NBT CONNEXT 5 ตุลาคม 2567
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในภาคกลางในวันนี้ปริมาณน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยมาอยู่ที่ 1,994 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอีกไม่นานจะปล่อยขึ้นไปจนถึงประมาณ 2,000 ไม่เกิน 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำเต็มความจุที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ที่ประมาณ 2,700 ไม่เกิน 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เราเห็นว่าวันนี้น้ำที่ปล่อยผ่านจากเขื่อนเจ้าพระยานั้นจะกระทบกับสองฝั่งของเจ้าพระยาแน่นอน นอกจากนั้นทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เข้ามาทางแม่น้ำท่าจีน หรือไปสู่แม่น้ำน้อย ปริมาณน้ำที่พยามจะผันออกไปยังทุ่งตะวันตกและทุ่งตะวันออกนั้นเพิ่มปริมาณมากขึ้นประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีในแต่ละข้าง
นายวราวุธ กล่าวว่า ดังนั้นปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาอยู่ทางพื้นที่ของที่ลุ่มภาคกลางจะเพิ่มปริมาณมาก และพี่น้องประชาชนจะต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ในส่วนของกระทรวง พม. เราได้เตรียมพื้นที่ พร้อมทั้งถุงยังชีพ ทีมงานเจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. ที่จะเข้าไปช่วยเยียวยา พูดคุยกับพี่น้องประชาชน และยังมีการเตรียมพื้นที่ของกระทรวง พม. จัดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวในการรองรับผู้ประสบภัย ใน 6 จังหวัดภาคกลาง จำนวน 17 แห่ง ดังนี้
1. จังหวัดสุพรรณบุรี 3 แห่ง ได้แก่
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสุพรรณบุรี
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี
- สำนักงานการเคหะจังหวัดสุพรรณบุรี
2. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 4 แห่ง ได้แก่
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์
- การเคหะบ่อโพง
3. จังหวัดนครปฐม 4 แห่ง ได้แก่
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครปฐม
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครปฐม
- สำนักงานเคหะสาขา 1
- สำนักงานเคหะสาขา 2
4. จังหวัดชัยนาท 2 แห่ง ได้แก่
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชัยนาท
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท
5. จังหวัดสมุทรปราการ 3 แห่ง ได้แก่
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสมุทรปราการ
- ศูนย์พัฒนาศักยภาพและฝึกอาชีพคนพิการพระประแดง
- สถานสงเคราะห์คนพิการพระประแดง
6. กรุงเทพมหานคร 1 แห่ง ได้แก่
- สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ
ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือมีศูนย์พักพิงชั่วคราว 8 จังหวัด 26 แห่ง ได้แก่ 1.จังหวัดเชียงราย 7 แห่ง ได้แก่
- ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงราย
- ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดเชียงราย
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงราย
- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (ริมกก)
- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (แม่สาย 1)
- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (แม่สาย 2)
2. จังหวัดเชียงใหม่ 8 แห่ง ได้แก่
- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (สันผีเสื้อ)
- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (หนองหอย)
- บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (หนองหอย 2)
- สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์
- สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านเชียงใหม่
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่
- ศูนย์พักพัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์
3. จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2 แห่ง ได้แก่
- ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน
4. จังหวัดลำพูน 2 แห่ง ได้แก่
- ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดลำพูน
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลำพูน
5. จังหวัดลำปาง 1 แห่ง ได้แก่
- ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ
6. จังหวัดพะเยา 2 แห่ง ได้แก่
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยา
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพะเยา
7. จังหวัดน่าน 2 แห่ง ได้แก่
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดน่าน
- ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดน่าน
8. จังหวัดแพร่ 2 แห่ง ได้แก่
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแพร่
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดแพร่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด 20 แห่ง ได้แก่
1. จังหวัดหนองคาย 3 แห่ง ได้แก่
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดหนองคาย
- สถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็กจังหวัดหนองคาย
- นิคมสร้างตนเองโพนพิสัย
2. จังหวัดเลย 2 แห่ง ได้แก่
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเลย
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเลย
3. มุกดาหาร 2 แห่ง ได้แก่
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดมุกดาหาร
4. จังหวัดบึงกาฬ 2 แห่ง ได้แก่
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดบึงกาฬ
5. จังหวัดอุบลราชธานี 2 แห่ง ได้แก่
- ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการบ้านศรีวนาไล
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุบลราชธานี
6. จังหวัดนครพนม 3 แห่ง ได้แก่
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม
- ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนม
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม
7. จังหวัดขอนแก่น 3 แห่ง ได้แก่
- บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น
- ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภาจังหวัดขอนแก่น
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดขอนแก่น
8. จังหวัดอุดรธานี 3 แห่ง ได้แก่
- นิคมสร้างตนเองเชียงพิณ
- นิคมสร้างตนเองห้วยหลวง
- สถานสงเคราะห์เด็กหญิงจังหวัดอุดรธานี
หากประชาชนผู้ประสบภัยมีความประสงค์ที่จะมาใช้พื้นที่ของกระทรวง พม. เรายินดีให้บริการซึ่งสถานที่เรามีความปลอดภัยมีทั้งที่อยู่ที่พักอาศัยและห้องน้ำเตรียมบริการ 24 ชั่วโมง หากต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ขอให้โทรติดต่อมาที่ สายด่วน พม. โทร. 1300 ของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. เราพร้อมส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเครื่องที่เร็วลงพื้นที่ช่วยเหลือโดยด่วน
นอกจากนี้ ตนขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำแม่ปิงสูงขึ้นมากอย่างไม่เคยเจอมาก่อนสะท้อนให้เห็นว่าวันนี้ธรรมชาติกำลังเคาะประตูพวกเรามนุษยชาติอย่างเต็มที่แล้ว มาช่วยกันเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวเชียงใหม่และเชียงรายฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปด้วยกัน พวกเรากระทรวง พม. จะคอยทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการประสานงานช่วยสนับสนุนและเยียวยาพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่