• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  13 กันยายน 2565

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เดินหน้าแก้ปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อมในประเทศอย่างจริงจังจนประสบความสำเร็จ สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนกว่า 700 เรื่อง ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม คพ. ได้รับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2565

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากการที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้เสริมบทบาทเชิงรุกด้านสิ่งแวดล้อม มีความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมาย และใช้กฎหมายทางการปกครองมากขึ้น พร้อมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.) หรือ EPU เป็นศูนย์เฉพาะกิจ ในการปฏิบัติการติดตามตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกับแหล่งกำเนิดมลพิษที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ลงโทษต่อผู้กระทำผิด และให้เกิดการชดใช้ค่าเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน เพื่อแก้ปัญหามลพิษ กลิ่นเหม็น ขยะ ของเสีย น้ำเสีย กากของเสียอันตราย ทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชน และส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมาต่อเนื่องในทุกปี แล้วสาเหตุมาจากโรงงานอุตสาหกรรมและสถานประกอบการขนาดเล็กในชุมชน ทั้งนี้ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คพ. ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการจัดการด้านมลพิษและเครือข่ายภาคประชาชนแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนกว่า 700 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นกรณีพบการกระทำความผิดที่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมจนนำไปสู่ขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมายทุกฉบับ บางกรณีมีผู้ก่อมลพิษชดใช้ค่าใช้จ่ายภาครัฐแล้ว บางกรณีอยู่ระหว่างฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม การกำกับดูแลให้เกิดการขนย้ายของเสียออกจากพื้นที่และส่งกำจัดอย่างถูกต้อง และบางกรณีอยู่ระหว่างการร้องทุกข์กล่าวโทษและประเมินความเสียหาย

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวย้ำว่า จากการดำเนินงานอย่างจริงจังจนเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและคุณภาพสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ คพ.ได้รับรางวัลรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2565 จากคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ถือเป็นรางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประเภทสัมฤทธิผลประชาชนมีส่วนร่วม (Effective Change) ระดับดี คือ “ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม : รูปแบบการแก้ไขปัญหามลพิษเชิงรุกอย่างบูรณาการ” และยังได้รับรางวัลบริการภาครัฐ ประเภทบูรณาการข้อมูลเพื่อการบริการ ระดับดี คือ “ระบบบูรณาการข้อมูลด้านทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม (ฝน ฝุ่น และคุณภาพน้ำ) รวม 2 รางวัลด้วย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  12 กันยายน 2565

วันนี้ (12 ก.ย.65) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจราชการ ติดตามสถานการณ์ชายแดนและสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ณ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก หลังจากนั้น ลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด ต.พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ โดย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอสถานการณ์น้ำในภาพรวม และนายชูชาติ รักษ์จิต รองอธิบดีกรมชลประทานฝ่ายก่อสร้าง นำเสนอสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดตาก พร้อมพบปะประชาชนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการทำงาน

โดยการลงพื้นที่จังหวัดตาก ของรองนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ได้ทราบข้อมูลสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต จึงได้ดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สมบูรณ์ เพื่อรองรับการขยายตัวทางสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  11 กันยายน 2565

เจอทางออก แก้ปัญหา โรคใบยางร่วง ให้ชาวสวนยางภาคใต้ หลังเจอปัญหากว่า 8 ปี

พรรคประชาชาติร่วมวิจัยปัญหาโรคใบยางร่วงให้พี่น้องสวนยางจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สำเร็จแล้ว หลังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา โดยวันนี้ ที่อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส. ยะลา เขต 3 และ ผศ.ดร.อิสมะแอ เจ๊ะหลง อาจารย์คณะวิทยาศาตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ร่วมกันหารือแนวทางการนำไปทดลองใช้กับต้นยางให้กับชาวสวนยาง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยด่วนที่สุดเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือให้กับชาวสวนยาง หลังจากต้องประสบปัญหามานานไม่ต่ำกว่า 8 ปี

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวโดยสรุปว่า ชาวสวนยาง ในภาคใต้ ประสบปัญหาใบยางร่วง ได้ไปดูมาแล้วช่วงหนึ่ง ในภาคราชการยังพยายามจะช่วยแต่ว่ายังไม่ค่อยมีความคืบหน้า ที่ ชาวบ้านยังรู้สึกว่ายังไม่มีใครมาช่วย คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาเนื่องจากเป็นมหาลัยที่ทำการศึกษาวิจัย เรื่องนี้ โดยเฉพาะในช่วงหนึ่งที่ทางอาจารย์ และทางพรรค โดย ส.ส. ยะลา เขต 3 ได้มาร่วมทดลอง ประสบความสำเร็จอย่างมีนัยยะ ทั้งโรคใบยางร่วงและโรคกล้วยหิน มีความมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาโรคใบยางร่วงได้ วิธีการก็คือ พรรคเรา ส่งเสริมเพื่อการใช้ เทคโนโลยี ใช้ความรู้ ใช้การวิจัย มาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนงานวิจัยกับอาจารย์

เราจะมีพื้นที่ทดลอง เพื่อให้ได้เป็นความหวังของประชาชน คือการที่ได้ปล่อยไป มันเป็นเงินที่ต้องสูญหายไป เพราะผลผลิตยางที่ดินเท่าเดิม ผลผลิตน้อยลงครึ่งหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่เราทำได้ ราคายางเราก็กำหนดไม่ได้ ขึ้นอยู่กับตลาดโลก แต่สิ่งที่เราทำได้คือทำให้ยางมีผลผลิตมากขึ้น เพราะยังเป็นที่ต้องการของโลกอยู่ แต่ตอนนี้ผลผลิตยังไม่มากขึ้นยังลดลงไปครึ่งหนึ่ง เพราะยางเป็นโรค เราก็ต้องมารักษาโรค และต้องปฏิบัติเชิงรุกด้วยว่าจะทำยังไงให้น้ำยางมากกว่าเดิม อันนี้ที่เรามาคุยหารือกัน และได้ตกผลึกแล้วว่า ของอาจารย์สามารถที่จะใช้สารชีวภัณฑ์แล้วเราจะเอาเกษตรกร ที่อยู่ในโครงการเรา ได้ทดลอง ทางราชการ ได้นำไปใช้ เกือบล้านไร่ ซึ่ง เกือบล้านไร่ที่น้ำยางลดก็เหมือนทำให้เงินหายไปมากมายเลย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  9 กันยายน 2565

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยคณะกรรมการเห็นชอบรายงาน EIA เพื่อการบริหารจัดการน้ำ ของกรมชลประทาน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกอน อ.เชียงกลาง จ.น่าน และโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำให้มีน้ำใช้เพียงพอตลอดทั้งปี และแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ให้แก่ประชาชน รวมถึงเห็นชอบโครงการโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ระยะที่ 1 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในเขตนครหลวง โดยกำชับให้เจ้าของโครงการต้องดำเนินการตามมาตรการฯ ที่กำหนดในรายงานอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งรับความเห็นของคณะกรรมการไปดำเนินการ และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญต่อการป้องกันการปนเปื้อนมลพิษ โดยเห็นชอบต่อการกำหนดมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำผิวดิน เพื่อปกป้องมนุษย์ผ่านห่วงโซ่อาหาร และปกป้องสัตว์หน้าดิน เนื่องจากการปนเปื้อนมลพิษในสิ่งแวดล้อมมักเคลื่อนย้ายมาสะสมในตะกอนดิน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  8 กันยายน 2565

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ร่วมกับ กรมป่าไม้ และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ช่วยกันปลูกป่าพื้นที่ป่าต้นน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและลดโลกร้อนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองตะเคียน เพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำให้ประเทศ

นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ร่วมกับ กรมป่าไม้ และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมทำกิจกรรมปลูกป่าพื้นที่ป่าต้นน้ำลดวิกฤติสภาวะโลกร้อน ลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองตะเคียน อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี ถือเป็นการสร้างความสมดุลให้กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกิดความยั่งยืน โดยเฉพาะการฟื้นฟูและการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ประเทศ เพราะการปลูกป่าในพื้นที่ต้นน้ำจะช่วยเพิ่มศักยภาพพื้นที่แหล่งต้นน้ำ ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ช่วยรักษาฟื้นฟูระบบนิเวศตามธรรมชาติ และคืนความสมดุลให้กับความหลากหลายทางชีวภาพ สิ่งสำคัญประชาชนสามารถเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน มีส่วนร่วมอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติได้รับการอนุรักษ์ฟื้นฟูต่อเนื่อง ทั้งนี้ พื้นที่ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่เคยออกใบอนุญาตให้สัมปทานปลูกไม้ยูคาลิปตัส แต่ปัจจุบันไม่มีการต่อใบอนุญาตสัมปทานดังกล่าว ทำให้กรมป่าไม้เร่งฟื้นฟูพื้นที่ป่าให้คืนความอุดมสมบูรณ์โดยเร็ว หลังพบพื้นที่แห่งนี้เป็นเส้นทางเดินของช้างป่าที่มาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน

นอกจากนี้ สผ.ยังได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการการมีส่วนร่วมส่งเสริมและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ความรู้เรื่องทิศทางการเติบโตทางด้านอุตสาหกรรมพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรีกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึง การปลูกป่าให้เป็นแหล่งต้นน้ำ แหล่งดูดซับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และประโยชน์ทางคาร์บอนเครดิต ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ในประเทศไทย จำเป็นต้องมุ่งเน้นให้ความรู้อย่างเร่งด่วนในทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันเปลี่ยนปัญหาเป็นโอกาสในตลาดคาร์บอน เร่งลดการปล่อยคาร์บอน สร้างโอกาสธุรกิจสีเขียว แปลงคาร์บอนเครดิตเป็นรายได้ เพื่อสร้างความสามารถการแข่งขันให้อยู่รอด ควบคู่กับ พัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืน แล้วขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในอนาคต


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  7 กันยายน 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ทั่วประเทศหลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พร้อมระวังระดับน้ำในเขื่อน 7 แห่งสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำ

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (7 ก.ย.65) ว่า ประเทศไทยในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากบริเวณ จ.กรุงเทพมหานคร 178 มิลลิเมตร , ปทุมธานี 149 มิลลิเมตร และนราธิวาส 129 มิลลิเมตร พร้อมเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ภาคเหนือ บริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี // ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด นครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี // ภาคตะวันออก บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด // ภาคกลาง บริเวณ จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง กาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี กรุงเทพมหานครและปริมณฑล // ภาคใต้ บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา กระบี่ และภูเก็ต ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำแหล่งน้ำทุกขนาด 52,207 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 64 และเฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง คือ แม่งัดสมบูรณ์ชล แควน้อยบำรุงแดน บึงบอระเพ็ด อุบลรัตน์ ขุนด่านปราการชล บางพระ และหนองปลาไหล


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  6 สิงหาคม 2565

ที่มา : https://mgronline.com/business/detail/9650000085214

บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรน้ำตลอดกระบวนการผลิตให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยหลักการ 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) ขับเคลื่อนผ่านทุกกิจกรรมทางธุรกิจในทุกโรงงานและสถานประกอบการ มุ่งสู่การเป็น “โรงงานสีเขียว” ที่มีส่วนร่วมรักษาทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยบริษัทฯ สามารถลดปริมาณการใช้น้ำต่อหน่วยการผลิตลงได้ถึง 91% บริษัทฯ ได้ใช้เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงในการบำบัดน้ำที่เหลือจากกระบวนการผลิตให้มีคุณภาพที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดก่อนปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ รวมถึงการนำมาหมุนเวียนใช้ภายในโรงงานอีกด้วย กิจกรรมเหล่านี้นับเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้กลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้ได้ 50% ภายในปี 2030 ตามแผนการส่งเสริมความยั่งยืนของโลกที่ได้วางไว้


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  5 สิงหาคม 2565

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ย้ำ ประเทศไทยยังขาดแคลนบุคลากรด้านสมุทรศาสตร์ จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาเข้ามาเป็นกลไกทางปัญญาจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หลังพบคนไทยมีความรู้ด้านสมุทรศาสตร์เพียงร้อยละ 10

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวปาฐกถาพิเศษ “วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อทะเลที่ยั่งยืน” ในการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์ทางทะเลครั้งที่ 7 จัดโดย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง , สมาคมวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่า การพัฒนาบุคลากรเข้ามาจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจำเป็นต้องติดอาวุธทางปัญญาเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับแนวคิดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 แนวคิดของโลกปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะเรื่องของสมุทรศาสตร์ที่มีพื้นที่มหาสมุทรมากกว่าร้อยละ 70 แต่ปัจจุบันพบมนุษย์สามารถศึกษาวิจัยได้เพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ขณะที่คนไทยมีความรู้เรื่องสมุทรศาสตร์ไม่ถึงร้อยละ 10 จำเป็นต้องเพิ่มความรู้ด้านกลไกทางทะเลให้มากขึ้น โดยเริ่มจากยกระดับและพัฒนาการศึกษาของเยาวชนมาสร้างงานวิจัยและอนุรักษ์ทรัพยากร ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนมิถุยายนที่ผ่านมาบนเวทีการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยมหาสมุทร ครั้งที่ 2 ณ กรุงลิสบอน สาธารณรัฐโปรตุเกส ประเทศไทยได้แสดงจุดยืนการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการจัดการขยะทะเล การแก้ปัญหามลพิษทางทะเล การจัดการความเป็นกรดในมหาสมุทร และการจัดการประมงผิดกฎหมายให้สอดรับกับการดำเนินการทศวรรษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยวิทยาศาสตร์ทางมหาสมุทรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2021 – 2030 เพื่อมุ่งลดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่อาจจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวย้ำถึงแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องการกัดเซาะชายฝั่งทะเลว่า จะนำเรื่องการทำแนวกำแพงคลื่นกลับมาทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ใหม่อีกครั้ง เนื่องจากปัจจุบันปัญหาของการกัดเซาะชายฝั่งของไทยยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องมากกว่า 800 กิโลเมตร จากพื้นที่ชายฝั่งของประเทศไทยประมาณ 3,151 กิโลเมตร หรือในพื้นที่ 24 จังหวัดชายทะเล โดยเชื่อจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาการกัดเซาะฝั่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแล้ว


  1. กรมวิชาการเกษตร ขานรับนโยบายนำเจ้าหน้าที่ลงเรือ ตรวจติดตามการนำเข้าปุ๋ยยูเรียจากเรือใหญ่ และการขนถ่ายปุ๋ยยูเรีย
  2. จังหวัดลำปาง ร่วมสรุปและถอดบทเรียน (After Action Review : AAR) การป้องกันและเเก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง มุ่งสู่แผนการดำเนินงาน ในปี 2566
  3. สคทช. ร่วมกับ 21 หน่วยงาน เร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ประชาชนใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างคุ้มค่าและถูกกฎหมาย เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน
  4. กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปิดหน่วยปฏิบัติการฯ ปี 65 เหตุปีนี้ฝนตกปริมาณมาก พร้อมตั้งหน่วยฯ เคลื่อนที่เร็วช่วยพื้นที่ต้องการน้ำช่วงปลายฤดูฝน
© 2025 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.