวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ประจำปี 2566 ตรงกับวันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี โดยปีนี้จัดงานวันที่ 23 ธันวาคม ภายใต้แนวคิดหลัก “Save wildlife for your life : รักษาธรรมชาติ ไม่ซื้อ ไม่ล่า ไม่ค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย” บริเวณศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) จังหวัดราชบุรี เพื่อให้ชุมชน เยาวชน และประชาชนเห็นความสำคัญของสถานการณ์สัตว์ป่า ทั้งการซื้อ การค้า การเลี้ยงสัตว์ป่าผิดกฎหมาย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือสัตว์บาดเจ็บ การเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคสัตว์ป่าและการแก้ปัญหาสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของความสำคัญด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าอย่างยั่งยืนของประเทศ

ทั้งนี้ ช่วงปี 2565 - 2566 ที่ผ่านมา จากรายงานการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับคดีสัตว์ป่าด้วยการลาดตระเวน การหาแหล่งข่าวจากสื่อออนไลน์และการแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 พบมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีสัตว์ป่า 523 คดี เพิ่มขึ้นจากช่วงปีก่อน 110 คดี ซึ่งบ่งชี้ถึงสถานการณ์สัตว์ป่าในปัจจุบันมีการค้าสัตว์ป่าเป็นภัยคุกคามระดับชาติที่ต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อยับยั้งอุปสงค์และอุปทานเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่าลงและยับยั้งกระบวนการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ก่อนจะกลายเป็นภัยคุกคามที่นำไปสู่การสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในอนาคต โดย พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำชับให้ป้องกันและแก้ปัญหาด้านการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำผิดด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายภายในประเทศและบริเวณแนวชายแดน จุดผ่านแดนถาวร จุดผ่านแดนชั่วคราว จุดผ่อนปรนช่องทางธรรมชาติ ซึ่งอยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เบื้องต้นกรมอุทยานฯได้กำหนดแนวทางการป้องกันการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายให้เข้มงวดรัดกุมมากขึ้น

สำหรับกิจกรรมภายในงานวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติฯ มีการจัดแสดงนิทรรศการด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าของกรมอุทยานฯและหน่วยงานภาคีเครือข่าย กิจกรรมเสวนา “การบูรณาการความร่วมมือการป้องกันการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายระหว่างประเทศ” การเปิดให้บริการขออนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่า ค้าสัตว์ป่าและครอบครองสัตว์ป่า กิจกรรมสันทนาการส่งเสริมด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า การแสดงดนตรีเพื่อการอนุรักษ์


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  11 ธันวาคม 2566

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น จากรายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เมื่อเวลา 07.00 น. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้มและเกินค่ามาตรฐานหลายจังหวัด ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สุโขทัย และกรุงเทพมหานคร มีปริมาณค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐานส่วนใหญ่ทำให้เริ่มมีผลกระทบต่อ มีทั้งระยะสั้น อาทิ แสบตา คันตา น้ำตาไหล คัด รวมถึงอาจมีอาการในระดับรุนแรงถึงขั้นแน่นหน้าอก ส่วนระยะยาว จะส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจวาย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม กระทรวงได้มีศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข(EOC) ติดตามดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ขอให้ประชาชนตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน หากค่าฝุ่นละอองอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ให้ลดหรืองดกิจกรรมกลางแจ้ง หรือสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบทางสุขภาพรุนแรงกว่าคนทั่วไป


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  10 ธันวาคม 2566

ประเทศไทย แสดงความก้าวหน้าการปรับตัวและมาตรการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบนคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้อย่างต่อเนื่องบนเวทีการประชุม COP 28 พร้อมผลักดันการปรับตัวในภาคเกษตรเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและรักษาความมั่นคงทางอาหาร

พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้เข้าร่วมการประชุม High-level Segment ภายในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 28 (COP 28) ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมกล่าวถ้อยแถลงว่าประเทศไทยและคนไทยตื่นตัวเรื่องโลกร้อนมากขึ้น โดยยืนยันประเทศไทยได้ทำตามสิ่งที่ให้คำมั่นไว้อย่างแน่นอนและการเข้าร่วมประชุม COP 28 เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานในประเทศที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม และพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อยกระดับการดำเนินงานต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไทยได้ปรับปรุงแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดในปี 2030 ครอบคลุมทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ คาดว่า จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดภายในปี 2025 โดยจะต้องปรับเปลี่ยนระบบนิเวศเศรษฐกิจให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่คำนึงถึงประชาชนทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยได้เร่งผลักดันพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป็นเครื่องมือกำกับดูแลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มีกลไกการเงินเหมาะสมและเข้าถึงได้เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างเป็นระบบ ควบคู่กับจัดทำแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ เพื่อเป็นกรอบหลักสร้างภูมิคุ้มกันอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน และจะสนับสนุนเป้าหมายระดับโลกด้านการปรับตัวฯอีกด้วย และสุดท้าย ไทยกำลังผลักดันตัวอย่างของการปรับตัวในภาคเกษตร เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกควบคู่กับการรักษาความมั่นคงทางอาหาร ผ่านโครงการเพิ่มศักยภาพการปลูกข้าวที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียว

สำหรับประเด็นการการเจรจาสำคัญบนเวที Cop 28 ยังได้การจัดทำเป้าหมายระดับโลกด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป้าหมายด้านการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งภาคีประเทศกำลังพัฒนายังคงเรียกร้องให้เร่งระดมเงินให้ได้ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2052 เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDC 2030) ให้บรรลุเป้าหมายตามที่แต่ละภาคีได้ให้คำมั่นไว้ การขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจกให้บรรลุเป้าหมายตามความตกลงปารีส กองทุนสำหรับการสูญเสียและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Loss & Damage Facility) เพื่อช่วยประเทศที่มีความเปราะบาง ลดการสูญเสียและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  9 ธันวาคม 2566

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ติดตั้งเครื่องตรวจวัดระดับเสียงภายในพื้นที่จัดงานกาชาด 9 จุด ควบคุมการใช้เครื่องเสียงระหว่างการจัดงานไม่ให้เกิน 80 เดซิเบลเอ โดยปีนี้พัฒนานำแอพพลิเคชั่น Sound24Thai มาใช้

นางกัญชลี นาวิกภูมิ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และคณะกรรมการแผนกควบคุมเสียงงานกาชาด ประจำปี 2566 ได้ลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติงานของแผนกควบคุมเสียง งาน "วันกาชาด 100 ปี พุทธศักราช 2566" บริเวณสวนลุมพินี โดยวันนี้เป็นวันแรกของการจัดงานจะเน้นให้คำแนะนำเชิญชวนร้านค้าให้โหลดเข้าแอพพลิเคชั่น Sound24Thai และให้ร้านค้าวัดเสียงด้วยตนเองก่อนผ่านแอพพลิเคชั่นดังกล่าว เพราะเบื้องต้นมีร้านค้าเข้าร่วมแอพพลิเคชั่นเพียง 40 ร้าน จากทั้ง 86 ร้านที่ใช้เครื่องขยายเสียง จึงจำเป็นต้องรณรงค์ให้ร้านค้าเข้าร่วมมากขึ้น ซึ่งจะมีการตรวจวัดระดับเสียงร้านค้าและให้คำแนะนำการติดตั้งลำโพงทุกวันตั้งแต่วันนี้ถึง 18 ธันวาคมในรูปแบบการสุ่มตรวจ ตั้งแต่เวลา 19.00 - 21.00 น. พร้อมติดตั้งเครื่องตรวจวัดระดับเสียงภายในพื้นที่จัดงานกาชาดรวม 9 จุด เป็นของ คพ. และบริษัทเอกชนเข้าร่วมสนับสนุน โดย รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า แผนกควบคุมเสียงงานกาชาด ประจำปี 2566 ได้ร่วมกับผู้ประกอบการร้านค้ากำหนดแนวทางการควบคุมเสียงจากร้านค้าที่มีการใช้เครื่องขยายเสียงภายในงานกาชาดไทย โดยใช้ลำโพงน้อยที่สุด หรือเท่าที่จำเป็น และตั้งอยู่ภายในพื้นที่ร้านเท่านั้น ทั้งนี้ ยังขอความร่วมมือใช้เครื่องขยายเสียงพร้อมลำโพง 1 ร้าน ต่อ 1 ชุด ควบคุมความดังเสียงไม่ให้เกิน 80 เดซิเบลเอ และขอให้อย่าหันลำโพงไปทางรพ. จุฬาฯ และเขตชุมชน โดยเฉพาะลำโพงฮอร์นที่มีลักษณะคล้ายโทรโข่ง เพราะมีเสียงแหลมสูง สร้างความรำคาญให้กับประชาชนและชุมชน ซึ่งปีนี้ คพ.ได้พัฒนาและยกระดับการควบคุมเสียงร้านค้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ให้ผู้ดูแลร้านค้าตรวจวัดระดับเสียงร้านค้าด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชั่น เพื่อเฝ้าระวังมิให้ร้านค้าเปิดลำโพงเสียงดังเกินที่กำหนด (ไม่เกิน 80 เดซิเบลเอ) โดยตรวจวัดระดับเสียงของร้านค้าตนเองผ่านโทรศัพท์มือถืออย่างน้อยทุก 1 ชั่วโมง

สำหรับร้านค้าและประชาชน สามารถติดตามผลการตรวจวัดระดับเสียงภายในพื้นที่จะรายงานแบบ Real time ผ่านจอแสดงผลและwww.noise4thai.net เพื่อเฝ้าระวังระดับเสียงจากกิจกรรมต่างๆในงานกาชาดไม่ก่อให้เกิดผลกระทบรบกวนไปยังบริเวณชุมชนใกล้เคียงโดยรอบสวนลุมพินี โดยแผนกควบคุมเสียงงานกาชาดฯ ได้รับการสนับสนุนการพัฒนาระบบฐานข้อมูลและการเผยแพร่ระดับเสียงดังกล่าวจากบริษัท กะทิ สตูดิโอ จำกัด


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  8 ธันวาคม 2566

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เฝ้าระวังฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ต่อเนื่อง พร้อมระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากใน 10 จังหวัด

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ช่วงวันที่ 9 - 11 ธันวาคม ประเทศไทยตอนบนมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยภาคใต้ยังต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากถึงวันนี้ (8 ธ.ค.66) ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนเขื่อนบางลางได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 6 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันจนถึงวันที่ 8 ธันวาคม รวมทั้ง ให้ระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ทั้งนี้ สทนช. ยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนต่อเนื่อง เช่น กรมทรัพยากรน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยเพิ่มเติม บริเวณชุมชนบ้านรับแพรก ตำบลท่าบอน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เพื่อเตรียมพร้อมช่วยบรรเทาอุทกภัยให้กับประชาชน


© 2025 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.