• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  1 พฤษภาคม 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังปริมาณน้ำแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำโขงน้อยลง พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝนปีนี้

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (1 พ.ค.65) ว่า แม่น้ำสายหลักน้ำน้อยถึงปกติและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขงน้ำน้อยถึงปกติและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำแหล่งน้ำทุกขนาด 46,778 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 57 พร้อมเฝ้าระวังน้ำน้อย 4 แห่ง แบ่งเป็น ภาคเหนือ 3 แห่ง และภาคตะวันตก 1 แห่ง โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝนปีนี้ เช่น ปรับปรุงเกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และเขื่อนระบายน้ำ // ขุดลอกคูคลองและกำจัดผักตบชวา โดยกรมชลประทานและจังหวัดลพบุรีเร่งขุดลอกแม่น้ำ แม่น้ำบางขาม ต.มหาสอน อ.บ้านหมี่ ต.บางขาม อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ระยะทาง 10 กิโลเมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 40,000 ไร่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำบางขามช่วงหน้าน้ำหลาก รวมทั้ง เพิ่มปริมาณเก็บกักน้ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้ง ส่วนกรมเจ้าท่า ปฏิบัติงานขุดลอกเพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำช่วงหน้าน้ำหลาก คือ แม่น้ำคำ ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ระยะทาง 3,050 เมตร ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ 339 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 17,800 ไร่ , แม่น้ำปัว ต.แงง และ ต.เจดีย์ชัย อ.ปัว จ.น่าน ระยะทาง 1,800 เมตร ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ 550 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรประมาณ 1,300 ไร่ , คลองลุงช่วง ต.บ้านใหม่สามัคคี อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ระยะทาง 1,650 เมตร , คลองบางม่วง (ร่องใน) ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ระยะทาง 1,300 เมตร และร่องน้ำบ้านน้ำปูลากาปะและน้ำปูลาวาจิ อ.เมือง จ.นราธิวาส ระยะทางตามแผน 1,800 เมตร


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  30 เมษายน 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ประชาชนทั่วประเทศระวังเกิดฝนตกจากพายุฤดูร้อน พร้อมระวังเกิดน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลันจากพายุฤดูร้อนช่วงวันที่ 1 - 5 พฤษภาคมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (30 เม.ย.65) ว่า ช่วงวันที่ 1 - 2 พฤษภาคม ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากบริเวณ จ.หนองคาย 106 มิลลิเมตร , นครศรีธรรมราช 94 มิลลิเมตร และยะลา 92 มิลลิเมตร ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั่วประเทศทุกขนาด 22,739 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 39 จุดเฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ส่วนคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา บางปะกง แม่กลองอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้นแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณออกซิเจนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังเฝ้าระวังน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลันจากพายุฤดูร้อนช่วงวันที่ 1 - 5 พฤษภาคมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ // ภาคตะวันออก บริเวณ จ.ตราด และภาคใต้ บริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต และกระบี่ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำต่อเนื่อง เตรียมแผนรับน้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ พร้อมประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า และเตรียมการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  29 เมษายน 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ประชาชนทั่วประเทศระวังเกิดฝนตกจากพายุฤดูร้อนถึงวันที่ 2 พฤษภาคมนี้

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (29 เม.ย.65) ว่า ช่วงวันที่ 28 เมษายน – 2 พฤษภาคม บริเวณประเทศไทยตอนบนในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากบริเวณ จ.พิจิตร 167 มิลลิเมตร , ปราจีนบุรี 112 มิลลิเมตร และกำแพงเพชร 104 มิลลิเมตร ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั่วประเทศทุกขนาด 22,856 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 39 จุดเฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ส่วนคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา บางปะกง แม่กลองอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้นแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณออกซิเจนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำและเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำให้มีน้ำอุปโภค-บริโภคตลอดทั้งปี อย่างกรมชลประทาน และ จ.ลพบุรี ได้ร่วมกันทำโครงการขุดลอกแม่น้ำบางขาม ตั้งแต่บริเวณสะพานท่าเรือ ต.มหาสอน อ.บ้านหมี่ ไปจนถึงบริเวณวัดเทพอำไพ ต.บางขาม อ.บ้านหมี่ รวมระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร คืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 38 คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในปีนี้ หากขุดลอกแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำบางขามช่วงหน้าน้ำหลาก รวมทั้ง เพิ่มปริมาณเก็บกักน้ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้งได้มากถึง 21 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 40,000 ไร่ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ อ.ท่าวุ้ง อ.บ้านหมี่ และ อ.เมืองลพบุรี รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำบางขามมีน้ำอุปโภค-บริโภค ผลิตน้ำประปา และทำการเกษตรไว้ใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  28 เมษายน 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ประชาชนทั่วประเทศระวังเกิดฝนตกจากพายุฤดูร้อนช่วงวันที่ 28 เมษายน – 2 พฤษภาคม

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (28 เม.ย.65) ว่า ช่วงวันที่ 28 เมษายน – 2 พฤษภาคม บริเวณประเทศไทยตอนบนในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักบริเวณ จ.นครราชสีมา 50 มิลลิเมตร , เลย 41 มิลลิเมตร และราชบุรี 39 มิลลิเมตร ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั่วประเทศทุกขนาด 23,009 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 40 จุดเฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ส่วนคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา บางปะกง แม่กลองอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้นแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณออกซิเจนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  27 เมษายน 2565

นายสำเริง แสงภู่วงศ์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยในปีนี้ปฏิบัติการฝนหลวงได้เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาโดยหลายพื้นที่ ที่ได้ขึ้นปฏิบัติการพบร้อยละ 90 ที่ปะสบความสำเร็จแต่ปริมาณน้ำยังไม่มากพอเหมือนหน้าฝน ขณะที่สถานการณ์ในภาพรวมในปีนี้จะไม่รุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมาแต่ยังคงมีพื้นที่ ที่อาจเกิดฝนทิ้งช่วงและปริมาณน้ำในแหล่งน้ำหรือน้ำผิวดินมีไม่เพียงพอโดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานที่ใช้น้ำฝนในการทำเกษตรกรรม ดังนั้นกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจึงจำเป็นต้องวางแผนช่วยเหลือประชาชนที่จะได้รับผลกระทบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ในการขึ้นบินแต่ละครั้งต้องดูความชื้นสัมพัทธ์ สภาพอากาศ ทิศทางของลม และปริมาณเมฆ เพื่อให้สามารถโปรยสารเคมีได้

อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มเติม 3 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ลพบุรี อุบลราชธานี และจ.นครราชสีมา และขณะนี้ มีหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ เพื่อให้แผนการปฏิบัติการฝนหลวงสอดคล้องกับสถานการณ์ และครอบคลุมพื้นที่เพื่อเติมน้ำให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำให้มีปริมาณน้ำเพียงพอ

อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรย้ำปีนี้จะเกิดภัยแล้งไม่รุนแรงมากนัก พร้อมเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ด้วยการทำฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เกิดภัยแล้ง

อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวถึงแผนรับมือภัยแล้งปีนี้ว่า ภัยแล้งจะไม่รุนแรงเหมือนกับปีที่ผ่านมา ยกเว้นบางพื้นที่อาจเกิดฝนทิ้งช่วงและปริมาณน้ำในแหล่งน้ำหรือน้ำผิวดินมีไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องวางแผนช่วยเหลือประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ โดยปีนี้จะต้องวางจุดขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงให้ตรงกับพื้นที่ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นมียื่นขอฝนหลวงมาแล้ว 33 จังหวัด ควบคู่กับดูแผนการเพาะปลูกประจำปีด้วยเพื่อให้เพาะปลูกสอดคล้องกับปริมาณน้ำที่มี ทั้งนี้ การขึ้นบินแต่ละครั้งต้องดูความชื้นสัมพัทธ์ สภาพอากาศ ทิศทางของลม และปริมาณเมฆ เพื่อให้สามารถโปรยสารเคมีได้


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  26 เมษายน 2565

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เร่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรเกี่ยวกับการจัดการมลพิษเนื่องจากน้ำมันและการบ่งชี้แหล่งที่มาของน้ำมัน คราบน้ำมัน และก้อนน้ำมันดิน พร้อมพัฒนาฐานข้อมูลลายนิ้วมือน้ำมันดิบ (Oil Fingerprint) มาใช้แก้ปัญหาน้ำมันรั่วในประเทศและหาผู้กระทำผิด

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า กองจัดการคุณภาพน้ำ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้จัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางวิชาการ เรื่อง "การจัดการมลพิษเนื่องจากน้ำมันและการบ่งชี้แหล่งที่มาของน้ำมัน คราบน้ำมัน ก้อนน้ำมันดิน" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและแก้ปัญหาน้ำมันรั่วไหลจะช่วยให้การจัดการปัญหามลพิษเห็นผลมากขึ้น พร้อมพัฒนาศักยภาพการจัดการน้ำมันด้านต่างๆในประเทศไทย แล้วนำไปประยุกต์ใช้ป้องกันการเกิดน้ำมันรั่วไหล เนื่องจากปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันลงทะเลส่งผลให้เกิดคราบน้ำมันบริเวณชายหาดและก้อนน้ำมันดินตรงแนวชายฝั่งขึ้น กระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล ทรัพยากรทางทะเล ระบบเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การประมง และการใช้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่ต้องใช้เวลายาวนานฟื้นฟูให้กับคืนความสมบูรณ์ ส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถบ่งชี้แหล่งที่มาของการรั่วไหลหรือผู้ที่กระทำความผิดได้ ที่ผ่านมา คพ. ได้พัฒนาฐานข้อมูลลายนิ้วมือน้ำมันดิบ (Oil Fingerprint) ถือเป็นเอกลักษณ์ของน้ำมันที่จะนำมาใช้บ่งชี้แหล่งที่มาของน้ำมันได้ และผลิตภัณฑ์น้ำมันที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยภายใต้กรอบมาตรฐานสากล ภาพรวมจากการสำรวจพบสาเหตุการรั่วไหลของน้ำมันในประเทศไทยระหว่างปี 2516 - 2564 เกิดจากอุบัติเหตุไม่ทราบสาเหตุสูงถึงร้อยละ 35 จึงจำเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยีหรือเครื่องมือในการบ่งชี้แหล่งที่มาของคราบน้ำมันและก้อนน้ำมันดิน เพื่อให้ผู้กระทำความผิดมารับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการจ่ายค่าฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้กลับสู่สภาพเดิม

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวย้ำว่า ปัจจุบันได้ใช้การพิมพ์ลายนิ้วมือน้ำมันดิบ (Oil Fingerprint) เพื่อเปรียบเทียบความเหมือนของคราบน้ำมันหรือก้อนน้ำมันกับแหล่งกำเนิดมลพิษที่ต้องสงสัย โดยจะนำมาใช้บ่งชี้แหล่งที่มาของน้ำมันของประเทศไทยต่อไป แล้วจะตรวจสอบจากตัวชี้วัดทางชีวภาพที่คงทนและไม่เสื่อมสลายไปกับกระบวนการทางธรรมชาติเพื่อย้อนกลับไปบ่งชี้แหล่งที่มา ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถนำมาจัดการมลพิษทางน้ำจากการรั่วไหลของน้ำมัน คราบน้ำมัน และก้อนน้ำมันดินที่เกิดในประเทศให้ลดน้อยลง พร้อมร่วมกับประเทศต่างๆควบคุมการลักลอบการระบายน้ำมันและคราบน้ำมันลงสู่สิ่งแวดล้อมต่อไป


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  25 เมษายน 2565

ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงสภาพอากาศในช่วงต้นสัปดาห์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้ มีฝนตกร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ซึ่งลักษณะของสภาพอากาศร้อนและมีฝนตกจะยังเกิดขึ้นอีก 1-2 วัน

สำหรับวันที่ 28-30 เมษายนนี้ จะมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงอาจเกิดฟ้าผ่าร่วมด้วย ซึ่งสภาพอากาศในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นจนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ สภาพอากาศของประเทศไทยมีความแปรปรวน เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  24 เมษายน 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอให้ประชาชนตอนบนของประเทศและภาคใต้ระวังเกิดฝนตกบางพื้นที่ พร้อมเร่งส่งน้ำให้พื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งเชียงรากเพาะปลูกข้าวนาปี เพื่อได้เก็บเกี่ยวก่อนหน้าน้ำหลาก

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (24 เม.ย.65) ว่า ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยแต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากบริเวณ จ.จันทบุรี 71 มิลลิเมตร , อุบลราชธานี 53 มิลลิเมตร และเพชรบูรณ์ 49 มิลลิเมตร ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั่วประเทศทุกขนาด 23,585 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 41 จุดเฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ส่วนคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา บางปะกง แม่กลองอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้นแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณออกซิเจนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังได้ติดตามการเตรียมส่งน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งเชียงราก เพื่อพร้อมรับมือฤดูฝนปีนี้ โดยให้กรมชลประทาน เตรียมพร้อมส่งน้ำให้เกษตรกรพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งเชียงรากเพาะปลูกข้าวนาปี เพื่อให้เกษตรกรได้เก็บเกี่ยวข้าวก่อนหน้าน้ำหลาก ด้วยการเร่งนำเครื่องสูบน้ำเข้าติดตั้งบริเวณปากคลองส่งน้ำ 6 ขวา ต.หนองหม้อ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ สูบน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก เข้าสู่คลองส่งน้ำ 6 ขวา สำหรับให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มต่ำเชียงราก บริเวณ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท และอ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งเริ่มเพาะปลูกตามการปรับปฏิทินการเพาะปลูกให้เร็วขึ้น โดยเกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จก่อนหน้าน้ำหลากจะมาถึงนี้ ถือเป็นการลดความเสี่ยงผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย จากนั้นจะใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นพื้นที่รับน้ำหลากลดผลกระทบพื้นที่ตอนล่างต่อไป

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ เร่งกำจัดวัชพืชและขุดลอกตะกอนดินในคลอง 6 ขวา เพื่อให้การลำเลียงน้ำมายังพื้นที่ลุ่มต่ำเชียงรากเป็นไปอย่างเต็มศักยภาพ สามารถส่งน้ำให้เกษตรกรได้เพาะปลูกตามแผนที่กำหนดได้อย่างทั่วถึง


  1. กรมชลประทาน ร่วมมือ ADCA ภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ศึกษาวิจัยแนวทางบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย
  2. กอนช. ขอให้ประชาชนทั่วประเทศระวังเกิดฝนตก พร้อมระวังระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน หลังเขื่อนจิ่งหงของประเทศจีนปรับเพิ่มการระบายน้ำและมีฝนตกท้ายเขื่อน
  3. ทช. เฝ้าระวังอุณหภูมิน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอาจเกิดปะการังฟอกขาวบริเวณเกาะทะลุ แต่ต้องเฝ้าระวังช่วงเดือนพฤษภาคมที่มีโอกาสเกิดปะการังฟอกขาวได้
  4. ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือคุณภาพอากาศดีมาก ส่วน กทม.และปริมณฑค่าฝุ่นสูงขึ้นระดับสีส้ม 14 พื้นที่ สูงสุดบริเวณริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม
© 2025 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.