• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

“วราวุธ” กำชับ ทีม พม. รับมือมวลน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา สั่ง 6 จ.ภาคกลาง เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ย้ำ! โทรสายด่วน 1300 ตลอด 24 ชม.

NBT CONNEXT  5 ตุลาคม 2567

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในภาคกลางในวันนี้ปริมาณน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยมาอยู่ที่ 1,994 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอีกไม่นานจะปล่อยขึ้นไปจนถึงประมาณ 2,000 ไม่เกิน 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำเต็มความจุที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ที่ประมาณ 2,700 ไม่เกิน 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เราเห็นว่าวันนี้น้ำที่ปล่อยผ่านจากเขื่อนเจ้าพระยานั้นจะกระทบกับสองฝั่งของเจ้าพระยาแน่นอน นอกจากนั้นทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เข้ามาทางแม่น้ำท่าจีน หรือไปสู่แม่น้ำน้อย ปริมาณน้ำที่พยามจะผันออกไปยังทุ่งตะวันตกและทุ่งตะวันออกนั้นเพิ่มปริมาณมากขึ้นประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีในแต่ละข้าง 

นายวราวุธ กล่าวว่า ดังนั้นปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาอยู่ทางพื้นที่ของที่ลุ่มภาคกลางจะเพิ่มปริมาณมาก และพี่น้องประชาชนจะต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ในส่วนของกระทรวง พม. เราได้เตรียมพื้นที่ พร้อมทั้งถุงยังชีพ ทีมงานเจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. ที่จะเข้าไปช่วยเยียวยา พูดคุยกับพี่น้องประชาชน และยังมีการเตรียมพื้นที่ของกระทรวง พม. จัดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวในการรองรับผู้ประสบภัย ใน 6 จังหวัดภาคกลาง จำนวน 17 แห่ง ดังนี้

1. จังหวัดสุพรรณบุรี 3 แห่ง ได้แก่

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสุพรรณบุรี

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี

- สำนักงานการเคหะจังหวัดสุพรรณบุรี

2. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 4 แห่ง ได้แก่

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์

- การเคหะบ่อโพง

3. จังหวัดนครปฐม 4 แห่ง ได้แก่

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครปฐม

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครปฐม

- สำนักงานเคหะสาขา 1

- สำนักงานเคหะสาขา 2 

4. จังหวัดชัยนาท 2 แห่ง ได้แก่

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชัยนาท

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท

5. จังหวัดสมุทรปราการ 3 แห่ง ได้แก่

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสมุทรปราการ

- ศูนย์พัฒนาศักยภาพและฝึกอาชีพคนพิการพระประแดง

- สถานสงเคราะห์คนพิการพระประแดง

6. กรุงเทพมหานคร 1 แห่ง ได้แก่

- สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ

ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือมีศูนย์พักพิงชั่วคราว 8 จังหวัด 26 แห่ง ได้แก่ 1.จังหวัดเชียงราย 7 แห่ง ได้แก่

- ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงราย

- ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดเชียงราย

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงราย

- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (ริมกก)

- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (แม่สาย 1)

- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (แม่สาย 2)

2. จังหวัดเชียงใหม่ 8 แห่ง ได้แก่

- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (สันผีเสื้อ)

- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (หนองหอย)

- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (หนองหอย 2)

- สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์

- สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านเชียงใหม่

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่

- ศูนย์พักพัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน

- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์

3. จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2 แห่ง ได้แก่

- ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดแม่ฮ่องสอน

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน

4. จังหวัดลำพูน 2 แห่ง ได้แก่

- ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดลำพูน

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลำพูน

5. จังหวัดลำปาง 1 แห่ง ได้แก่

- ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ

6. จังหวัดพะเยา 2 แห่ง ได้แก่

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยา

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพะเยา

7. จังหวัดน่าน 2 แห่ง ได้แก่

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดน่าน

- ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดน่าน 

8. จังหวัดแพร่ 2 แห่ง ได้แก่

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแพร่

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดแพร่

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด 20 แห่ง ได้แก่

1. จังหวัดหนองคาย 3 แห่ง ได้แก่ 

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดหนองคาย

- สถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็กจังหวัดหนองคาย

- นิคมสร้างตนเองโพนพิสัย

2. จังหวัดเลย 2 แห่ง ได้แก่

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเลย

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเลย

3. มุกดาหาร 2 แห่ง ได้แก่

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดมุกดาหาร

4. จังหวัดบึงกาฬ 2 แห่ง ได้แก่

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดบึงกาฬ

5. จังหวัดอุบลราชธานี 2 แห่ง ได้แก่

- ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการบ้านศรีวนาไล

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุบลราชธานี

6. จังหวัดนครพนม 3 แห่ง ได้แก่

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม

- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนม 

- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม

7. จังหวัดขอนแก่น 3 แห่ง ได้แก่

- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น

- ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภาจังหวัดขอนแก่น

- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดขอนแก่น

8. จังหวัดอุดรธานี 3 แห่ง ได้แก่

- นิคมสร้างตนเองเชียงพิณ

- นิคมสร้างตนเองห้วยหลวง

- สถานสงเคราะห์เด็กหญิงจังหวัดอุดรธานี

หากประชาชนผู้ประสบภัยมีความประสงค์ที่จะมาใช้พื้นที่ของกระทรวง พม. เรายินดีให้บริการซึ่งสถานที่เรามีความปลอดภัยมีทั้งที่อยู่ที่พักอาศัยและห้องน้ำเตรียมบริการ 24 ชั่วโมง หากต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ขอให้โทรติดต่อมาที่ สายด่วน พม. โทร. 1300 ของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน  (ศรส.) กระทรวง พม. เราพร้อมส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเครื่องที่เร็วลงพื้นที่ช่วยเหลือโดยด่วน 

นอกจากนี้ ตนขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำแม่ปิงสูงขึ้นมากอย่างไม่เคยเจอมาก่อนสะท้อนให้เห็นว่าวันนี้ธรรมชาติกำลังเคาะประตูพวกเรามนุษยชาติอย่างเต็มที่แล้ว มาช่วยกันเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวเชียงใหม่และเชียงรายฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปด้วยกัน พวกเรากระทรวง พม. จะคอยทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการประสานงานช่วยสนับสนุนและเยียวยาพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.