• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

ขยะในทะเลคือปลายทางผลิตภัณฑ์พลาสติก

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  14 กุมภาพันธ์ 2567

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (https://www.bangkokbiznews.com/environment/1112864)

ทะเล คือแหล่งอาหารและทรัพยากรที่สำคัญกับทุกชีวิตบนโลก แต่ตอนนี้ทะเลกำลังเป็นแหล่งของขยะซึ่งขยะที่พบมากที่สุดคือ “ขยะพลาสติก“

ภาพสมาชิกความร่วมมือ  Seecleaners เมื่อปีก่อน ที่กำลังเก็บขยะจากท้องทะเลในเมื่อชายทะเล Viviers ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งปัญหาขยะในท้องทะเลไม่เพียงแต่เป็นเรื่องใหญ่ในต่างประเทศเท่านั้น สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)เสนอรายงานสถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศ เมื่อพ.ศ. 2564 ที่ระบุว่า ขยะที่ตกค้างออกจากระบบนิเวศชายฝั่งรวมทั้งสิ้น 443,987 กิโลกรัม ขยะที่พบส่วนใหญ่ ได้แก่ ขวดเครื่องดื่มพลาสติก ถุงพลาสติก เศษโฟม ขวดเครื่องดื่มแก้ว นอกจากนี้ พบขยะที่ไหลผ่านทางแม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุด จำนวนเฉลี่ย 52.65 ล้านชิ้น/ปี อย่างไรก็ตาม ความพยายามจัดการปัญหาขยะโดยเฉพาะขยะพลาสติกก็มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุถึงโครงการงานบำรุงถนนทางหลวงชนบทสาย อย.2039 แยก ทล.33 – บ้านไก่จ้น อำเภอภาชี ท่าเรือ และหนองแค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการสร้างถนน พร้อมติดตามพฤติกรรม และสมรรถนะทางวิศวกรรมในการพัฒนาผิวทางชนิดดังกล่าว ปัจจุบันโครงการฯ ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ โดยปรับปรุงโครงสร้างพื้นทาง และไหล่ทางเดิมด้วยวิธี Cement Stabilized In – Place พร้อมปูผิวจราจรลาดยางแบบแอสฟัลท์ติกคอนกรีตผสมขยะพลาสติก โดยใช้ขยะพลาสติก 5 ตัน ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตรช่วง กม. ที่ 10+100 – 15+200 ระยะทางรวม 5.1 กิโลเมตรใช้งบประมาณ 21 ล้านบาทเพื่อช่วยยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางของประชาชนให้สะดวกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สำหรับการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตผสมขยะพลาสติกกับผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตในสภาพแวดล้อม และสภาพการจราจรเดียวกัน เพื่อวิจัย และพัฒนางาน ซึ่งเป็นนวัตกรรมผิวถนนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.