สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 23 ตุลาคม 2566
เขื่อนเจ้าพระยาคงการระบายน้ำอยู่ที่ 1,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นวันที่ 2 เพื่อระบายน้ำลุ่มเจ้าพระยา พร้อมปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพื่อควบคุมระดับน้ำจนถึงวันที่ 29 ตุลาคมนี้
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ขณะนี้ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง แต่ช่วงวันที่ 24 - 28 ตุลาคมประเทศไทยตอนบนจะกลับมามีฝนเพิ่มขึ้น จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุดบริเวณท้ายเขื่อน และคำนึงถึงการเก็บกักน้ำสำหรับหน้าแล้งนี้ด้วย พร้อมเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1 - 3 วัน บริเวณ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช ยะลา และนราธิวาส ขณะที่วันนี้ (23 ต.ค.66) ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาคงการระบายน้ำบริเวณสถานีวัดน้ำ C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มาอยู่ที่ 1,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นวันที่ 2 เพื่แระบายน้ำตอนบนที่ไหลลงมาเพิ่มในลุ่มน้ำเจ้าพระยาต่อเนื่องและพร้อมรอรับปริมาณน้ำฝนใหม่ที่จะตกมาเพิ่มช่วงปลายฤดูฝน ส่วนการตัดยอดน้ำออกทางฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของลุ่มน้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 586 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบ่งเป็น รับน้ำฝั่งตะวันตก 395 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และรับน้ำฝั่งตะวันออก 191 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้เร่งเก็บขยะและวัชพืชเพื่อพร้อมรับฝน ให้น้ำไหลได้สะดวก ไม่มีขยะและวัชพืชกีดขวางทางน้ำไหลในพื้นที่คลองบางกะปิ ช่วงหลังวัดอุทัยธาราม เขตห้วยขวาง // คลองสี่ประเวศ ช่วงถนนร่มเกล้าซอย 17 เขตมีนบุรี // คลองเปรมประชากร ช่วงชุมชนปู่เจ้า เขตดอนเมือง // คลองเปรมประชากร ช่วงชุมชนสตรีเหล็ก เขตหลักสี่ // คลองลาดพร้าว ช่วงชุมชนหลังกรมวิทยาศาสตร์ เขตจตุจักร
ขณะที่สถานการณ์น้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ พบมีปริมาณน้ำ 950 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 99 และมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน เพื่อควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ทำให้กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำจากอัตรา 8.64 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็นอัตรา 12.96 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ตั้งแต่วันนี้ (23 ต.ค.66) ไปจนถึงวันที่ 29 ตุลาคม โดยทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบชั้นบันไดอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปาสักเพิ่มสูงขึ้นจากระดับปัจจุบันอีกประมาณ 30 - 50 เซนติเมตร ซึ่งระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ยังอยู่ในลำน้ำไม่ส่งผลให้แม่น้ำป่าสักเกิดสภาวะน้ำล้นตลิ่ง