• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

ริงหรือไม่ ? พื้นที่สีเขียว ช่วยลดความเสี่ยง กระดูกพรุน ตั้งแต่วัยเด็กได้

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  18 มกราคม 2567

พื้นที่สีเขียวไม่ได้มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของมวลกระดูกในเด็ก ลดความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุนในอนาคต จะเป็นเพราะอะไรงานวิจัยมีคำตอบ ปัญหา “โรคกระดูกพรุน” ไม่ได้เกิดแค่กับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่เด็กก็มีสิทธิ์เป็นได้จากปัญหาทางพันธุกรรม ที่จะส่งผลเสียต่อกระดูกมากยิ่งขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

งานวิจัยล่าสุดของเบลเยียมเปิดเผยว่า “พื้นที่สีเขียว” มีส่วนช่วยเพิ่มความแข็งแรงในมวลกระดูกของเด็ก ไปจนถึงป้องกันปัญหากระดูกพรุนที่อาจตามมาในอนาคต เด็กที่มีพื้นที่สีเขียวอย่างน้อย 25% ในรัศมี 1,000 เมตรจากบ้าน มีโอกาสที่ความหนาแน่นของมวลกระดูกจะลดลงน้อยลงกว่าเด็กที่อยู่ห่างไกลจากพื้นที่สีเขียวถึง 66%

เมื่อมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน วารสาร JAMA Network Open โดย ทิม นอว์รอต (Tim Nawrot), ฮานน์ สลัวร์ส (Hanne Sleurs) และทีมงานจากมหาวิทยาลัยในเบลเยียมพบว่าเด็กที่มีพื้นที่สีเขียวใกล้บ้านมักมีกระดูกที่แข็งแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจนำไปสู่ประโยชน์ต่อสุขภาพตลอดชีวิต โดยเด็กที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สีเขียวเป็นส่วนใหญ่ (มากกว่าร้อยละ 20-25) มีความแข็งแรงของกระดูกมากขึ้นเมื่อเทียบกับการเติบโตตามธรรมชาติในเวลาครึ่งปี รวมถึงมีความเสี่ยงที่มวลหนาแน่นของกระดูกจะลดลง น้อยกว่าเด็กทั่วไปถึงร้อยละ 65 เพราะพื้นที่สีเขียวสามารถป้องกันไม่ให้เด็กกระดูกหักได้ง่าย ไปจนถึงลดความเสี่ยงในการเกิด “โรคกระดูกพรุน” เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่สำหรับความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่สีเขียวและความแข็งแรงของมวลกระดูก ทีมนักวิจัยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่เด็กเหล่านั้นได้มีโอกาสออกกำลังกายมากกว่าเด็กที่โตขึ้นในตัวเมืองหรือจุดที่เข้าถึงพื้นที่สีเขียวได้ยาก เพราะการออกกำลังเป็นประจำคือปัจจัยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก นอกจากนี้สถานที่สีเขียวเหล่านี้ยังดึงดูดใจเด็กๆ ให้ออกไปวิ่งเล่นอีกด้วย “ยิ่งมวลกระดูกแข็งแรงขึ้นตั้งแต่ในวัยเด็กเท่าไร คุณก็จะสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ง่ายขึ้นเท่านั้น” ทิม ระบุ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีงานวิจัยที่อธิบายว่า การเข้าถึงพื้นที่สีเขียวมากขึ้นเพื่อช่วยให้เด็กได้มีกิจกรรมทางกายมากขึ้นนั้น มีประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็กมากกว่าที่คิดเอาไว้มาก เช่น ลดความเสี่ยงภาวะน้ำหนักเกินที่อาจก่อให้เกิดโรคอ้วน ความดันโลหิตลดลง ไอคิวสูงขึ้น รวมไปถึงมีสุขภาพจิตและอารมณ์ที่ดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ในราชอาณาจักรยังพบว่า “พื้นที่สีเขียว” ไม่ได้ส่งผลดีแค่กับเด็กเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใหญ่มีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีขึ้นเช่นกัน โดยมีการคาดการณ์ว่าการเดินป่าจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตไปได้ถึง 185 ล้านปอนด์ต่อปี หรือประมาณ 8 พันล้านบาท การศึกษาของ ทิม นอว์รอต และ ฮานน์ สลัวร์ส ใช้วิธีสำรวจจากการติดตามเด็ก 1,492 คน ในแถบฟลานเดอร์ส ประเทศเบลเยียม ที่มีอายุ 4-6 ปี ทั้งในตัวเมือง ชานเมือง และชนบท ตั้งแต่ปี 2014-2021 หลังจากนั้นก็ทำการอัลตราซาวนด์เพื่อวัดความหนาแน่นของ มวลกระดูกในเด็ก โดยใช้อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง เชื้อชาติ และอื่นๆ มาเป็นตัวชี้วัดผลวิจัยพบว่าเด็กที่มีพื้นที่สีเขียวอย่างน้อย 25% ภายในรัศมี 1,000 เมตรจากบ้าน มีโอกาสที่ความหนาแน่นของมวลกระดูกจะลดลงน้อยกว่าเด็กที่อยู่ห่างไกลจากพื้นที่สีเขียวถึงร้อยละ 66 ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ท้ายที่สุดนี้ทีมนักวิจัยได้ให้ข้อสรุปว่าผลจากการศึกษานั้นพบว่า “พื้นที่สีเขียว” มีความสำคัญต่อเด็กอย่างมาก เพราะถ้าการเจริญเติบโตของมวลกระดูกต่ำตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ถือว่าเสี่ยงต่อการเกิด “โรคกระดูกพรุน” ไม่ต่างกับการสูญเสียมวลกระดูกเมื่ออายุเพิ่มขึ้น

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (https://www.bangkokbiznews.com/health/social/1108914)


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.