สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 27 เมษายน 2565
นายสำเริง แสงภู่วงศ์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยในปีนี้ปฏิบัติการฝนหลวงได้เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาโดยหลายพื้นที่ ที่ได้ขึ้นปฏิบัติการพบร้อยละ 90 ที่ปะสบความสำเร็จแต่ปริมาณน้ำยังไม่มากพอเหมือนหน้าฝน ขณะที่สถานการณ์ในภาพรวมในปีนี้จะไม่รุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมาแต่ยังคงมีพื้นที่ ที่อาจเกิดฝนทิ้งช่วงและปริมาณน้ำในแหล่งน้ำหรือน้ำผิวดินมีไม่เพียงพอโดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานที่ใช้น้ำฝนในการทำเกษตรกรรม ดังนั้นกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจึงจำเป็นต้องวางแผนช่วยเหลือประชาชนที่จะได้รับผลกระทบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ในการขึ้นบินแต่ละครั้งต้องดูความชื้นสัมพัทธ์ สภาพอากาศ ทิศทางของลม และปริมาณเมฆ เพื่อให้สามารถโปรยสารเคมีได้
อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มเติม 3 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ลพบุรี อุบลราชธานี และจ.นครราชสีมา และขณะนี้ มีหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ เพื่อให้แผนการปฏิบัติการฝนหลวงสอดคล้องกับสถานการณ์ และครอบคลุมพื้นที่เพื่อเติมน้ำให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำให้มีปริมาณน้ำเพียงพอ
อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรย้ำปีนี้จะเกิดภัยแล้งไม่รุนแรงมากนัก พร้อมเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ด้วยการทำฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เกิดภัยแล้ง
อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวถึงแผนรับมือภัยแล้งปีนี้ว่า ภัยแล้งจะไม่รุนแรงเหมือนกับปีที่ผ่านมา ยกเว้นบางพื้นที่อาจเกิดฝนทิ้งช่วงและปริมาณน้ำในแหล่งน้ำหรือน้ำผิวดินมีไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องวางแผนช่วยเหลือประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ โดยปีนี้จะต้องวางจุดขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงให้ตรงกับพื้นที่ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นมียื่นขอฝนหลวงมาแล้ว 33 จังหวัด ควบคู่กับดูแผนการเพาะปลูกประจำปีด้วยเพื่อให้เพาะปลูกสอดคล้องกับปริมาณน้ำที่มี ทั้งนี้ การขึ้นบินแต่ละครั้งต้องดูความชื้นสัมพัทธ์ สภาพอากาศ ทิศทางของลม และปริมาณเมฆ เพื่อให้สามารถโปรยสารเคมีได้