• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

อึ้ง! เต่า-สัตว์ทะเล 40% ตายเพราะขยะ นายกฯ แนะสร้างสำนึก สั่งทำแผนรับดินถล่ม

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  9 สิงหาคม 2567

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์ (https://www.khaosod.co.th/politics/news_9352083)

นายกฯ ลงพื้นที่ภูเก็ต อึ้ง เต่า-สัตว์ทะเล 40% ตายเพราะขยะ แนะสร้างจิตสำนึกให้คนรับรู้ สั่งดูแลบ้านพักจนท.-ขรก. เร่งทำแผนรับมือพื้นที่เสี่ยงดินถล่มทั่วประเทศ

เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 8 ส.ค. 2567 ที่ จ.ภูเก็ต นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย และคณะ เดินทางมายังศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เยี่ยมชมการบริหารจัดการช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากในพื้นที่ทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต โดย นายกฯ รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ภาพรวมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร และดูเต่ากระ เต่าตนุ เต่าหญ้า ที่บาดเจ็บ จากขยะในทะเล ประมาณ 40% โดยมีสัตวแพทย์ อธิบายถึงการรักษา ซึ่งนายกฯ ได้สอบถามถึงปัญหาเศษขยะที่อยู่ในทะเล ที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสัตว์ทะเลว่าเป็นขยะประเภทไหนโดยสัตวแพทย์แจ้งว่า ส่วนใหญ่จะเป็นขยะในทะเลทั่วไป ขยะมาจากกิจกรรมทำการประมง รวมถึงพลาสติกต่างๆ ซึ่งสร้างความเสียหายจากการเสียดสี ขูดขีดและเป็นรอยถลอกโดยเฉพาะเต่าที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก

นายกฯ ยังได้เยี่ยมชมบ้านพักของเจ้าหน้าที่ โดยบอกว่าเราให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการ จะได้ไม่ขาดแคลนบุคลากรที่อยากจะเข้ามารับใช้ประเทศชาติ เพื่อให้เขามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี โดยต้องสร้างให้เสมอภาคเท่าเทียมกันด้วย นายกฯ ยังได้ดูโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ โดยนายกฯ อยากให้สร้างการเรียนรู้ว่าเต่าและสัตว์ทะเลที่เจ็บป่วย 40% เกิดจากขยะ ตรงนี้ต้องสร้างจิตใต้สำนึกให้คนทราบด้วย โครงการนี้ถือเป็นโครงการดีๆ ควรสอดไส้ความรู้ไปด้วย จากนั้น นายกฯ ได้ประชุมพิจารณามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาดินโคลนถล่ม ที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนบน (ภูเก็ต) ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต โดยนายกฯ กล่าวว่า แผนระยะยาวก็ทำกันไป ซึ่งตนเดินทางมาที่นี่ตั้งแต่คราวที่แล้วที่มาพื้นที่สีแดงในเกาะภูเก็ต 3 จุด แต่ถ้าทั่วประเทศที่เป็นพื้นที่สีแดง ถ้าไม่ทำแผนป้องกันเมื่อเข้าฤดูฝนจะเกิดปัญหา ตรงนี้ขอฝากให้เป็นเรื่องเร่งด่วนนายกฯ กล่าวว่า เดินผ่านมาเห็นพิพิธภัณฑ์ที่กำลังก่อสร้างเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว และสนับสนุนการท่องเที่ยว เหนือสิ่งอื่นใดต้องปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องสัตว์ทะเลที่หายาก เพราะเสียชีวิตจากความสะเพร่าหรือมักง่ายของมนุษย์ ฉะนั้น ต้องปลูกฝังเรื่องการทิ้งขยะถือเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้เร่งให้ความรู้กับประชาชนทั่วไป

ส่วนบ้านพักข้าราชการ จริงๆแล้วข้าราชการที่อยู่ที่นี่มีประมาณ 80-100 กว่าครอบครัว ในหลายมิติเราอาจมองข้าม การเข้าสู่ระบบราชการ ตอนหลังไปภาคเอกชน เพราะมีผลตอบแทนที่ดีกว่า ข้าราชการปิดทองหลังพระอย่างองค์กรนี้ต้องอยู่ที่นี่ ไปอยู่ที่อื่นไม่ได้ เมื่ออยู่ที่นี่การเดินทางก็ลำบาก ฉะนั้น การสร้างที่อยู่อาศัยให้กับพนักงานถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งที่อยู่อาศัยตรงนี้มีมา 40-50 ปีแล้ว เช่นเดียวกับหลายพื้นที่ที่ตนลงไปไม่ว่าตำรวจ ทหาร พยาบาล รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับสวัสดิการของข้าราชการ ให้ดำเนินการ เช่นเดียวกับกระทรวงอื่นๆ ส่วนเรื่องการป้องกันดินโคลนถล่ม ได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาต่างๆ ถือเป็นปัญหาที่ใหญ่พอสมควร ซึ่งการประสานงานกับทุกหน่วยงานสำคัญ แม้บางท่านไม่ได้อยู่ตรงนี้ กระทรวงคมนาคมหรือกรมทางหลวง การสร้างสะพานต่างๆ อาจเป็นอุปสรรคทางไหลของน้ำ จึงขอสั่งการผู้ว่าฯ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดี ทั้งนี้ อธิบดีกรมชลประทาน ได้เสนอแผนงานมาแล้ว ต้องทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ให้ดี อธิบายให้ฟังว่าประเด็นคืออะไร รวมถึงพื้นที่สีแดงที่มีความเสี่ยงสูง ที่เราเห็นในแผนที่ ซึ่งภูเก็ตมี 3 พื้นที่ มีมาตรการเร่งด่วนหรือไม่ ที่ต้องโฟกัส เพราะตอนนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้วเป็นช่วงอันตรายที่เราต้องดูแลกันต่อไป และให้กรมทรัพยากรธรณี ตั้งอุปกรณ์แจ้งเตือนภัย ที่ต้องมีการซักซ้อม เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกครัวเรือน ทั้งน้ำป่าภัยพิบัติ โคลนถล่มพร้อมกันนี้ให้ร่วมกันออกแบบการเฝ้าระวังและเตือนภัย ทั้งในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่อื่นที่เป็นพื้นที่สีแดง โดยใช้ข้อมูลทางเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพราะความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.