• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  10 สิงหาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่ 16 จังหวัด ช่วงวันที่ 12 - 18 สิงหาคม

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.นราธิวาส แพร่ สกลนคร กรุงเทพมหานคร ตราด และกาญจนบุรี โดยต้องเฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทันช่วงวันที่ 12 - 18 สิงหาคมในพื้นที่ 16 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต สตูล และตรัง ทำให้มีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย 7 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ตาก น่าน จันทบุรี ตราด พังงา และระนอง ช่วงวันที่ 11 – 13 สิงหาคม ทั้งนี้ กอนช. เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จะมีการประกาศแจ้งเตือนในทันที และกำชับให้หน่วยงานเตรียมพร้อมเครื่องจักร-เครื่องมือเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนตามแผน 12 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  9 สิงหาคม 2566

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ร่วมกันพัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิลช่วยลดพลาสติกใช้แล้วกว่า 4,500 กิโลกรัม พร้อมต่อยอดสู่การเป็นต้นแบบพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง และส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้ร่วมกันจัดทำโครงการพัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิล ภายในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นพัฒนาพื้นที่สาธารณะประโยชน์ในชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นต้นแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนและสร้างประโยชน์ต่อชุมชน ควบคู่กับรักษาความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนาการก่อสร้างถนนทางเดินอัพไซเคิลและท่าน้ำอัพไซเคิลจากพลาสติกใช้แล้ว บริเวณพื้นที่รอบสระน้ำของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมระยะทาง 320 เมตร สามารถลดปริมาณขยะพลาสติกไปสู่หลุมฝังกลบมากกว่า 4,500 กิโลกรัม และช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 4,700 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ได้มากกว่า 495 ต้น สิ่งสำคัญโครงการนี้ที่ได้รับฟังความคิดเห็น การออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุร่วมกับชุมชนในพื้นที่แล้วที่คำนึงถึงระบบนิเวศและการใช้งานอย่างสมดุล โดยยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติที่หลากหลาย และสามารถพัฒนาให้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ในชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อยอดสู่การเป็นต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง

สำหรับโครงการพัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิลจะส่งเสริมให้สังคมเห็นถึงประโยชน์ของการหมุนเวียนทรัพยากร ผ่านการมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี หมุนเวียนกลับมาสร้างคุณค่า และสร้างประโยชน์ให้ “พลาสติก เทิร์นเมือง” เป็นผลิตภัณฑ์รีไซเคิลส่งต่อสู่การอัพไซเคิล ถือเป็นการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรแบบ Closed loop ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ต่อยอดสู่การพัฒนาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  8 สิงหาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลงในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องในพื้นที่ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง ช่วงวันที่ 10 – 15 สิงหาคมนี้

นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ออกประกาศเฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลงในแม่น้ำโขง ฉบับที่ 13 หลัง พบมีปริมาณฝนตกหนักสะสมในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง และบริเวณแขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับ อิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศจีนตอนใต้ ทำให้ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงตอนล่างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงวันที่ 10 – 15 สิงหาคมนี้ ประกอบด้วย สถานีเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันมีระดับน้ำ 5.42 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 7.38 เมตร เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 40 - 60 เซนติเมตรเมตร // สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย ปัจจุบันมีระดับน้ำ 12.26 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 3.74 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 - 2.50 เมตร // สถานีหนองคาย จังหวัดหนองคาย ปัจจุบันมีระดับน้ำ 8.35 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 5.05 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.50 - 3.50 เมตร // สถานีนครพนม จังหวัดนครพนม ปัจจุบันมีระดับน้ำ 9.46 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 2.54 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.50 - 3.50 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะมีแนวโน้มล้นตลิ่งช่วงวันที่ 11 – 15 สิงหาคม // สถานีมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ปัจจุบันมีระดับน้ำ 8.98 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 3.52 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2 - 2.50 เมตร // สถานีโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันมีระดับน้ำ 10.60 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 3.90 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 1 - 1.50 เมตร

ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขงเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว คือ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี พร้อมประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงและแจ้งเตือนให้ประชาชนที่สัญจรและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง และผู้ที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  7 สิงหาคม 2566

กรมทรัพยากรธรณี ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 2 - 3 วันนี้ในพื้นที่ 4 จังหวัด หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง

ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ได้ออกประกาศขอให้อาสาสมัครเครือข่ายกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไปเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 2 - 3 วันนี้ ในพื้นที่จังหวัดน่าน แม่ฮ่องสอน ตาก และกาญจนบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากบริเวณอำเภอบ่อเกลือ ปัว เฉลิมพระเกียรติ ทุ่งช้าง เชียงกลาง จังหวัดน่าน // อำเภอเมือง ปาย ปางมะผ้า แม่ลาน้อย ขุนยวม สบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน // อำเภอแม่ระมาด แม่สอด ท่าสองยาง พบพระ อุ้มผาง จังหวัดตาก // อำเภอทองผาภูมิ สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากมีฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชั่วโมง ได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร และวัดปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วันได้มากกว่า 300 มิลลิเมตร ทำให้ชั้นดินบนภูเขาอุ้มน้ำไว้มากอาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มได้

ทั้งนี้ ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังด้วย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  6 สิงหาคม 2566

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1 - 3 วันนี้ในพื้นที่ 8 จังหวัด พร้อมเร่งซักซ้อมแผนเผชิญเหตุให้ประชาชนในภาคกลางรับมืออุทกภัย

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางถึงหนักมากบริเวณ จ.ตาก นราธิวาส สกลนคร กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา และสระแก้ว โดยมีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1 - 3 วันนี้ ในภาคเหนือ บริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แม่ฮ่องสอน ตาก // ภาคตะวันตก บริเวณ จ.กาญจนบุรี // ภาคตะวันออก บริเวณ จ.จันทบุรี และตราด พร้อมให้ สทนช. ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้าและสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชนในภาคกลาง ที่มีรูปแบบการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัยเป็นการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ (TTX) และจำลองสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ทั้งการจำลองการจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและใช้กลไกการปฏิบัติตามโครงสร้างของศูนย์ส่วนหน้า // การเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักร-เครื่องมือแผนเผชิญเหตุการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องข้อมูลสถานการณ์น้ำ ช่องทางและการเชื่อมโยงการรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารระหว่างภาคประชาชนและภาครัฐ การแนะนำการใช้งานแอปพลิเคชันติดตามและแจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำ ผ่าน National ThaiWater (NTW) และช่องทางการติดต่ออื่นๆ เพื่อพร้อมรับมือฤดูฝนปีนี้

ทั้งนี้ กอนช. ยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปีนี้อย่างเคร่งครัด โดยกองทัพบกเร่งเจาะบ่อน้ำตื้นแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค ให้กับประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์เอลนีโญ่ ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ส่วนกรุงเทพมหานครเร่งตรวจสอบคุณภาพในคลองผดุงกรุงเกษม คลองมหานาค คองบางลำพูคลองโอ่งอ่าง สำหรับแนวทางการบริหารจัดการน้ำในคลองผดุงกรุงเกษมจะเปิดประตูน้ำที่สถานีสูบน้ำเทเวศร์ เพื่อรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาให้มีการไหลเวียนถ่ายเท (flushing) โดยไประบายออกบริเวณสถานีสูบน้ำกรุงเกษม ซึ่งอยู่ปลายอีกด้านหนึ่งของคลองผดุงกรุงเกษม รวมถึง ยังสามารถบริหารน้ำให้ไหลเวียนผ่านคลองมหานาคเข้าสู่คลองแสนแสบ โดยใช้อาคารรับน้ำแสนเลิศของอุโมงค์ระบายน้ำใต้บึงมักกะสันเพื่อช่วยในการบังคับทิศทางน้ำเป็นการปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองแสนแสบด้วย


สำนักข่าว กรมปราะชาสัมพันธ์  5 สิงหาคม 2566

กรมทรัพยากรธรณี ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1 - 2 วันนี้ในพื้นที่ 6 จังหวัด หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง

ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ได้ออกประกาศขอให้อาสาสมัครเครือข่ายกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไปเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1 - 2 วันนี้ ในพื้นที่จังหวัดน่าน เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก และกาญจนบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากบริเวณอำเภอบ่อเกลือ ปัว เฉลิมพระเกียรติ ทุ่งช้าง เชียงกลาง จังหวัดน่าน // อำเภอเวียงแก่น เทิง จังหวัดเขียงราย // อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ // อำเภสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน // อำเภอแม่ระมาด แม่สอด ท่าสองยาง พบพระ อุ้มผาง จังหวัดตาก // อำเภอทองผาภูมิ สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากมีฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชั่วโมงได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร และวัดปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วันได้มากกว่า 300 มิลลิเมตร ทำให้ชั้นดินบนภูเขาอุ้มน้ำไว้มาก อาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มได้

ทั้งนี้ ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังด้วย


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  4 สิงหาคม 2566

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ปัจจุบัน (2 ส.ค. 66) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกัน 39,201 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 51 มีปริมาณน้ำใช้การได้รวม 15,260 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 29 ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ ที่จะต้องมีการควบคุมการใช้น้ำอย่างเคร่งครัด โดยจะเน้นสนับสนุนการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเท่านั้น ได้แก่ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนกระเสียว เขื่อนนฤบดินทรจินดา และเขื่อนปราณบุรี ปัจจุบันหลายพื้นที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาการคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน บริหารจัดการน้ำตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 อย่างเคร่งครัด บริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ให้มีน้ำใช้เพียงพอสำหรับใช้ในช่วงฝนทิ้งช่วง ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านโครงการชลประทานทั่วประเทศ ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำ รวมถึงจัดสรรน้ำในพื้นที่ชลประทานอย่างประณีต เตรียมพร้อมรับมือ เอลนีโญ เน้นเก็บกักน้ำในเขื่อนและแหล่งน้ำต่างๆ ให้ได้มากที่สุดและเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ ไว้ประจำในพื้นที่เสี่ยง พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด วางแผนการปลูกพืชโดยใช้น้ำฝนเป็นหลัก เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้ในอนาคตและสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  3 สิงหาคม 2566

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เฝ้าระวังเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากหลายพื้นที่จากฝนที่ตกหนัก คาดการณ์จะมีปริมาณน้ำฝนไหลเข้าเขื่อนต่างๆมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน 2 เดือนที่เหลือ

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำพบช่วงนี้มีร่องมรสุมพาดผ่านพื้นที่ตอนบนของประเทศ ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังค่อนข้างแรงขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมในหลายพื้นที่ ทำให้ต้องระวังเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ขณะเดียวกันฝนที่ตกหนักลงมาช่วยเติมน้ำเข้าเขื่อนต่างๆด้วยตั้งแต่วันที 27 กรกฎาคม ถึง 2 สิงหาคม มีน้ำไหลเข้าอยู่ที่ 1,221 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ยังต่ำกว่าเกณฑ์ที่ประเมินไว้ ส่วนปริมาณน้ำทั้งประเทศอยู่ที่ 41,413 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีน้ำใช้การอยู่ที่ 17,307 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยภาคกลางมีน้ำค่อนข้างน้อยที่สุดจากฝนที่ตกน้อยจนเสี่ยงเกิดภัยแล้งได้ จึงต้องบริหารจัดการน้ำรองรับผลกระทบเอลนีโญ ด้วยการเร่งสูบน้ำเข้าพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ไทยยังพบแนวร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของประเทศอยู่ ส่งผลให้ปริมาณฝนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนัก

เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ย้ำว่า ภาพรวมปริมาณน้ำกักเก็บ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 40 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถบริหารจัดการได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งไทยเหลือฤดูฝนอีก 2 เดือน คือ ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ประกอบกับ มีโอกาสเกิดพายุหมุนเขตร้อนขึ้นอีก 1 – 2 ลูก หากพาดผ่านไทยจะเป็นเรื่องดีช่วยเติมน้ำในเขื่อนต่างๆที่มีปริมาณน้ำน้อย โดยเฉพาะเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนภูมิพล แต่เบื้องต้นได้บริหารความเสี่ยงกรณีไม่มีพายุจรเข้ามาในประเทศ จำเป็นต้องวางแผนบริหารจัดการน้ำระยะยาว 2 ปีจนถึงต้นหน้าแล้งปี 2567 ด้วยการรณรงค์ขอให้เกษตรงดการทำนาปีต่อเนื่อง // ขุดลอกแหล่งน้ำต่างๆไม่ให้ตื้นเขิน // ขุดสระไว้เก็บกักน้ำฝนที่ตกลงมา เพื่อเก็บน้ำไว้สำรองใช้ปีถัดไป


  1. กอนช. เฝ้าระวังฝนตกหนักหลายพื้นที่ทั่วประเทศต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคอีสาน พร้อมระวังเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากใน 23 จังหวัด
  2. กอนช. เฝ้าระวังฝนตกหนักหลายพื้นที่ทั่วประเทศต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนพร้อมรับฝน
  3. ก.ทรัพย์ จัดงานรำลึกถึงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติปกป้องผืนป่าของประเทศ โดยประเทศไทยสูญเสียเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไปแล้ว 199 ราย
  4. สทนช. เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่สมุทรปราการและรอยต่อ กทม.ช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะระบบระบายน้ำให้เชื่อมต่อกัน เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่อ่าวไทยเร็วขึ้น
© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.