• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
 การอบรมเชิญปฎิบัติการ “การบริหารจัดการเอกสารงบประมาณโครงการวิจัย” ปีงบประมาณ 2567

27 มีนาคม 2567 เวลา 09.15 – 12.00 น.

บุคลากรคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการ

เรื่อง “การบริหารจัดการเอกสารงบประมาณโครงการวิจัย” ปีงบประมาณ 2567 (ครั้งที่ 1)

โดยมี คุณจิราพัชร จำปาสิงห์ เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป หน่วยบริหารทุนวิจัย เป็นวิทยากรบรรยาย

ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเอกสารงบประมาณโครงการวิจัย อาทิ

  • สิ่งสำคัญที่ควรรู้และเทคนิคเตรียมเอกสารการเบิกจ่ายส่งงานบริหารการวิจัยเพื่อตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนนำกิจกรรมเชิงปฏับัติการเพื่อฝึกวิเคราะห์เอกสาร
  • การเตรียมเอกสารเบิกจ่ายก่อนส่งงานบริหารการวิจัยเพื่อตรวจสอบเบื้องต้น

การอบรมเชิงปฏิบัติการดังกล่าวจัดขึ้นโดย งานบริหารการวิจัย คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเพิ่มความรู้ ความเข้าใจในการบริหารจัดการเอกสารงบประมาณโครงการให้แก่ คณาจารย์ นักวิจัย ผู้ช่วยวิจัย และผู้ประสานโครงการ และเพื่อเป็นการพัฒนาทักษะด้านการบริหารจัดการเอกสารงบประมาณโครงการได้อย่างถูกต้อง


การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ครั้งที่ 2 ภายใต้ “โครงการขับเคลื่อน Climate Change and Net Zero (CN) Platform”

18 ธันวาคม 2566 เวลา 13.30 - 15.00 น. คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ครั้งที่ 2

ภายใต้ “โครงการขับเคลื่อน Climate Change and Net Zero (CN) Platform”

ประกอบด้วยกิจกรรมการอภิปรายระดมสมองร่วมกับผู้แทนจาก 10 ส่วนงาน รวมจำนวน 27 ท่าน นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.กิติกร จามรดุสิต คณบดี

เพื่อระดมความคิดเห็นประเด็นวิจัย และนำเสนอแนวคิดการพัฒนาข้อเสนองานวิจัยด้าน Climate Change and Net Zero ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างเครือข่ายนักวิจัยและการบูรณาการงานวิจัยข้ามศาสตร์

และก่อให้เกิดการสร้างผลงานวิจัยคุณภาพสูง และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป โดยกิจกรรม จัดขึ้น ณ ห้องประชุมนาทตัณฑวิรุฬห์  (1103) ชั้น 2 อาคารนาทตัณฑวิรุฬห์  คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ประเมินให้ข้อคิดเห็นร่างข้อเสนอโครงการ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ และประชุมปรับปรุงแก้ไขร่างโครงการวิจัย CN Proposal ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ และพัฒนาโครงร่างการวิจัย จำนวน 2 โครงการ


โครงการขับเคลื่อน Climate Change and Net Zero (CN) Platform

โครงการขับเคลื่อน Climate Change and Net Zero (CN) Platform

 

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม: SDG 13

 

ความสำคัญ วัตถุประสงค์โครงการ

ในการประชุมสมัชชารัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ประเทศไทยได้ประกาศแสดงเจตจำนงความมุ่งมั่นที่มีความท้าทายต่อการยกระดับการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปีค.ศ.2050  (Carbon Neutrality 2050) และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปีค.ศ.2065 (Net Zero Emissions 2065)  รวมถึงยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561-2580 ได้บรรจุเป้าหมายในการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข

การขับเคลื่อนการสร้าง platform เครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรและนักวิจัยที่มีเป้าประสงค์ในการมุ่งเน้นงานวิจัยด้าน Climate Change and Net Zero โดยการสร้างโอกาสให้กลุ่มนักวิจัยที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาให้มีโอกาสพบปะ ปรึกษาหารือ สร้างบรรยากาศการวิจัย และการอภิปรายระดมสมอง (Brainstorming) ของนักวิจัยจากหลากหลายส่วนงาน ทั้งยังเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้เกิดการพัฒนางานวิจัยแบบสหสาขาที่มีคุณค่า และสร้างสรรองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีศักยภาพสูงในการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในระดับประเทศ

คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ จึงได้จัดโครงการขับเคลื่อน Climate Change and Net Zero (CN) Platform เพื่อเป็นเวทีในการสร้างเครือข่ายและผนึกกำลังนักวิจัยเพื่อพัฒนางานวิจัยด้าน Climate Change and Net Zero

 

การดำเนินการ

1) จัดการบรรยายพิเศษและอภิปรายแลกเปลี่ยนโดยการระดมสมองเพื่อพัฒนางานวิจัยด้าน Climate Change and Net Zero ระหว่างส่วนงานต่างๆ

2) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) โครงการขับเคลื่อน Climate Change and Net Zero (CN) Platform (ครั้งที่ 2)

3) ประเมินให้ข้อคิดเห็นร่างข้อเสนอโครงการ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ และประชุมปรับปรุงแก้ไขร่างโครงการวิจัย CN Proposal ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ

 

ผลการดำเนินงาน

1) 30 พฤศจิกายน 2566 เวลา 8.30-12.00 น. คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยกรศาสตร์ จัดโครงการขับเคลื่อน Climate Change and Net Zero (CN) Platform โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ภัทรชัย กีรติสิน รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการฯ และ รองศาสตราจารย์ ดร.กิติกร จามรดุสิต คณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ กล่าวรายงานการดำเนินโครงการฯ โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการบรรยายในหัวข้อ “มุ่งสู่ Net Zero Emission ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.พงษ์วิภา หล่อสมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และประธานคณะอนุกรรมการแผนงานกลุ่มเศรษฐกิจหมุนเวียน หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) เป็นวิทยากรบรรยาย โดยมีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับบทบาทของแหล่งทุนวิจัยกับการสนับสนุนงานวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก่อนเข้าสู่กิจกรรมการอภิปรายระดมสมองร่วมกับผู้แทนจากส่วนงานต่างๆจำนวน 83 ท่าน เพื่อการพัฒนางานวิจัยด้าน Climate Change and Net Zero โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายนักวิจัยและการบูรณาการงานวิจัยข้ามศาสตร์ ซึ่งจะก่อให้เกิดการสร้างผลงานวิจัยคุณภาพสูง และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป    

 

โครงการฯ จัดขึ้น ณ ห้องศาสตรเมธี ดร.พงศ์พิศน์ ปิยะพงศ์ (4228) ชั้น 2 อาคาร 4 คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ โดย งานบริหารการวิจัย ร่วมกับสำนักงานวิทยบริการด้านสิ่งแวดล้อม คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์  มีผู้เข้าร่วมฟังการบรรยายจากส่วนงานในมหาวิทยาลัยมหิดล หน่วยงานภายนอก และบุคคลผู้สนใจทั่วไป รวม 18 หน่วยงาน จำนวน 65 คน และผู้เข้าร่วมประชุมจาก Facebook Live 17 คน รวมจำนวนผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 82 คน

 

โดยท่านสามารถรับชมการบรรยายในหัวข้อ “มุ่งสู่ Net Zero Emission ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม” >> ชมย้อนหลัง <<

>> เรียกดูเอกสารประกอบการบรรยาย <<


Research talk 1/2567 &quot;Update สถานการณ์ทุนวิจัย แผน ววน.ใหม่ มีอะไรน่ารู้&quot;

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.00 – 15.30 น.

คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยงานบริหารการวิจัย จัดการบรรยายด้านการวิจัย ครั้งที่ 1/2567

หัวข้อ “อัปเดตสถานการณ์ทุนวิจัย แผน ววน. ใหม่ มีอะไรน่ารู้”

โดยได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มณฑิรา ยุติธรรม รองคณบดีฝ่ายนโยบาย แผนและคลัง

กล่าวเปิดกิจกรรมและร่วมพูดคุยเกี่ยวกับนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยตามแผนยุทธศาสตร์ของคณะในปัจจุบัน

ผศ.ดร.มณฑิรา ยุติธรรม คุณยุทธพล ผ่องพลีศาล 

และคุณยุทธพล ผ่องพลีศาล เจ้าหน้าที่วิจัย (ผู้ชำนาญการพิเศษ) เป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับสาระสำคัญแผนยุทธศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) พ.ศ. 2566 – 2570

และอัปเดตข้อมูลทุนวิจัยที่คาดว่าจะเปิดรับในปีงบประมาณ 2567

การบรรยายดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจแผนวิจัยตามยุทธศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) พ.ศ. 2566 - 2570

และอัปเดตสถานการณ์ข่าวสารจากแหล่งทุนวิจัย ให้กับอาจารย์ นักวิจัย และผู้สนใจภายในคณะฯ ได้รับทราบ

กิจกรรมจัดขึ้น ณ ห้องประชุมนาทตัณฑวิรุฬห์ (1103) คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ และรูปแบบออนไลน์ผ่านทาง Cisco Webex

มีผู้เข้าร่วมรับฟังจำนวนรวม 37 คน

>> รับชมย้อนหลัง << 
>> เอกสารประกอบการบรรยาย <<



21 สิงหาคม 2566 เวลา 13.00 น. รองศาสตราจารย์ ดร.สุระ พัฒนเกียรติ
คณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานกล่าวต้อนรับ

รองศาสตราจารย์ ดร.ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต รองประธานคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคนชุดกลาง มหาวิทยาลัยมหิดล

ในโอกาสเป็นวิทยากรใน กิจกรรมเสวนาด้านการวิจัย (Research Talk) ครั้งที่ 2/2566 หัวข้อ “แนวทางเตรียมความพร้อม การขอรับรองจริยธรรมการวิจัยในคนด้านสังคมศาสตร์”

ทั้งนี้ โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.สุวลักษณ์ สาธุมนัสพันธุ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ เป็นผู้ดำเนินกิจกรรมเสวนา

ซึ่งมีเนื้อหาหลักเกี่ยวข้องกับประเด็นจริยธรรมที่สำคัญต่อการวิจัยด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ อาทิ การเขียนรายงาน การนำเสนอข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

ตลอดจนมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการวิจัยในมนุษย์ โดยมีบุคลากรจากทั้งภายในและภายนอกส่วนงานเข้าร่วมรับฟังการบรรยาย ณ ห้องศาสตรเมธี ดร.พงศ์พิศน์ ปิยะพงศ์

และในรูปแบบออนไลน์ผ่านทาง Cisco WebEx และ Facebook Live จัดขึ้นโดย งานบริหารการวิจัย คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

รับชมย้อนหลังได้ที่ >> https://youtu.be/ceEz_Hf_D4o

>> เอกสาร ประกอบการบรรยาย <<


สรุปการเสวนา เรื่อง “Tips and Tricks with Two Editors: What an editor wants”

สรุปการเสวนา เรื่อง “Tips and Tricks with Two Editors: What an editor wants

17 มกราคม 2566 รองศาสตราจารย์ ดร.จำลอง อรุณเลิศอารีย์ รองคณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้แทนคณบดีกล่าวต้อนรับ ศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ ปัญหา บรรณาธิการวารสาร Tropical Natural History วารสารทางการของพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รองศาสตราจารย์ ดร.ดุษณี ธนะบริพัฒน์ บรรณาธิการวารสาร Current Applied Science and Technology จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในโอกาสเป็นวิทยากรผู้ร่วมเสวนาด้านการวิจัย เรื่อง “Tips and Tricks with Two Editors: What an editor wants” ทั้งนี้โดยมี อาจารย์ ดร.วิชญา รงค์สยามานนท์ รองบรรณาธิการวารสาร Environment and Natural Resources Journal คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้ดำเนินรายการ

สรุปรายละเอียดการเสวนา

อาจารย์สมศักดิ์เกริ่นนำเกี่ยวกับวารสาร โดยมีแนวความคิดว่าการตีพิมพ์ผลงานพื้นฐานมาจากงานวิจัยและมีโจทย์วิจัย มีการพัฒนาองค์ความรู้ให้ใหม่ขึ้นไปเรื่อยๆ การวิจัยมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยจึงเกิดโจทย์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งวารสาร Tropical Natural History เน้นเรื่องชีววิทยา สิ่งแวดล้อม และมนุษยศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

อาจารย์ดุษณีเกริ่นนำเกี่ยวกับวารสาร เป็นวารสารแบบ Multidisciplinary โดยสาขาวิชาที่มี Impact เพิ่มมากขึ้นมีอยู่ 3 ด้านคือ Biochemistry, Biotechnology และ Environmental Sciences ซึ่งการจัดการวารสารของ Current Applied Science and Technology มีการจัดการโดยหน่วยงานสำนักบริหารวารสารวิชาการ ขึ้นตรงกับมหาวิทยาลัยโดยตรง

ช่วงถาม-ตอบ

  1. ในมุมมองของบรรณาธิการการเลือกวารสารที่ถูกต้องมีส่วนสำคัญต่อผู้เขียนมากหรือน้อยอย่างไร

อาจารย์สมศักดิ์: ผู้เขียนต้องประเมินขอบเขตงานวิจัยของตนเองให้ถูกต้อง เช่นดูจากการอ้างอิงในบทความของตนเองว่าหนักไปทางไหน และขึ้นอยู่กับระดับผู้ทำวิจัย สำหรับผู้เขียนมือใหม่ควรเลือกให้เหมาะสมกับงานก่อนจึงค่อยๆ ขยับความยากของวารสารเพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้ตนเอง

อาจารย์ดุษณี:  ถ้าบทความเป็นด้านงานประยุกต์จะค่อนข้าง ให้ดูเรื่องของเครื่องมือของงานวิจัยนั้นๆ ว่าเน้นหนักไปทางด้านไหน ผู้เขียนบางท่านอาจจะชอบส่งวารสารด้าน Applied ไปก่อนเนื่องจากมีความกว้างของขอบเขตงานวิจัยจึงจะได้รับการตอบรับตีพิมพ์ง่ายกว่าวารสารที่เฉพาะทางแต่ส่วนนี้ก็ต้องขึ้นกับบบรรณาธิการพิจารณา

 

  1. Format หรือ Template ของวารสารมีความสำคัญอย่างไร และมีผลต่อการพิจารณาในเบื้องต้นกองบรรณาธิการอย่างไร

อาจารย์สมศักดิ์: ผู้เขียนควรศึกษา Instruction for Authors ของวารสารมาให้ดี ซึ่งหากเราเลือกวารสารใดเพื่อจะส่งบทความแล้วต้องพิจารณาให้ดีเนื่องจากนนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำตามมิใช่ให้เลือกทำหรือไม่ บรรณาธิการเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญมากในการพิจารณาบทความ

อาจารย์ดุษณี:  หากพบว่าไม่เป็นไปตามที่กำหนดบรรณาธิการส่งไปแก้ไข หากไม่แก้ไขกลับมาก็จะไม่พิจารณาบทความต่อ

 

  1. บรรณาธิการพิจารณาบทความขั้นต้นอย่างไรว่าบทความนั้นๆ ไม่มีความซ้ำซ้อน หรือผิดจริยธรรมการวิจัย

อาจารย์สมศักดิ์: เรื่องนี้ยากมากในการประเมิน แต่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของบรรณาธิการในส่วนหนึ่ง และหากสงสัยบรรณาธิการจะส่งต่อให้ Editorial Board ช่วยพิจารณาและช่วยตัดสินบทความนี้

อาจารย์ดุษณี:  ให้ Editorial Board ช่วยพิจารณาและช่วยตัดสินบทความนี้

(โดยทั้ง 2 วารสารได้ใช้โปรแกรม Turn-it-in ช่วยในการความซ้ำซ้อนของบทความก่อนเข้ากระบวนการ Review)

 

  1. 4. จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของบรรณาธิการ เหตุผลในการ reject บทความส่วนใหญ่แล้วเกิดขึ้นจากปัญหาอะไรบ้าง

อาจารย์สมศักดิ์: บทความไม่มีคุณภาพในระดับเนื้อหางานวิจัย ไม่พบองค์ความรู้ใหม่จากบทความ และส่งให้ Editorial Board ช่วยพิจารณาและตัดสิน อีกส่วนนึงคือเรื่องภาษาไม่ดีทำให้อ่านแล้วไม่เข้าใจ

อาจารย์ดุษณี:  1. ขอบเขตงานวิจัยไม่ตรงกับวารสาร 2. เข้าโปรแกรม Turn-it-in แล้วมีความซ้ำซ้อนสูงกว่าที่วารสารกำหนด 3. เนื้อหางานวิจัยไม่ดีและข้อมูลไม่สมบูรณ์

(ทั้ง 2 วารสารมีบทความต่างชาติส่งเข้ามาจำนวนมากและถูก reject เป็นจำนวนมากกว่าประเทศไทย และทั้ง 2 วารสารไม่มีการเก็บค่าตีพิมพ์บทความ (Page charge) จึงทำให้มีผู้เขียนส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก)

 

  1. ปัจจุบันมีเว็บไซต์หลอกลวง มีการซื้อขายบทความเพื่อผู้เขียน ในฐานะบรรณาธิการและกองบรรณาธิการต้องมีวิธีกี่รับมืออย่างไร

อาจารย์สมศักดิ์: บรรณาธิการรับมือค่อนข้างยาก จึงขอฝากให้มีคุณธรรมจริยธรรมการวิจัยทุกท่าน

อาจารย์ดุษณี:  บรรณาธิการไม่สามารถรับมือได้ทันและทั้งหมด เนื่องจากกลโกงมีหลากหลายรู้แบบ จึงของฝากผู้เขียนว่าต้องมีจริยธรรมการวิจัยเป็นพื้นฐาน

 

  1. การส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เขียนพัฒนาและแก้ไขบทความดียิ่งขึ้น บรรณาธิการมีแนวทางอย่างไรในการสร้างแรงจูงใจผู้เขียนแก้ไขบทความ

อาจารย์สมศักดิ์: บรรณาธิการพิจารณาผลของ reviewer ว่ามีรายละเอียดการแก้ไขเป็นอย่างไร ตรงกับทิศทางที่ควรจะเป็นไปของบทความนั้นไหม หากพบว่าดีและช่วยสงเสริมก็จะมีประโยชน์ต่อบทความ แต่หากไม่มีการให้ข้อคิดเห็นใดๆ มาบรรณาธิการจะต้องพิจารณาผลของ reviewer เพิ่มเติมอีกครั้ง ข้อเสนอแนะบทความต้องสร้างสรรค์ช่วยให้ผู้เขียนพัฒนาบทความกลับมาได้อย่างดี

อาจารย์ดุษณี:  บรรณาธิการต้องพิจารณาผลของ reviewer เช่นเดียวกัน เพื่อพัฒนาบทความให้ดีขึ้น

 

  1. การเสนอชื่อ reviewer จากผู้เขียนช่วยบรรณาธิการให้ง่ายต่อขั้นตอนต่อไปไหม Trick ในการเสนอชื่อ reviewer ควรทำยังไงบ้าง

อาจารย์สมศักดิ์: การเสนอชื่อ reviewer ควรเสนออย่างตรงไปตรงมา และควรดูเรื่องของ Conflict of interest ในการเสนอด้วย

อาจารย์ดุษณี:  เห็นด้วยกับอาจารย์สมศักดิ์

 

  1. บทคัดย่อต้องเขียนอย่างไร มี Tip and Trick อย่างไร

อาจารย์สมศักดิ์: การเขียนต้องมาจากผลการศึกษาก่อนให้น่าสนใจ บทความพบอะไรใหม่ เป็นอย่างไร วิธีการทำงานวิจัยอะไรที่ทำให้ได้ผลการศึกษาเช่นนี้ ในบทคัดย่อไม่ควรใส่ตัวย่อเยอะๆ ควรอ่านซ้ำๆ เพื่อแก้ไขให้น่าสนใจ ข้อควรระวังของการเขียนคือไม่ควรใส่ผลการศึกษาที่เกินจริงมากๆ แต่ข้อมูลจริงไม่พบข้อมูลดังกล่าว ควรตรงไปตรงมา

อาจารย์ดุษณี:  วัตถุประสงค์งานวิจัยคืออะไร พบอะไรใหม่และมีอะไรน่าสนใจ การเขียนบทคัดย่อดีมีผลต่อการอ้างอิงบทความจึงควรต้องน่าสนใจและกระชับ ข้อควรระวังที่พบมากๆ คือการเขียนผลการศึกษาที่เกินจริงไม่ดีต่อบทความ

 

  1. การเขียน Introduction อย่างไรให้น่าสนใจและควรมีปริมาณเท่าไหร่จึงเหมาะสม

อาจารย์สมศักดิ์: ต้องบอกในรายละเอียดว่ามีความจำเป็นในการศึกษาอย่างไร ควรศึกษางานวิจัยในระดับโลกและมีการอ้างอิงที่ชัดเจน การดำเนินการศึกษาก่อนหน้ายังขาดอะไรงานวิจัยนี้ถึงจำเป็นต้องทำขึ้นมา ควรมีการร้อยเรียงเนื้อหาให้ดี การอ้างอิงแบบผิดจริยธรรมเช่นการอ้างโดยไม่ได้อ่านอย่างละเอียด และการเขียนในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่สำคัญเพื่อบ่งบอกถึงการปิดช่องว่างงานวิจัยอื่นที่ยังขาด

อาจารย์ดุษณี:  ควรเขียนประมาณ 1 หน้าและความมีความเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการทำวิจัย เพราะจะอธิบายว่าทำไมต้องทำงานวิจัยชิ้นนี้ การเขียนอ้างอิงในเนื้อหาเยอะๆ ก็เป็นผลเสีย เนื่องจากไม่ได้ระบุชัดเจนว่าแต่ละอ้างอิงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างไรต่องานวิจัย ถ้าใส่มาเยอะแบบที่ไม่มีความจำเป็นก็ไม่สมควรใส่มา

 

  1. การเขียนผลการศึกษาแบบไหนที่เหมาะสมกับงานวิจัย การเขียนเชิงพรรณา กับการใส่รูป กราฟ ตารางอย่างไรให้เหมาะสม

อาจารย์สมศักดิ์: การเขียนเชิงพรรณามีความจำเป็นสำหรับวารสารบางประเภท แต่ควรมีรายละเอียดที่แน่นและไม่เป็นการเกริ่นไปเรื่อยๆ

อาจารย์ดุษณี:  ส่วนใหญ่จะเป็นรูป ตาราง แต่ผู้เขียนต้องอธิบายตารางหรือรูปนั้นๆ ต้องอธิบายจุดสำคัญของตารางไม่อธิบายผลทั้งหมดในตารางมา การใส่รูป กราฟ ตารางต้องไม่มากเกินไปและต้องเกี่ยวข้องกับงานวิจัยจริงๆ

 

  1. ในส่วนของ Discussion ผู้เขียนควรเขียนแบบไหน

อาจารย์สมศักดิ์: ควรอธิบายว่าผลการศึกษาของเราปิดช่องว่างอะไรในงานวิจัยนี้ ผู้เขียนร่วมควรช่วยอ่านบทความ แก้ไขและเสนอข้อคิดเห็นเพื่อพัฒนาบทความให้ดียิ่งขึ้น

อาจารย์ดุษณี:  ถ้าบทความค้นพบผลที่ค่อนข้างใหม่ควรนำเสนอในอภิปรายผล และอธิบายเสริมว่าเราต่างกับบทความอื่นอย่างไร ควรให้ผู้เขียนอื่นช่วยอ่านให้ด้วยเพื่อให้ผู้เขียนมั่นใจว่าเข้าใจตรงกัน

 

  1. การที่ผู้เขียนมีการแจ้งว่าบทความได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจภาษามาแล้วในเบื้องต้นมีผลดีต่อบรรณาธิการไหม

อาจารย์สมศักดิ์: มีผลดีกับวารสารมาก โดยทางวารสาร Tropical Natural History ได้ให้ Editorial Board ช่วยอ่านอีกที

อาจารย์ดุษณี:  มีผลดี แต่ขึ้นกับข้อกำหนดของแต่ละวารสาร อย่างวารสาร Current Applied Science and Technology ไม่ได้มีการขอกับผู้เขียนแบบจริงจัง แต่ทางวารสารมี Native Speaker อ่านบทความก่อนเผยแพร่ และท่านควรเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จบมาตรงกับสาขาวิชาและขอบเขตของวารสาร

 

  1. หากบทความที่เคย Proceedings มาแล้วจะนำมาตีพิมพ์ในวารสารได้ไหม

อาจารย์สมศักดิ์: หากผู้เขียนมั่นใจกับงานวิจัยควรเขียนมาตีพิมพ์ในวารสารจะดีกว่า แต่หากตีพิมพ์ไปแล้วควรต้องเพิ่มและปรับแก้ไขให้มีสิ่งใหม่

อาจารย์ดุษณี:  ไม่ควรทำ หากจะทำควรมีการศึกษาเพิ่มเติมและต้องต่างจาก Proceedings เดิมมากกว่า 50% เพื่อไม่ให้เกิดการตีพิมพ์ซ้ำซ้อน

 

  1. ทิศทางการวิจัยในด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้มในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้าควรเป็นไปในทิศทางใด และมีหัวข้อใดบ้างที่น่าสนใจ

อาจารย์สมศักดิ์: เกี่ยวข้องกับ Climate change โดยศึกษาร่วมกับศาสตร์อื่นๆ เช่น ผลกระทบของภาวะโลกร้อนกับระบบนิเวศต่างๆ การศึกษาเรื่องไมโครพลาสติกกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลทั้งมนุษย์และสัตว์ งานด้านสิ่งแวดล้อมผนวกรวมกับ Material Science, Social Science หรือไปรวมกับเศรษฐศาสตร์

อาจารย์ดุษณี:  ขอเสริมอีกส่วนเรื่องของ Health Science เช่น PM2.5 จะช่วยแก้ปัญหาร่วมกับสุขภาพได้อย่างไร

 

งานเสวนานี้จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้ แนะนำเทคนิค วิธีการ รวมถึงสาระสำคัญสำหรับการเตรียมบทความทางวิชาการให้ได้รับการตีพิมพ์ โดยถ่ายทอดจากประสบการณ์ของบรรณาธิการวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่อยู่ในฐาน Scopus โดยมีผู้สนใจจากทั้งภายในและภายนอกส่วนงานเข้าร่วมรับฟังการเสวนา และในรูปแบบออนไลน์ผ่านทาง Cisco Webex และ Facebook Live จำนวน 47 คน


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.