สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 13 ธันวาคม 2566
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการว่าจะทำอย่างไรต่อไป ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่เราก็ไม่ได้นอนใจ ซึ่งรัฐบาลก็เริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์ห้ามเผาป่า รับทราบดีว่าช่วงเวลานี้ของทุกปีจะเป็นช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 จะสูงขึ้น แต่เราก็พยายามจะบริหารจัดการต่อไป ไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่วนหนึ่งปัญหาฝุ่นที่เกิดขึ้นมาจากการเผา รวมถึงภาคกลางด้วยที่มีการเผาซากของพืชผลทางการเกษตร ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปดูแลตรงนี้ด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ประสานทางกองทัพให้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย โดยภาคเหนือ ได้มีการพูดคุยกันแม่ทัพภาคที่ 3 และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็ช่วยดูแลเฝ้าระวังเรื่องการเผาป่า ซึ่งการสัมมนา "SUSTAINABILITY FORUM 2024” เรื่อง Clean Energy for Thailand Economy through Sustainability ในวันนี้ เชื่อว่าเป็นการสร้าง การรับรู้ให้ทุกคนทราบว่าปัญหานี้ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันรับผิดชอบในการที่จะทำให้ปัญหาฝุ่นลดลง ขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเมียนมาและ สปป.ลาว ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะมีปัญหาฝุ่น PM2.5 ทุกปี และได้มีการพูดคุยกันจะต้องบริหารจัดการเรื่องการเผาซากผลผลิตทางการเกษตร เพราะมีภาคเอกชนของไทย ไปจ้างการปลูกพืชที่ สปป.ลาว ด้วย ซึ่งได้มีการพูดคุยว่า หากจะนำผลผลิตกลับเข้ามาขายในประเทศไทย จะต้องบริหารจัดการเรื่องการเผาให้ได้ ส่วนที่ประเทศเมียนมา ก็ต้องให้ทหารเข้าไปช่วยพูด เราไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามพูดคุยตลอดเวลา
นายกรัฐมนตรี ยังยกตัวอย่างมาตรการทางภาษีของผู้ประกอบการในการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า ภาคเอกชน ที่ไปจ้างปลูกข้าวโพดที่ฝั่ง สปป.ลาว แล้วจะนำกลับมาขายในประเทศไทย หากมีการตรวจสอบพบว่า มีการเผาซากผลผลิต เราก็จะชาร์จภาษีกับผู้ประกอบการ และจะนำเงินส่วนนี้มาช่วยในการแก้ไขปัญหาไฟป่า รวมถึงการบำบัดซากตอซังข้าว หรือข้าวโพด พัฒนาไปทำอย่างอื่นได้ เช่น ค่าขนส่ง เชื่อว่าผู้ประกอบการทุกคนจะเห็นด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ ที่พนักงานและลูกหลานของผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบจากอากาศที่ไม่บริสุทธิ์