สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 20 เมษายน 2566
จากกรณีที่สื่อออนไลน์ได้นำเสนอข่าวประเด็น “ปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่น PM2.5 ที่ปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง”นั้น
นายสุรัตน์ บัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 10 -19 เมษายน 2566 ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ภาคใต้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกสถานี เนื่องจากเพดานการลอยตัวของอากาศอยู่ในระดับต่ำ อัตราการระบายอากาศไม่ดี ดังนั้น สภาพอากาศที่ปิด ไม่มีการไหลเวียนส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละอองในพื้นที่ ซึ่งมีที่มาจากกิจกรรมการคมนาคม การขนส่ง การใช้รถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาล รวมถึงการทำอาหารปิ้งย่าง การเผาในที่โล่ง อุตสาหกรรม เป็นต้น
ขณะที่การประเมินระดับความรุนแรงของค่าคุณภาพอากาศ และแนวโน้มของคุณภาพอากาศจากหมอกควันไฟป่า และฝุ่น PM2.5 คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดี - ปานกลาง ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ สำหรับผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้นเช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
จากที่มาของฝุ่นละอองที่เกิดจากกิจกรรมในพื้นที่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับเพดานการลอยตัวของอากาศอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ฝุ่นละอองในภาคใต้มีค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าหลังเทศกาลสงกรานต์ แนวโน้มของคุณภาพอากาศจะดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ศูนย์เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาเฉพาะทางอาเซียน (ASMC) ได้คาดการณ์ว่าภูมิภาคอาเซียนตอนใต้จะเริ่มเข้าสู่สภาวะเอลนิญโญ่ และมีปริมาณฝนต่ำกว่าปกติ อาจส่งผลให้สถานการณ์หมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียนตอนใต้ในปี 2566 มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย โดยประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบเล็กน้อยในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน
ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันในการปฏิบัติตามแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 ภายใต้กรอบ “สื่อสารเชิงรุก ยกระดับปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วม” อาทิ
เร่งการประชาสัมพันธ์เชิงรุก และแจ้งเตือนล่วงหน้า 7 วันทุกพื้นที่ ในช่วงสถานการณ์หมอกควันภาคใต้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ตุลาคม ,
ยกระดับมาตรการ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” เพื่อเตรียมการรับมือสถานการณ์และเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมฝุ่นละอองในช่วงวิกฤตในพื้นที่ป่า การเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมฝุ่นละอองจากยานพาหนะ และการกำกับดูแลการดำเนินการในทุกระดับอย่างเข้มงวด ติดตามการดำเนินการ และประเมินสถานการณ์เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ,
ยกระดับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบครบวงจร (ชิงเก็บ ลดเผา) ,
ผลักดันกลไกระหว่างประเทศ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนมีประสิทธิภาพสูงสุด และให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนและดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละออง พร้อมสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เปิดโอกาส/ช่องทางให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมโดยเฉพาะหน่วยงานท้องถิ่น ชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ในการวางแผนเสนอแนะแนวทางดำเนินการการติดตามผลการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ค่า PM2.5 จากเว็บไซด์ Air4Thai.com หรือ แอปพลิเคชัน Air4Thai และเฟซบุ๊กสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 (สงขลา) และปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
หากคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีเหลือง (ค่า PM2.5 38 – 50 ไมโครกรัม (มคก.)/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)) ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ,
ระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ค่า PM2.5 51 – 90 มคก./ลบ.ม. ) ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์ และหากคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดง (ค่า PM2.5 91 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป) ทุกคนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์