• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

สทนช. เพิ่มประสิทธิภาพการสูบผันน้ำลุ่มเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสัก จากคลองพระองค์ไชยานุชิต-อ่างเก็บน้ำบางพระ ผ่านโครงข่ายน้ำภาคตะวันออก สร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับพื้นที่ EEC

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  18 ธันวาคม 2566

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพิ่มประสิทธิภาพการสูบผันน้ำลุ่มเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสัก จากคลองพระองค์ไชยานุชิต-อ่างเก็บน้ำบางพระ ผ่านโครงข่ายน้ำภาคตะวันออก สร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับพื้นที่ EEC

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า การสูบผันน้ำจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสักผ่านทางคลองพระองค์ไชยานุชิตไปยังอ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี ใช้โครงข่ายน้ำภาคตะวันออกปีนี้สามารถสูบผันน้ำเต็มศักยภาพได้ปริมาณมากกว่าทุกปีที่่ผ่านมา ภายใต้ความเห็นชอบของคณะกรรมการลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออกและคณะกรรมการลุ่มน้ำบางปะกงให้ดำเนินการตามแผน โดยได้ลงพื้นที่สร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องจนสามารถขยายระยะเวลาการสูบผันน้ำมาสิ้นสุดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับปริมาณน้ำที่สูบผันน้ำจากคลองพระองค์ไชยานุชิตมากักเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำบางพระปีนี้มีปริมาณทั้งหมด 64.69 ล้านลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็น ช่วงแรก ตั้งแต่ที่ 8 กรกฎาคม – 30 พฤศจิกายน 58.25 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่เหลือเป็นปริมาณน้ำที่สูบผันน้ำในช่วงที่ขยายระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 - 15 ธันวาคม ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ CSR และประชาชนในพื้นที่คลองพระองค์ไชยานุชิตกำหนดสูบผันน้ำในอัตราประมาณ 500,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และจะหยุดสูบเมื่อระดับน้ำหน้าสถานีสูบพระองค์ฯมีค่าความเค็มไม่เกิน 0.5 กรัมต่อลิตร และการบริหารจัดการน้ำผ่านประตูระบายน้ำบึงฝรั่ง ไม่น้อยกว่า 10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวขัองได้หารือร่วมกันขยายกรอบเวลาการสูบผันน้ำเพิ่มเติมหากมีปริมาณน้ำเพียงพอ และอยู่ในเงื่อนไขไม่กระทบต่อการใช้น้ำของเกษตรกรต้นทาง

เลขาธิการ สทนช. กล่าวด้วยว่า ยังมีการสูบผันน้ำแม่่น้ำบางปะกงมายังอ่างเก็บน้ำบางพระอีกด้วย โดยปีนี้สามารถสูบน้ำได้รวม 24.85 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อสูบผันน้ำมาเก็บไว้แล้วจะจัดสรรน้ำไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ ควบคู่กับทำให้อ่างเก็บน้ำบางพระปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 88 ล้านลูกบาศก์เมตร หากรวมกับอ่างเก็บน้ำในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จังหวัดชลบุรีและระยอง 11 แห่ง มีปริมาณน้ำรวม 632.54 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอกับความต้องการใ่ช้น้ำของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมช่วงหน้าแล้งปี 2566/67 และช่วงต้นฤดูฝนปี 2567 แน่นอน


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.