• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  30 ตุลาคม 2567

ที่มา: https://www.thansettakij.com/social-biz/610403

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ รับรางวัล Res Publica ด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมฟื้นฟูป่าบนดอยตุงสู่ความสมบูรณ์ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีชุมชน พร้อมขยายผลครอบคลุมการแก้ไขปัญหาภาวะโลกรวน

ทั้งนี้ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้รับรางวัลในความสำเร็จทางการพัฒนาอย่างสมดุลสภาพแวดล้อมและสังคม ที่นอกจากจะฟื้นฟูป่าบนดอยตุงสู่ความสมบูรณ์แล้ว ยังสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ชุมชน และทำให้การปลูกฝิ่นหมดไปจากประเทศไทย อีกทั้งยังขยายผลการดำเนินงานให้ครอบคลุมการแก้ไขปัญหาภาวะโลกรวน

หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า รางวัลสำคัญที่ได้รับนี้เป็นผลของความร่วมมือกันของภาครัฐ เอกชนและชุมชน อีกทั้งยังเป็นผลงานจากความทุ่มเทของพนักงานและเจ้าหน้าที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในทุกยุคทุกสมัย นับว่าเป็นของขวัญที่น่าภูมิใจในวาระครบ 36 ปีของโครงการพัฒนาดอยตุง ซึ่งรางวัล Res Publica เป็นกิจกรรมหนึ่งของสมาคม The Good Government and Civic Sense Association ซึ่งเป็นสมาคมนานาชาติตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี มีขึ้นเพื่อยกย่องและส่งเสริมองค์กร หรือบุคคลที่มีบทบาทและผลงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  29 ตุลาคม 2567

ที่มา : นครเชียงราย News (https://nakornchiangrainews.com/global-biodiversity-crisis-cop16-extinction-risk-action/)

วิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพของโลก: มุมมองเชิงสถิติและแนวทางแก้ไขในที่ประชุม COP16

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 รายงานจาก The Japan Times เผยถึงข้อมูลที่ชี้ว่าวิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพบนโลกกำลังเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามนุษย์คือปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทั้งบนบกและในทะเล ซึ่งส่งผลให้ประชุม COP16..ว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ณ เมืองกาลี ประเทศโคลอมเบีย เข้าสู่สัปดาห์ที่สอง โดยมุ่งประเมินความก้าวหน้าและกำหนดเป้าหมายใหม่เพื่อยับยั้งและฟื้นฟูธรรมชาติภายในปี 2573 ตามกรอบ Kunming-Montreal Global Biodiversity Framework ที่ได้ลงนามไว้เมื่อสองปีก่อน

           วิกฤตเชิงสถิติ: การเสื่อมโทรมของมหาสมุทรและพื้นผิวโลก

           จากข้อมูลของ IPBES หน่วยงานวิทยาศาสตร์และนโยบายระดับรัฐบาลระหว่างประเทศด้านความหลากหลายทางชีวภาพพบว่า พื้นที่บนผิวโลกกว่าสามในสี่ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และสองในสามของมหาสมุทรได้รับผลกระทบจากการบริโภคของมนุษย์ที่ไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้ยังพบว่า พื้นที่ชุ่มน้ำในแผ่นดินลดลงกว่า 1 ใน 3 ตั้งแต่ปี 2513 ถึง 2558 ซึ่งเร็วกว่าอัตราการลดลงของป่าไม้ถึงสามเท่า รายงานของ IPBES ยังระบุว่าการเสื่อมโทรมของดินที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์กระทบต่อความเป็นอยู่ของผู้คนอย่างน้อย3.2 พันล้านคน และการฟื้นฟูสภาพธรรมชาติจะให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าอย่างน้อย 10 เท่าของต้นทุนในการดำเนินการ หนึ่งในเป้าหมายหลักของกรอบความหลากหลายทางชีวภาพ Kunming-Montreal..Global..Biodiversity Framework คือ การฟื้นฟูพื้นที่ดินที่เสื่อมโทรม พื้นที่น้ำในแผ่นดิน พื้นที่ชายฝั่งทะเล และระบบนิเวศทางทะเลให้ได้ 30% ภายในปี 2573

             ความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสายพันธุ์นับล้าน

จากการประเมินขององค์การสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) พบว่าสายพันธุ์พืชและสัตว์มากกว่าหนึ่งในสี่กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ และจากรายงานของ IPBES ระบุว่าสายพันธุ์จำนวนถึงหนึ่งล้านสายพันธุ์กำลังตกอยู่ในอันตราย โดยเฉพาะแมลงผสมเกสรที่มีบทบาทสำคัญในการขยายพันธุ์พืชและให้ผลผลิตทางการเกษตรถึงสามในสี่ของอาหารที่มนุษย์บริโภค นอกจากนี้ ปะการังซึ่งเป็นที่พึ่งพิงของชีวิตกว่า 850 ล้านคนที่ทำอาชีพเกี่ยวกับทะเลก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่น่ากังวล ปะการังเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะหายไปหากอุณหภูมิโลกสูงขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียสจากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม อุณหภูมินี้เป็นเกณฑ์ที่โลกพยายามไม่ให้เกินตามข้อตกลงปารีส ปี 2558 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน

              ห้าปัจจัยหลักที่ทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ

สหประชาชาติได้กำหนดห้าสาเหตุหลักที่เป็นภัยต่อความหลากหลายทางชีวภาพที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้แก่ การทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย (เพื่อการเกษตรและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน) การใช้ทรัพยากรอย่างเกินควร เช่น การใช้น้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลพิษ และการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตที่รุกราน ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะกลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ ภายในปี 2593 หากไม่มีการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  28 ตุลาคม 2567

ที่มา https://www.bangkokbiznews.com/environment/1150672

สิ่งมีชีวิตทางทะเลที่นี่อุดมสมบูรณ์มากจนในปี 2547 รัฐบาลโคลอมเบีย คอสตาริกา เอกวาดอร์ และปานามา ได้ลงนามในคำประกาศเพื่อจัดตั้งทางเดินทางทะเลแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออก หรือที่เรียกว่า CMAR เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่เป็นเอกลักษณ์ (MPAs) และปกป้องเส้นทางอพยพ

การสร้าง CMAR ไม่ใช่ความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงเวลาที่อนาคตของมหาสมุทรของเราอยู่ภายใต้การคุกคามมากขึ้น แท้จริงแล้ว ทุกวันนี้ มหาสมุทรของโลกของเรายังคงอยู่ในดินแดนที่ไม่รู้จัก ท่ามกลางการผสมผสานอย่างมากของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลพิษ และการประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้รายงาน และไม่มีการควบคุม (IUU)

งานของ CMAR ในการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพในมหาสมุทรไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะสำหรับการอนุรักษ์ทางทะเลเท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียกร้องให้บทบาทของนวัตกรรมดิจิทัลในการส่งมอบการกำกับดูแลมหาสมุทรที่ยั่งยืน เพราะสิ่งหนึ่ง คือ การให้คำมั่นสัญญาว่าจะปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพของมหาสมุทรและอีกสิ่งหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาโดยการตรวจสอบและบังคับใช้กฎในพื้นที่กว้างใหญ่ของมหาสมุทร

ความคิดริเริ่ม CMAR กำลังปูทางไปข้างหน้าในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเหล่านี้ ตอนนี้ถึงเวลาที่คนอื่นจะทำตาม


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  27 ตุลาคม 2567

ที่มา: https://www.springnews.co.th/keep-the-world/climate-change/853535

รัฐบาลอังกฤษแต่งตั้ง รูธ เดวิส อดีตนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นทูตด้านธรรมชาติคนแรกอย่างเป็นทางการ เพื่อนำประเด็น ‘สภาพอากาศ’ และ ‘ธรรมชาติ’ มาเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายต่างประเทศ หยุดยั้งการลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่การสูญพันธุ์

ล่าสุด รูธ ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้แทนพิเศษด้านธรรมชาติ  โดยเดินทางไปยังโคลอมเบียเพื่อการหารือประเด็นสำคัญเป็นเวลาสองสัปดาห์ ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจของทั่งโลกในการตอบสนองต่อวิกฤติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเดวิสจะช่วยร่างข้อตกลงเกี่ยวกับการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเป็นหนึ่งในผลลัพธ์หลักของการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศ COP26 เมื่อปี 2021

รูธ กล่าวหลังการรับตำแหน่งว่า รัฐบาลตระหนักดีว่าวิกฤตธรรมชาติมีความรุนแรงเทียบเท่ากับวิกฤตสภาพอากาศ และเราไม่สามารถแก้ปัญหาด้านใดด้านหนึ่งได้หากไม่แก้ไขอีกด้านหนึ่ง ระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตที่ดำรงอยู่มีความสำคัญต่อการรักษาความมั่นคงทางอาหาร ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ และจัดการผลกระทบจากอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้น


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  26 ตุลาคม 2567

ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ (https://www.dailynews.co.th/news/4002049/)

Data Center เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแค่ไหน? เมื่อ Google จะลงทุนในไทย กว่า 35,000 ล้านบาทมีข่าวใหญ่ว่ารัฐบาลไทยประกาศความสำเร็จในการชักชวน Google บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลกมาลงทุนสร้าง Data..Center และ Cloud Region ในประเทศไทยมูลค่าการลงทุนกว่า 35,000 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างงานกว่า 14,000 ตำแหน่ง ในช่วงปี 2568-2572 และจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 140,000 ล้านบาท แต่ในด้านสิ่งแวดล้อม Data..Center ขนาดใหญ่ จะปลดปล่อยคาร์บอนจำนวนมหาศาลสู่ชั้นบรรยากาศ ต้องการแหล่งพลังงานที่ต้องมีความเสถียรและมั่นคงขนาดใหญ่ และต้องมีระบบนํ้าหล่อเย็นที่ใช้ทรัพยากรนํ้าอีกจำนวนมหาศาลเช่นกัน ตามมาตรฐานความยั่งยืนของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก ถ้าไปลงทุนในประเทศที่มีความยั่งยืนเข้มข้น เขาจะต้อง

1. ใช้พลังงานสะอาด พลังงานทดแทน 100%

2. บริหารจัดการให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพสูงสุด มีการประหยัดพลังงานด้วยเทคโนโลยีลํ้าสมัย

3. พยายามใช้นํ้าอย่างมีประสิทธิภาพเป็นนํ้าแบบหมุนเวียน ลดการใช้นํ้าจากระบบหลัก

4. มีการลด และชดเชย จนการปลดปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์

5. การออกแบบ และสร้าง Data Center ด้วยวัสดุยั่งยืน วัสดุ Recycle ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้ง 5 เรื่องนี้เป็นมาตรฐานความยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม ในพื้นที่ตั้ง Data..Center..หวังว่า Google จะใช้มาตรฐานความยั่งยืนนี้อย่างเท่าเทียมกันทั่วโลกถ้ารัฐบาล และ Google จะสื่อสารเรื่องความยั่งยืนในการแถลงข่าวด้วยจะยอดเยี่ยมมาก หวังว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเรื่องความยั่งยืนเหล่านี้ให้สาธารณชนทราบ เร็ว ๆ นี้


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  25 ตุลาคม 2567

ที่มา https://www.matichon.co.th/economy

คณะผู้แทนไทย จากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกรมองค์การระหว่างประเทศ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก ประจำประเทศไทย เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 16 (CBD COP 16)

นาย Gustavo Francisco ประธานาธิบดีสาธารณรัฐโคลอมเบีย และนาง Susana Muhamed รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมสาธารณรัฐโคลอมเบีย ในฐานะประเทศเจ้าภาพ กล่าวต้อนรับและกล่าวเปิดการประชุม โดยได้เน้นย้ำว่าประเทศโคลอมเบียเป็นจุดเชื่อมโยงหรือหัวใจของประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และเป็นจุดศูนย์กลางของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่นทั่วโลก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม

ผู้แทนจาก 5 ภูมิภาคทั่วโลก ได้กล่าวถ้อยแถลงในระหว่างพิธีเปิดประชุม CBD COP 16 โดยได้นำเสนอความก้าวหน้าในการจัดทำและจัดส่งเป้าหมายชาติ และแผนปฏิบัติการด้านความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ ประเด็นท้าทายในผลักดันเป้าหมาย และแผนฯ ไปสู่การปฏิบัติ และการเสนอแนวทาง รวมถึงประเด็นสำคัญที่สามารถส่งเสริมให้เป้าหมาย และแผนฯ ถูกถ่ายทอดไปสู่การปฏิบัติ โดย ผู้แทนไทย (สผ.) ได้เสนอประเด็น Bio-Circular Green Economy ในถ้อยแถลงของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนต่อไป


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  24 ตุลาคม 2567

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_9470558

กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ตอกย้ำจุดยืนการเป็นแพล็ตฟอร์มแห่งโอกาส ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางที่ใส่ใจฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐและเอกชน นำโดยกรุงเทพมหานคร และฟิตเนส เฟิรส์ท (Fitness First) จัดงาน Siam Piwat Run Forest Run 2024 : Green Run and Ride ภายใต้โครงการ Citizen of Earth by Siam Piwat ชวนทุกคนร่วมกันเพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับการมีสุขภาพที่ดีด้วยการวิ่งและปั่นจักรยานสะสมระยะทางจากที่ใดก็ได้ (Virtual Run and Ride) โดยสามารถส่งผลวิ่งได้ทาง Thaifit แพล็ตฟอร์มออนไลน์ ทุก ๆ 1 กิโลเมตรของการวิ่ง และ 5 กิโลเมตรของการปั่นสามารถเปลี่ยนเป็นต้นไม้ 1 ต้น เพื่อมอบให้กับโครงการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น โดยกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมถึง 30 พฤศจิกายน 2567 ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธานเปิดงาน ณ SCBX Next Stage ชั้น 4 สยามพารากอน

ผู้สนใจร่วมกิจกรรมยังสามารถเข้าร่วมคลาสพิเศษกับฟิตเนสเฟิร์ส Ride Experience with Rock Star by Fitness First ที่สาขาสยามพารากอน และไอคอนสยามได้ทุกสัปดาห์ โดยสามารถติดตามรายละเอียดและสมัครร่วมกิจกรรมได้ทาง https://bit.ly/3YsnUsj พร้อมร่วมสะสมระยะทางวิ่งและปั่นที่ฟิตเนสเฟิร์สได้ทุกสาขา


สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  23 ตุลาคม 2567

ที่มา เดลินิวส์ออน์ไลน์ (https://www.dailynews.co.th/news/3995693/)

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองกาลี ประเทศโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ว่าการประชุมคอป16 ซึ่งจัดที่เมืองกาลี อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังด้านความปลอดภัย อย่างเข้มงวดสูงสุด โดยตำรวจและทหารหลายพันนาย รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของยูเอ็นและสหรัฐ เพื่อป้องกันภัยคุกคาม ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากกองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรัฐบาล

กูเตร์เรสแถลงผ่านวิดีโอ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เรียกร้องนานาชาติสนับสนุน ให้เมืองกาลีได้รับเงินลงทุนจำนวนมากจากกองทุนความหลากหลายทางชีวภาพโลก (จีบีเอฟเอฟ) เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของกรอบงานคุนหมิง-มอนทรีออล ว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของโลก จนถึงขณะนี้ ประเทศต่าง ๆ ให้คำมั่นสนับสนุนกองทุนดังกล่าวแล้ว รวมกันประมาณ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8,342 ล้านบาท) จากเป้าหมายในการระดมทุนจากระเทศร่ำรวย ให้ได้อย่างน้อย 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ราว 6.6 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2573 เพื่อช่วยเหลือโลกกำลังพัฒนา และอีกอย่างน้อย 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ราว 667,279 ล้านบาท) ภายในปี 2568ทั้งนี้ ผู้แทนประมาณ 12,000 คน จากเกือบ 200 ประเทศ รวมถึงรัฐมนตรี 140 คน และประมุขของรัฐ 12 คน มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมคอป16 ซึ่งจะจัดขึ้นถึงวันที่ 1 พ.ย. ภายใต้หัวข้อ “สันติภาพกับธรรมชาติ”

ก่อนพิธีเปิดการประชุมเพียง 2 วัน ประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร ผู้นำโคลอมเบีย ยอมรับว่า “มีความวิตกกังวล” เกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของการประชุมครั้งนี้อย่างไรก็ตาม นายอเลฮานโดร เอเดอร์ นายกเทศมนตรีเมืองกาลี ยืนกรานว่า เมืองกาลีมีเจ้าหน้าที่มากกว่า 10,000 นาย และกองกำลังติดอาวุธคอยอารักขาพื้นที่โดยรอบทั้งหมด รวมถึงระบบป้องกันทางอากาศ และระบบป้องกันโดรน


© 2025 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.