• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  14 พฤษภาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศ พร้อมให้กรมชลประทานประเมินผลการระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกท้ายเขื่อนเจ้าพระยา

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (14 พ.ค.66) ว่า กอนช. ได้เฝ้าระวังประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กับมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคตะวันออก ส่วนลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร โดยพายุไซโคลน “โมคา” (MOCHA) บริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลางมีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเมียนมาช่วงวันนี้ถึง 15 พฤษภาคม ซึ่งบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร และห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ทั้งนี้ กอนช. ได้วางแผนป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะการประเมินผลการระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในโครงการตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2565 โดยกรมชลประทานได้ติดตามสภาพปัญหาอุทกภัยปี 2565 คือ ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสภาพปัญหาน้ำท่วมทุ่งรับน้ำผักไห่และการระบายน้ำของคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หนต่อเนื่อง // โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเจ้าเจ็ด-บางยี่หน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรับทราบผลการดำเนินการการระบายน้ำหลาก ปัญหาอุปสรรคของการรับน้ำและการระบายน้ำในทุ่งรับน้ำเจ้าเจ็ดต่อเนื่องทุ่งรับน้ำพระยาบรรลือ

รวมทั้ง ยังติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว พร้อมเครื่องสูบน้ำโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครปฐม (ระยะที่ 1) อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม งบประมาณ 42 ล้านบาท และตั้งงบประมาณดำเนินการโครงการระยะที่ 2 ในปี 2567 จำนวน 50 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างกำแพงป้องกันตลิ่งคลองบางแก้ว ความยาวประมาณ 400 เมตร


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  13 พฤษภาคม 2566

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำจืดในฤดูปลาน้ำจืดมีไข่ ด้วยการกำหนดให้ใช้เครื่องมือ วิธีการทำประมงที่ไม่เป็นการทำลายพันธุ์ทรัพยากรสัตว์น้ำจืดและเป็นเครื่องมือที่ประชาชนใช้จับสัตว์น้ำเพื่อการดำรงชีพให้สามารถจับสัตว์น้ำจืดในช่วงเวลาการบังคับใช้มาตรการทั่วประเทศ โดยเปิดโอกาสให้ทรัพยากรสัตว์น้ำได้มีการฟื้นตัวและเกิดขึ้นใหม่เข้าทดแทนสัตว์น้ำเดิมที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ และดำรงอยู่อย่างยั่งยืน อันเป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้แก่ประชาชนเช่นเดียวกับมาตรการปิดอ่าวของฝั่งทะเล

จากการติดตามประเมินผลมาตรการฤดูน้ำแดงในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา (2564 – 2565) ที่ผ่านมาครอบคลุมพื้นที่ 20 ลุ่มน้ำ 49 จังหวัด 72 แหล่งน้ำ 126 จุดเก็บตัวอย่าง รวมตัวอย่างปลาทั้งหมด 175 ชนิด พบว่า ปลาส่วนใหญ่วางไข่เกือบทั้งปี โดยผลสำเร็จจากการออกประกาศฯ ที่ผ่านมา สามารถรักษาพ่อแม่พันธุ์ในภาพรวมของประเทศไทยได้มากถึงร้อยละ 59.9 ซึ่งปริมาณพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ มีความใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่ผ่านมาส่งผลให้พ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำจืดมีโอกาสได้สืบพันธุ์วางไข่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ประกอบกับข้อมูลจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ลักษณะอากาศของประเทศไทยราย 3 เดือนปรากฎการณ์เอนโซ่ยังคงสภาวะเป็นลานีญา และปรากฎการณ์เอนโซ่จะเข้าสู่สภาวะปกติในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน 2566 ซึ่งจะทำให้ในช่วงมีนาคม - พฤษภาคม 2566 ปริมาณฝนและอุณหภูมิบริเวณประเทศไทยจะใกล้เคียงค่าปกติ นั่นหมายถึงว่า ช่วงระยะเวลาดังกล่าวจะเข้าสู่ช่วงฤดูน้ำแดง และเพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การรักษาสัตว์น้ำ และระบบนิเวศเกิดความยั่งยืน ตามหลักการบริหารจัดการทรัพยากรฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ (ฤดูน้ำแดง)

มาตรการฯ ฤดูน้ำแดง ยังคงกำหนดพื้นที่และระยะเวลา รวมถึงเครื่องมือที่ให้ใช้เป็นไปตามมาตรการเดิม โดยมีการเพิ่มอำนาจให้กับคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด ให้สามารถออกประกาศกำหนดพื้นที่ เครื่องมือ วิธีการทำการประมง และเงื่อนไขการทำการประมง เพื่อให้มีความเหมาะสมตามสภาพข้อเท็จจริงของแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ การกำหนดพื้นที่ ระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัววัยอ่อน และกำหนดเครื่องมือ วิธีการทำการประมง เงื่อนไขในการทำการประมง ประจำปี 2566 แบ่งพื้นที่และระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายออกเป็น 3 ระยะ ตามความเหมาะสมของระบบนิเวศน์แต่ละพื้นที่ ในส่วนของเครื่องมือ วิธีการทำการประมงที่อนุญาตให้สามารถทำการประมงในฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ได้อาทิ เบ็ดทุกชนิด ยกเว้น เบ็ดราว เบ็ดพวงที่ทำการประมงโดยวิธีการกระชาก หรือการใช้เครื่องมืออื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ตะแกรง สวิง ช้อน ยอ หรือชนาง ซึ่งมีขนาดปากกว้างไม่เกิน 2 เมตร และไม่ทำการประมงด้วยวิธีประดาตั้งแต่ 3 เครื่องมือขึ้นไป รวมถึงแหที่มีความลึกไม่เกิน 6 ศอก (3 เมตร) เป็นต้น

กรณีที่คณะกรรมการประมงประจำจังหวัด ประกาศกำหนดมาตรการอนุรักษ์ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง โดยห้ามทำการประมงที่ใช้เครื่องมือ วิธีการทำการประมง และเงื่อนไขในการทำการประมงอย่างหนึ่งอย่างใด ตามวรรคหนึ่ง 1 – 5 ให้ถือปฏิบัติตามประกาศนั้นด้วยหากผู้ใดฝ่าฝืนตามประกาศฯ มาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษปรับตั้งแต่ห้าพันถึงห้าหมื่นบาท หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำประมง


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  12 พฤษภาคม 2566

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ในปีนี้กรมการข้าวมีการจัดงานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตด้านเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2566 ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยการจัดงานในส่วนกลางนั้น ในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายน 2566 ที่กรมการข้าว ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ภายใต้ชื่องาน 91 พรรษา สายธารแห่งน้ำพระทัย สร้างชาวนาวิถีใหม่ สู่ข้าวไทยยั่งยืน ซึ่งในวันจันทร์ที่ 5 มิถุนายนนี้ กรมการข้าวจะมีการจัดพิธีบวงสรวงบูชาแม่โพสพ เทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในวันรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตด้านเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2566 เพื่อเป็นการสร้างสิริมงคล รำลึกถึงความสำคัญของข้าว สำหรับการจัดงานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตด้านเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2566

ในส่วนของภูมิภาค ในปีนี้จัดขึ้นทั้งหมด 2 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดนครราชสีมา โดยการจัดงานในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จัดขึ้นที่ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ในวันที่ 16-17 มิถุนายน 2566 การจัดงานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จัดขึ้นที่เซ็นทรัล นครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 22- 23 มิถุนายน 2665 สำหรับการจัดงานทั้ง 3 แห่งนั้น จะขนขบวนนิทรรศการและการสาธิตด้านการลดต้นทุนการผลิตข้าวโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การแสดงวิถีชีวิตชาวนา รวมทั้งวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวกับข้าวและชาวนา ตลอดจนการประกวด แข่งขัน สาธิต จัดแสดงนวัตกรรมจากข้าวในรูปแบบต่างๆ ที่น่าสนใจและทันสมัย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  11 พฤษภาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งช่วงวันที่ 11 - 14 พฤษภาคมนี้ พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระวังจุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำพร้อมรับมือฤดูฝน

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (11 พ.ค.66) ว่า กอนช. ได้เฝ้าระวังช่วงวันที่ 11 – 15 พฤษภาคม พายุดีเปรสชั่นบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลนในระยะต่อไป คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศบังคลาเทศและเมียนมาช่วงวันที่ 14 - 15 พฤษภาคม ส่งผลให้ช่วงวันที่ 11 - 14 พฤษภาคมประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ประกอบกับ ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่ฝนฟ้าคะนองสูงมากกว่า 2 เมตร

ทั้งนี้ กอนช. กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ พร้อมปรับแผนบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ควบคู่กับกักเก็บและสำรองไว้ใช้หากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ซึ่งแนวโน้มช่วงฤดูฝนปีนี้ฝนจะน้อยกว่าค่าปกติ รวมทั้ง ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมอพยพได้ทันท่วงทีกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  10 พฤษภาคม 2566

นายวินิต อธิสุข รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์สินค้าเกษตรที่สำคัญในปี 2566 ว่า จากปัจจัยสำคัญของปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากตั้งแต่ปี 2565 ช่วงเดือนกันยายน ที่มีพายุโนรู เข้ามาประเทศไทย ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสูงกว่าค่าปกติ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่และปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำตามธรรมชาติมีมากกว่าปีที่แล้ว ส่งผลให้เกษตรกรมีความมั่นใจในการเพาะปลูก มีน้ำที่จะใช้ในการเพาะปลูก มีเพียงพอ ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษา อีกทั้งสินค้าเกษตรบางชนิด มีโครงการส่งเสริมการปลูกคุณภาพโดยการผลิตนอกฤดูเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ผลผลิตสินค้าเกษตรสำคัญหลายชนิดในปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

จากการประชุมคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลปริมาณการผลิตสินค้าเกษตร ล่าสุดที่ประชุมได้พิจารณาและคาดการณ์ผลผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญหลายชนิดปีนี้เพิ่มขึ้น พบว่าข้าวนาปรัง คาดว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ปาล์มน้ำมัน คาดว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยเนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้นเพราะราคาดี เกษตรกรมีการปลูกทดแทนยางพารา ขณะที่ยางพารา คาดว่าเนื้อที่ให้กรีดได้รวมทั้งประเทศประมาณท21 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ให้ผลผลิตรวมทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.59 ด้าน ทุเรียนคาดว่าราคาทุเรียนที่เกษตรกรขายได้อยู่ในเกณฑ์ดี เกษตรกรจึงให้การบำรุงดูแลดีขึ้น ส่วนกุ้งขาวแวนนาไม ปีนี้ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่เกษตรกรพอใจ ตามการประกันราคาขั้นต่ำของคณะกรรมการบริหารห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ ช่วยให้เกษตรกรมีความมั่นใจในการเลี้ยงกุ้งมากขึ้น ประกอบกับความต้องการบริโภคทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับกุ้งกุลาดำที่ แนวโน้มของราคาที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะความต้องการของลูกค้าจากประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักที่เริ่มเปิดประเทศตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 ประกอบกับการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ทำให้มีเที่ยวบินตรงมายังภูเก็ตเพิ่มขึ้น ปัญหาการขนส่งกุ้งกุลาดำมีชีวิตจากแหล่งผลิตภาคใต้เริ่มคลี่คลาย ช่วยให้เกษตรกรมีความมั่นใจในการเลี้ยงกุ้ง


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  9 พฤษภาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังพายุฤดูร้อนและและลูกเห็บตกบางแห่งในหลายพื้นที่ของประเทศต่อเนื่อง พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระวังจุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำพร้อมรับมือฤดูฝน

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (9 พ.ค.66) ว่า กอนช. ได้เฝ้าระวังพายุฤดูร้อนต่อเนื่อง โดยประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากบริเวณ จ.พะเยา // เชียงราย และลำพูน จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ พร้อมปรับแผนบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ควบคู่กับกักเก็บและสำรองไว้ใช้หากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ซึ่งแนวโน้มช่วงฤดูฝนปีนี้ฝนจะน้อยกว่าค่าปกติ รวมทั้ง ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมอพยพได้ทันท่วงทีกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น

ทั้งนี้ กอนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝนปีนี้ อย่างเช่น กรุงเทพมหานคร เร่งล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำเตรียมพร้อมรับฝนให้ท่อระบายน้ำไหลได้สะดวก รวดเร็ว ไม่อุดตัน โดยดำเนินการในหลายจุด เช่น เขตจตุจักร ถ.กำแพงเพชร 1 ถึง ถ.วิภาวดีรังสิต เขตลาดพร้าว สามแยกประดิษฐ์มนูธรรม 19 เขตวัฒนา ซ.สุขุมวิท 39 เขตลาดพร้าว ถ.โชคชัย 4 เขตภาษีเจริญ ซ.เพชรเกษม 46 // ก่อสร้างแก้มลิงวงเวียนบางเขนและงานก่อสร้างระบบระบายน้ำคูนายกิมสาย 2 โดยทั้ง 2 โครงการคาดจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตบางเขนและเขตดอนเมือง // ก่อสร้างและปรับปรุงแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองบางกอกน้อย 21 แห่ง ก่อสร้างเสร็จแล้ว 5 แห่ง และมีเป้าหมายให้โครงการที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จสามารถป้องกันน้ำท่วมได้ทันหน้าน้ำหลากปีนี้ // ก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนาบริเวณคอขวด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างปล่องอุโมงค์ โดยอุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนานี้จะช่วยระบายน้ำหลากและระบายน้ำฝนแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตทวีวัฒนา เขตหนองแขม และเขตบางแค คาดว่า โครงการจะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2567

พร้อมขอความร่วมประชาชนไม่ทิ้งขยะลงท่อระบายน้ำ


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  8 พฤษภาคม 2566

ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวสูงขึ้นบางพื้นที่ แต่ภาพรวมคุณภาพอากาศดี

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (8 พ.ค.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ปรับตัวสูงขึ้นบางพื้นที่ เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 7 พื้นที่ ใน จ.เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และน่าน อยู่ที่ 56 – 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยจะมีแนวโน้มดีขึ้นถึงปานกลางตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคมเป็นต้นไป เนื่องจากความเร็วลมที่ระดับชั้นบนมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้การระบายฝุ่นของพื้นที่ดีขึ้น ประกอบกับ วันที่ 9 - 12 พฤษภาคม อาจเกิดฝนตกได้บางพื้นที่ทั้งภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 2 พื้นที่ ใน จ.เลย และหนองคาย อยู่ที่ 51 – 52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงดีต่อเนื่อง ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  7 พฤษภาคม 2566

นายแพทย์ สินชัย ตันติรัตนานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5 ) จังหวัดสุรินทร์ขณะนี้ว่า อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศดี โดยค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ภาพรวมทั้งจังหวัด อยู่ที่ 27.4 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร สูงสุดที่อำเภอรัตนบุรี 30.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ต่ำสุดที่อำเภอปราสาท 24.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งประชาชนโดยทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและท่องเที่ยวได้ตามปกติ ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวยังคงต้องหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง และเฝ้าระวังสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น หากมีอาการผิดปกติควรไปพบแพทย์ทันที

ทั้งนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 23-60 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 2 พื้นที่ โดยกรมควบคุมมลพิษคาดการณ์ว่าคุณภาพอากาศช่วง 1-2 วันข้างหน้า ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงในบางพื้นที่


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.