สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 15 สิงหาคม 2565
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงปรับการระบายน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณฝนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงวันที่ 16 - 20 สิงหาคมนี้ โดยใช้เกณฑ์การระบายน้ำต่ำสุดที่ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชน
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงการติดตามแผนการบริหารจัดการน้ำและสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ว่า ปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) อยู่ที่ 442 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 46 ของความจุอ่างฯ ซึ่งเขื่อนมีแผนการระบายน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณฝนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงวันที่ 16 - 20 สิงหาคมนี้ โดย สทนช.ได้เน้นย้ำช่วงมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ควบคุมภายในวันที่ 25 สิงหาคม ทั้งนี้ ต้องมีการบริหารจัดการน้ำจากเขื่อนลงสู่แม่น้ำป่าสักในระดับที่เหมาะสมให้เกิดผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนให้น้อยที่สุด รวมถึง วางระบบการแจ้งเตือนให้พื้นที่เสี่ยงให้รับทราบล่วงหน้าและทั่วถึง โดยใช้เกณฑ์การระบายน้ำต่ำสุดที่ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีที่ส่งผลกระทบกับพื้นที่เสี่ยงในปี 2564 รวม 15 จุดมาเป็นเกณฑ์การแจ้งเตือนประชาชน เพื่อขนย้ายสิ่งของล่วงหน้า เช่น ตลาดน้ำต้นตาล ต.ต้นตาล อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ที่เป็นจุดมีการรุกล้ำลำน้ำ // ตลาดน้ำพระยาทด ต.พระยาทด อ.เสาไห้ จ.สระบุรี // บ้านหนองกรด ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ขณะเดียวกันอัตราการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะต้องพิจารณาถึงปริมาณน้ำที่จะมีการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยาร่วมด้วย