• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

ประเทศอาเซียนตอนล่าง 5 ประเทศ เดินหน้าแผนพร้อมรับมือหมอกควันข้ามแดนปีนี้ช่วง ก.ค. ถึง ต.ค. โดยเฉพาะการเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าพรุในภาคใต้ของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  6 กรกฎาคม 2565

ประเทศอาเซียนตอนล่าง 5 ประเทศ เดินหน้าแผนพร้อมรับมือสถานการณ์หมอกควันข้ามแดนปีนี้ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม โดยเฉพาะการเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าพรุในภาคใต้ของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการระดับรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศ เรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 23 (23’d MSC) ร่วมกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนา ประเทศเนการาบรูไนดารุสซาลาม , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำประเทศมาเลเซีย และรัฐมนตรีอาวุโสแห่งรัฐในกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม สาธารณรัฐสิงคโปร์ ผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อรับรองผลการประชุมคณะทำงานภายใต้รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศ โดย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า แต่ละประเทศได้รายงานการเตรียมพร้อมรับมือหมอกควันข้ามแดนในอาเซียนตอนล่าง ซึ่งไทยได้เตรียมแผนป้องกันไฟไหม้ป่าพรุในพื้นที่ภาคใต้ การรับมือสถานการณ์ปัญหาหมอกควันข้ามแดน และการใช้แบบจำลองคาดการณ์สถานการณ์คุณภาพอากาศล่วงหน้า 7 วันช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมนี้ ทั้งนี้ ที่ประชุมยังพิจารณากลยุทธการจัดการป่าพรุในพื้นที่อาเซียนตอนล่าง เพื่อให้การแก้ปัญหาไฟจากป่าพรุโดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้มีการจัดการอย่างยั่งยืน

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวย้ำว่า หน้าแล้งของภูมิภาคอาเซียนตอนล่างช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนของทุกปี จะเป็นช่วงหน้าแล้งของภูมิภาคอาเซียนตอนล่าง ทำให้มีโอกาสเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าพรุ ทั้งป่าพรุภายในประเทศและป่าพรุบริเวณเกาะสุมาตรา ซึ่งสถานการณ์ไฟป่าดังกล่าวอาจก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันข้ามแดนส่งผลกระทบภาคใต้ของไทยและภูมิภาคอาเซียนตอนล่าง จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมภายในประเทศ โดย คพ.ได้จัดประชุมหน่วยงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในภาคใต้เตรียมรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในภาคใต้ปีนี้ เบื้องต้นรัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กำชับให้ทุกหน่วยงานกำหนดแผน ดำเนินมาตรการป้องกัน และแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับประชาชนและสร้างเครือข่ายความร่วมมือเฝ้าระวังไฟไหม้ป่าพรุ ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และการท่องเที่ยว


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.