สคทช. ร่วมกับ 21 หน่วยงาน เร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ประชาชนใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างคุ้มค่าและถูกกฎหมาย เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน
- pratip
- ข่าวสิ่งแวดล้อม
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 2 กันยายน 2565
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ร่วมกับ 21 หน่วยงาน เร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ประชาชนใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างคุ้มค่าและถูกกฎหมาย เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน
นางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ร่วมกับ 21 หน่วยงาน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ คทช. ถือเป็นการแสดงเจตจำนงและช่วยกันพัฒนาพื้นที่ คทช. โดยการสนับสนุนจัดทำโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่า การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในลักษณะแปลงรวม โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์เป็นกลุ่มหรือชุมชน ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหาความยากจน ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการขาดที่ดินทำกินโดยให้ประชาชนผู้ยากไร้ได้มีสิทธิทำกิน และอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ป้องกันการเปลี่ยนมือ การเข้ามาครอบครองของนายทุน และเกษตรกรมีที่ดินทำกินอย่างยั่งยืน แล้วตกทอดไปถึงลูกหลานได้ พร้อมให้หน่วยงานรัฐเร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไฟฟ้า ประปา เส้นทางคมนาคม และแหล่งน้ำอุปโภค-บริโภคต่างๆ เพื่อให้สามารถลงหลักปักฐานต่อไปในระยะยาวได้ รวมทั้ง ให้พัฒนาและส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่แล้วต่อยอดไปสู่การจัดหาตลาด และช่องทางการกระจายผลผลิตทางการเกษตร เพื่อให้ประชาชนมีรายได้อย่างเพียงพอ มั่นคง มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และพึ่งพาตนเองได้
ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) กล่าวย้ำว่า โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคฯได้ลงนามเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ คือ กรมป่าไม้ กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกลุ่มหน่วยงานพัฒนา คือ การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการร่วมกันให้เกิดการอนุญาตและดำเนินการที่รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะด้านการพัฒนา เส้นทางคมนาคมขนส่ง การพัฒนาแหล่งน้ำ และระบบไฟฟ้าที่จะช่วยให้ประชาชนได้รับการจัดที่ดินและมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืน