• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  7 พฤศจิกายน 2567

ที่มา: https://www.facebook.com/share/p/swDQc2avjgJx5RYi/

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยกองจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจการจัดทำระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุม 1001 ชั้น 10 อาคารทิปโก้ 2 โดยนายประเสริฐ ศิรินภาพร เลขาธิการ สผ. และศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) การจัดทำระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย ระหว่าง สผ. และ สวทช. เพื่อสนับสนุนและผลักดันการดำเนินงานการจัดทำระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ของ สผ. และ สวทช. เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม จำนวน 50 คน

การลงนามในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการผนึกกำลังและใช้จุดแข็งของทั้งสององค์กร ทั้งความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและงานวิจัยของ สวทช. หรือ การบริหารจัดการด้านนโยบายและแผนของ สผ. นำมาต่อยอดสร้างฐานข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพ สำหรับการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจ การแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม การบริหารจัดการ การตอบสนองพันธกรณีและความตกลงระหว่างประเทศ ความร่วมมือในระดับภูมิภาค ตลอดจนสนับสนุนการใช้ TH – BIF ในการสืบค้นและอ้างอิงข้อมูลในงานวิชาการ งานวิจัย และสนับสนุนการปฏิบัติงานตามภารกิจที่รับผิดชอบ ให้บังเกิดผลในราชการและประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนร่วมกันต่อไป


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  6 พฤศจิกายน 2567

ที่มา https://nakornchiangrainews.com/santa-cruz-bans-filter-cigarettes-environmental-health-policy/

ซานตาครูซ (Santa Cruz County) ในสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศแบนการขายบุหรี่ที่มีไส้กรอง โดยถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในสหรัฐฯ เพื่อลดมลพิษที่เกิดจากบุหรี่ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน การแบนนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับดูแลของเทศมณฑลซานตาครูซ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2567 ทำให้เทศมณฑลซานตาครูซกลายเป็นเขตอำนาจศาลแรกในประเทศที่ใช้กฎหมายห้ามนี้อย่างเป็นทางการ

การดำเนินการห้ามขายบุหรี่ที่มีไส้กรองในซานตาครูซนี้ได้ใช้วิธีการร่วมมือ โดยกำหนดให้เมืองที่อยู่ในเขตเทศมณฑลซานตาครูซอย่างน้อย 2 ใน 4 เมืองต้องดำเนินกฎหมายที่คล้ายคลึงกัน เพื่อให้เกิดการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งและบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม การใช้แนวทางนี้ยังช่วยให้เกิดความสอดคล้องกับนโยบายระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้การบังคับใช้กฎหมายมีความครอบคลุมและเพิ่มประสิทธิภาพในการลดมลพิษจากบุหรี่อย่างแท้จริง

นโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางการปกป้องสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้นทั่วสหรัฐฯ ตัวอย่างเช่นในรัฐฟลอริดาซึ่งได้ออกกฎหมายในปี พ.ศ. 2565 อนุญาตให้แต่ละเมืองบังคับใช้การห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่ชายหาดและสวนสาธารณะ ซึ่งผลักดันให้มณฑลและเทศบาลมากกว่า 50 แห่งนำแนวทางนี้ไปปรับใช้ นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหามลพิษในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  5 พฤศจิกายน 2567

ที่มา: https://www.sentangsedtee.com/today-news/article_295225

บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้จัดโครงการ e-Waste HACK BKK 2024 ขึ้น ภายใต้ความร่วมมือกับ สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน ประจำประเทศไทย กรุงเทพมหานคร คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และบริษัท เอสเค เทส ไทยแลนด์ จำกัด โดยเป็นโครงการระดมสมอง “นวัตกร” รุ่นใหม่ แฮ็กไอเดีย สร้างมูลค่าจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ รีไซเคิลชิ้นส่วน e-Waste ต่อยอดเป็นนวัตกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานได้จริง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น ตอบโจทย์ความท้าทาย ทั้งด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และสาธารณสุข

ทีม One Day Miracle plus+ จากโรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี ผู้พิชิตรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นเจ้าของผลงานไอเดียสร้างนวัตกรรมจาก e-Waste ในรูปของ เครื่องดักจับคาร์บอนด้วยเทคโนโลยี DAC หรือ Direct Air Capture โดยนางสาวศิริวภา พรหมห้อง ตัวแทนทีม กล่าวว่า นวัตกรรมจาก e-Waste ในรูปของเครื่องดักจับคาร์บอนด้วยเทคโนโลยี Direct Air Capture เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการผลิตเป็นก๊าซ Ethylene ใช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมเคมี พลาสติก และการผลิตเครื่องสำอาง ชิ้นส่วน e-Waste ที่นำมาใช้ประกอบเป็นเครื่องดักจับคาร์บอนด้วยเทคโนโลยี Direct Air Capture ตามแนวคิดครั้งนี้ ประกอบด้วย ชิ้นส่วน Power Supply ของคอมพิวเตอร์ เครื่องฟอกอากาศพัดลมไอน้ำ โดยใช้ Case และพัดลม และชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ

ทีม One Day Miracle plus+ กล่าวท้ายว่า ทุกวันนี้ พวกเราพยายามใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น พกแก้วเก็บความเย็นหรือลดการใช้โฟม จึงอยากให้คนรุ่นใหม่ เจนเดียวกับพวกเรา ใส่ใจกับทุกสิ่งในชีวิตประจำวันที่อาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม เพราะโลกร้อนขึ้นทุกวัน จะมองข้ามเรื่องสิ่งแวดล้อมไม่ได้แล้ว ถ้าไม่สนใจตอนนี้ อนาคตข้างหน้าไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างอีก


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  4 พฤศจิกายน 2567

ที่มา : Springnews   (https://www.springnews.co.th/keep-the-world/sustainable/853787)

พาเยือน! มหานครฉงชิ่ง จีนแผ่นดินใหญ่ เมืองที่ในอดีตขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่อากาศแย่ สู่..เมืองสีเขียวในปัจจุบัน เขาทำได้ไง?

ทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนาเมืองของตัวเองสู่ความเป็นเมืองสีเขียว ทั้งปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานใหม่เพื่อมารองรับการขยายตัว รวมถึงการปลูกฝังจิตสำนึกของพลเมืองให้หันมารักษ์โลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม บางเมืองใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีเข้ามาจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมและได้ผลผลลัพธ์ที่ดี พลิกโฉมจากเมืองที่อากาศยอดแย่สู่เมืองมหานครสีเขียว เขาทำได้อย่างไร? #สปริงนิวส์ ได้มีโอกาสเยือน “มหานครฉงชิ่ง” จีนแผ่นดินใหญ่ ในโครงการ “มองจีนยุคใหม่ สิ่งที่สื่อไทยควรรู้” ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 24-30 ตุลาคม 67 ที่ผ่านมา จัดโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย

โดยการได้ไปศึกษาดูงานในหลายที่ในมหานครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้ได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเมืองของจีนมากมาย มหานครฉงชิ่ง มหานครที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีเนื้อที่ราว 82,400 ตารางกิโลเมตร เกือบเท่ากับภาคกลางของประเทศไทย มีประชาก 32 ล้านคน โดยมหานครแห่งนี้เป็นเมืองเศรษฐกิจทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งมหานครแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา แต่จีนสามารถเนรมิตให้เป็นเมืองการค้าการลงทุนที่สำคัญได้

ย้อนไปเมื่อ10 ปีก่อน เมืองเศรษฐกิจของแผ่นดินใหญ่แห่งนี้ เคยประสบปัญหามลพิษอากาศอย่างมาก มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรม การเผาไหม้ถ่านหิน และเชื้อเพลิงชีวภาพ ทำให้รัฐบาลเร่งออกนโยบายทุกทางเพื่อแก้ปัญหา ที่รู้จักกันก็คือ สงครามปกป้องท้องฟ้าสีคราม (Blue sky defense battle) รวมถึงนโยบายการส่งเสริมพลังงานสะอาด โดยเมืองแห่งนี้มี Green Chongqing ที่สำคัญ อาทิ

1. ภูมิทัศน์สวยงาม ต้นไม้ใหญ่ พร้อมพื้นที่สีเขียวสองข้างถนนถูกจัดการเป็นอย่างดี

2. องค์กรพัฒนาเอกชนหรือ NGO..ได้เข้ามามีส่วนช่วยเฝ้าระวังมลพิษ และทำงานร่วมกับบริษัทเอกชนมากขึ้น รวมทั้งกระตุ้นเยาวชน และสังคมให้เรียนรู้ และปกป้องธรรมชาติ เช่น กรณีศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติ การอนุรักษ์นกอินทรี

3. ขยายชุมชนเกษตรอินทรีย์ โดยนำองค์ความรู้สมัยใหม่เข้ามาใช้ในการทำเกษตร มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในเขตชนบท สร้างงานให้กับคนในท้องถิ่น โดยได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ อย่างกรณีเมืองดาชู (Dashu Town)

4. ป้ายทะเบียนรถยนต์แยก 2 สี ชัดเจน ให้เข้าใจว่าป้ายทะเบียนสีเขียวคือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV (Electricity vehicle) ซึ่งมีประมาณ 20% ในเมืองนี้ และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนป้ายทะเบียนสีน้ำเงินคือ รถที่ใช้เชื้อเพลิงแบบเดิม

พัฒนาเทคโนโลยีระบบชาร์จสำหรับรถยนต์ EV และขยายจุด/สถานีชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ EV ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในเขตเมือง แม้ยังมีจำกัดในเขตพื้นที่ชนบท


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  3 พฤศจิกายน 2567

ที่มา https://www.prachachat.net/general/news-1682219

ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย มองสถานการณ์ฝุ่นปลายปี’67 ลากยาวถึงต้นปี’68 หนักกว่าปีที่ผ่านมา เผยหลายปัจจัยที่ทำให้มลพิษยังไม่หายไปไหน พร้อมจี้รัฐบาลวางแผนแก้ปัญหาให้แล้วเสร็จก่อนปี 2570

คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่จะเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2567 จนกระทั่งถึงเดือนเมษายน ดังนี้ ประเทศไทยจะเข้าสู่ช่วงหน้าหนาว มวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมทำให้มลพิษที่ประเทศไทยผลิตออกมาไม่สามารถลอยขึ้นหายไปได้ รวมถึงสาเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง การเผาป่าในพื้นที่เกษตรกรรมบนยอดเขา รวมถึงฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้าน ล้วนเป็นปัจจัยให้ภาคเหนือในตอนนั้นประสบปัญหาฝุ่นมากเป็นพิเศษ

การกำหนดมาตรฐานฝุ่น PM 2.5 ของกรมควบคุมมลพิษ ประเทศไทย ที่ปรับลดจากเดิม 50 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ให้เหลือเพียง 37.5 ไมโครกรัม/ลบ.ม.ใน 24 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่า ทันทีที่ค่าฝุ่นแตะระดับ 37.5 จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มสีส้มที่ค่าฝุ่นเริ่มมีผลกระทบทางสุขภาพ

วิกฤตมลพิษในปีนี้ไปจนถึงปีหน้าจะสาหัสที่สุดแม้จะหนักกว่าปีก่อน เนื่องจากไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่ามวลอากาศเย็นจากจีนจะแผ่ลงมาถึงแค่ไหน สิ่งที่ต้องติดตามต่อมา คือมาตรฐานการจัดการของรัฐบาลว่าจะเข้มงวดมากแค่ไหน และเตรียมตัวรับมืออย่างไร


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  2 พฤศจิกายน 2567

ที่มา: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000104907

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย จัดแสดงนิทรรศการผลงานออกแบบสื่อโฆษณาพิทักษ์สิ่งแวดล้อมสุดสร้างสรรค์ 30 ผลงาน ในแคมเปญ Print Ads Contest หัวข้อ “ผลกระทบของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ต่อสิ่งแวดล้อม”

คุณโรจนา สังข์ทอง ผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกฯ ได้รณรงค์เพื่อยกระดับสวัสดิภาพของปศุสัตว์ ซึ่งระบบฟาร์มอุตสาหกรรมไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสัตว์เพียงอย่างเดียว แต่ยังสร้างผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพมนุษย์และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน จึงมีการมุ่งหวังให้มีการสร้างและพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืนที่ตอบโจทย์ทั้งโภชนาการ มนุษยธรรม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการประกวดและนิทรรศการนี้ ที่ใช้พลังของศิลปะเพื่อกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว

ภายในงานจัดเสวนาพิเศษ “จุดประกาย: มุมมองครีเอทีฟต่อผลกระทบอุตสาหกรรมอาหารสัตว์” โดยผู้เชี่ยวชาญในวงการครีเอทีฟและสิ่งแวดล้อม เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง และแนวทางการสื่อสารประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมผ่านงานสร้างสรรค์

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการครั้งนี้ได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้ ถึง 3 พฤศจิกายน 2567 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: World Animal Protection Thailand หรือเว็บไซต์ https://www.worldanimalprotection.or.th/behind-the-feed


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  1 พฤศจิกายน 2567

ที่มา : Spring News (https://www.springnews.co.th/keep-the-world/sustainable/853715)

          เมื่อกางสถิติจากสำนักสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสิงคโปร์ดูแล้ว ดินแดนสิงโตพ่นน้ำสร้างขยะอาหาร (Food waste) ราว 7.4 แสนตันต่อปี หรือราว 2,000 ตันต่อวัน ซึ่งคงไม่ต้องชี้แจงกันอีกว่าขยะอาหารเหล่านี้สร้างปัญหามากแค่ไหน

แต่ลำดับถัดไปที่ทุกภาคส่วนต้องก้าวไปพร้อม ๆ กันคือ เราจะลดขยะอาหารเหล่านี้ได้ยังไง เอกชนจะมีมาตรการอะไร หรือแม้แต่ภาครัฐจะออกกฎเพื่อควบคุม บังคับ มากน้อย และจริงจังแค่ไหน

ล่าสุด สิงคโปร์ มีไอเดียลดขยะอาหารที่น่าสนใจมาก แถมได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนดีสุด ๆ นั่นคือ สร้างแอปชื่อว่า Yindii ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลดขยะอาหารโดยเฉพาะ ไม่จริงหน่า แค่แอปเดียวจะช่วยลด Food waste ได้ยังไง

เว็บไซต์ Straits Times อธิบายว่า เพียงแค่โหลดแอป Yindii เราจะสามารถกดสั่ง “ถุงสุ่ม” ล่วงหน้า และสามารถรับอาหารประเภทใดก็ได้ จากเมนูที่ขายไม่หมดในร้านค้า ร้านอาหาร ร้านค้าปลีกทั่วสิงคโปร์ แถมมีทีเด็ดคือ ราคาถูกลง 50-80% เรียกได้ว่าประหยัดทั้งเงิน ช่วยลดขยะอาหาร แต่ยังอิ่มท้อง สามารถกินจนพุงพลุ้ยได้เหมือนเดิม

แอป Yindii..เรียกขานตัวเองว่าเป็น “ตลาดอาหารส่วนเกินคุณภาพสูง” ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2020 และให้บริการในฮ่องกง สิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทยด้วย

Mahima Rajangam Natarajan ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Yindii เปิดเผยว่า “เราตัดสินใจเปิดตัว Surprise..Bag..ในสิงคโปร์เป็นที่แรก เพราะเป็นประเทศที่มีแนวคิดก้าวหน้า และให้ความสำคัญในการลดขยะอาหาร” อัตราเงินเฟ้อคืออีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ชาวสิงคโปร์หันมาซื้ออาหาร หรือสินค้าลดราคามากขึ้น เมื่อค่าครองชีพแพง การใช้จ่ายแต่ละครั้งก็ต้องคิดให้มากขึ้น และเมื่อไปค้นข้อมูลจากสำนักงานการเงินสิงคโปร์ พบว่า อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์อยู่ที่ราว ๆ 2.5-3% ในปี 2024

Mahima กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดตัวแอป Yindii มา สามารถลดอาหารส่วนเกินในแต่ละวันได้ถึง 80% คิดกันในแง่สิ่งแวดล้อมแล้ว แอปนี้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ราว 500 ตัน นอกจากนี้ บรรดาร้านค้า ร้านเบอเกอรี่ หรือร้านอาหารที่เข้าร่วม มีปริมาณอาหารส่วนเกินในแต่ละวันลดลง 4-5%


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  31 ตุลาคม 2567

ที่มา https://mgronline.com/news1/detail/9670000104477

ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี สถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท. ได้รับประกาศเกียรติคุณ “โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme:LESS)” จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากโครงการด้านการจัดการของเสีย จำนวน 2 กิจกรรม ได้แก่ การขยายผลองค์ความรู้การใช้ชุดอุปกรณ์ย่อยสลายขยะอินทรีย์แบบใช้อากาศ (Biodegradation Bin)ซึ่งเป็นนวัตกรรมจากการคิดค้นและพัฒนาโดยศูนย์ฯ สิรินาถราชินี และการคัดแยกขยะรีไซเคิล ภายในร้านอาหารชิกเก้น แอนด์ บี (Chicken and Bee) ซึ่งเป็นร้านอาหารเครือข่ายชุมชนโดยรอบ ช่วงการประเมินระหว่าง 1 มกราคม 2565 – 31 กรกฎาคม 2566 โดยสามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ได้จำนวน 6.878 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นับเป็นการขยายผลองค์ความรู้ของศูนย์เรียนรู้และพร้อมร่วมขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม


© 2025 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.