• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

กอนช. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในภาคใต้ 8 จังหวัดต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมน้ำท่วมภาคกลางเริ่มดีขึ้นหลังระดับน้ำผ่านเขื่อนต่างๆลดลง

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  20 ตุลาคม 2565

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในภาคใต้ 8 จังหวัดต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมน้ำท่วมภาคกลางเริ่มดีขึ้นหลังระดับน้ำผ่านเขื่อนต่างๆลดลง

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (20 ต.ค.65) ว่า ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ถึงวันที่ 22 ตุลาคม บริเวณ จ.ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสตูล เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ประกอบกับ มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามันตอนกลาง ขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดย 24 ชั่วโมงมีฝนตกสูงสุดที่ จ.กระบี่ ประจวบคีรีขันธ์ และสุพรรณบุรี ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำแหล่งน้ำทุกขนาด 67,930 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 83 พร้อมติดตามการเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อน “เนสารท” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนที่มีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านตอนใต้ของเกาะไหหลำและเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 20 - 21 ตุลาคมนี้ จากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว โดยประเทศไทยตอนบนมีฝนเล็กน้อยบางแห่งเกิดขึ้นได้

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ปรับลดการระบายน้ำต่อเนื่อง ภาพรวมลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,761 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ซึ่งมีปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังไหลลงมาสมทบก่อนไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา ทำให้กรมชลประทานได้รับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เริ่มทยอยลดลง มีปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาประมาณ 2,833 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มลดลง ส่วนที่สถานีวัดน้ำ C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,938 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน

สำหรับแม่น้ำป่าสัก ปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ได้ปรับลดการระบายน้ำเช่นกัน ระบายน้ำอยู่ที่ 401 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้เขื่อนพระรามหก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ปรับลดลงตามไปด้วย อยู่ที่ 720 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ส่วนหน่วยงานเร่งซ่อมถนนคันคลอง ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ดหลังถูกน้ำกัดเซาะได้ซ่อมแซมปิดช่องถนนคันคลองที่ขาด บริเวณประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เสร็จเรียบร้อยแล้ว และสามารถใช้ถนนคันคลองดินทางสัญจรได้ตามปกติ


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.