• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

Post Formats

แม่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ประจำปี 2549

แม่คำมา แสงบังเงิน

แม่คำมา แสงบังเงิน
ชื่อ - นามสกุลแม่คำมา แสงบังเงิน อายุ 67 ปี
อาชีพ แม่บ้าน
ที่อยู่ 99 หมู่ 17 ตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
คำมา
แม่คำมา แสงบังเงิน ได้แต่งงานกับ คุณพ่อหน่อ แสงบังเงิน ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้แม่คำมาต้องแบกภาระเลี้ยงดูบุตรทั้งหมด 6 คน ซึ่งฐานะของครอบครัวก็ค่อนข้างจะยากจน แต่แม่คำมาก็ไม่เคยท้อถอยต่อสู้ชีวิตเลี้ยงดูบุตรทุกคนให้ตั้งตนให้อยู่ในศีลธรรม จริยธรรม สั่งสอนและเป็นตัวอย่างให้ลูกๆให้รู้จักการใช้ชีวิตตามจารีตประเพณี รักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันพระอธิการเอนก จนฺทปญฺโญ บุตรคนที่ 2 ของแม่คำมา เจ้าอาวาสวัดคลองศิลา จังหวัดเชียงใหม่ ก็มีผลงานในด้านการอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม จนได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น รางวัลร่วมใจพัฒนาสิ่งแวดล้อมและสังคมไทย เกียรติบัตรเจ้าอาวาสดีเด่นด้านทรัพยากรธรรมชาติ และรางวัลลูกโลกสีเขียว เป็นต้น

แม่คำมา และพระอธิการเอนก ได้ร่วมทำกิจกรรมโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และ น้ำบริเวณลุ่มน้ำฝางร่วมกับชุมชนในพื้นที่มานานกว่า 10 ปี จนสามารถก่อตั้งเครือข่ายป่าชุมชนดงแม่หลักหมื่น ที่มีการรวมตัวของชาวบ้านจาก 3 อำเภอ (อำเภอไชยปราการ อำเภอเชียงดาว และอำเภอฝาง) ในการทำหน้าที่ดูแลรักษาผืนป่าที่เหลืออยู่ให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด นอกจากนี้ แม่คำมายังร่วมกิจกรรมในป่าชุมชนที่อยู่บริเวณโรงเรียนของหมู่บ้าน โดยเปรียบเสมือนปราชญ์ชาวบ้านที่คอยสอนนักเรียนที่สนใจเข้ามาศึกษาระบบนิเวศของป่าชุมชน ให้รู้จักพันธุ์พืชพื้นบ้าน พืชสมุนไพร และการหาแหล่งอาหารจากป่า อีกทั้งแม่คำมายังคอยช่วยสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมด้านการอนุรักษ์พื้นป่าทั้งด้านทุนทรัพย์ กำลังกายและกำลังใจ อย่างต่อเนื่อง เช่น พิธีการบวชป่า การสืบชะตาแม่น้ำ การปลูกป่า จนมีเหตุการณ์ที่เกือบจะสูญเสียชีวิตของแม่คำมาไป เนื่องจากประสบอุบัติเหตุตกเขา ขณะเดินทางไปสำรวจป่าอนุรักษ์บนดอยร่วมกับพระอธิการเอนกและ คณะทำงาน ปัจจุบัน ถึงแม้ว่าแม่คำมาจะมีอายุมากแล้ว แต่ยังคงอุทิศตนในการตรวจป่าอนุรักษ์และทำกิจกรรมในป่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบสานงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และถ่ายทอดความรู้ต่างๆ สู่คนรุ่นหลังต่อไป

นางผา กองธรรม

ชื่อ - นามสกุล นางผา กองธรรม อายุ 53 ปี
อาชีพ ทำนา
ที่อยู่ 26 หมู่ 4 บ้านดอนสำราญ ตำบลยางคำ อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด
นางผา
แม่ผาเป็นคนบ้านดอนสำราญแต่กำเนิด เมื่อตอนแม่ผายังเป็นเด็ก ได้ต่อสู้ชีวิตและดิ้นรนเละต้องรับภาระเลี้ยงดูน้องๆ เนื่องจากพ่อของแม่ผาได้เข้ามาทำงานที่ กรุงเทพฯ และไม่ได้กลับบ้านมาเลี้ยงดูครอบครัว ทำให้มารดาของแม่ผาต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกๆทุกคนและเนื่องจากแม่ผาเป็นบุตรสาวคนโต ภาระจึงต้องมาตกอยู่ที่แม่ผาด้วย จนกระทั่งแม่ผามีอายุได้ 15 ปี ได้แต่งงานกับนายสุด ซึ่งต่อมานายสุดล้มป่วยและมีอาการหลอกหลอนทางประสาทจนอาการรุนแรงขึ้นจนที่สุดก็ต้องแยกกันอยู่ และเสียชีวิตลง แม่ผาต้องเป็นหญิงหม้ายดูแลลูกๆ ของตน อบรม ปลูกฝังลูก ให้เป็นคนดี ถึงแม้ว่าในช่วงแรกนั้นจะถูกชาวบ้านดูถูกเหยียดหยาม และนินทา ถึงสภาพปัญหาครอบครัวของแม่ผา แต่ด้วยความมานะบากบั่นและกำลังใจจากลูกๆ แม่ผาสอนลูกๆของตนให้รู้จักรักษ์สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว และใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ สอนให้รู้จักประหยัดพลังงานโดยทำตนให้เป็นตัวอย่างแก่ลูกๆ รวมทั้งยังปลูกฝังให้ลูกๆรู้จักพึ่งตนเอง ประกอบอาชีพที่สุจริตและเป็นคนดีของสังคม ปัจจุบันลูกสาวคนเล็กของแม่ผาคอยช่วยเหลือในการดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์ป่าทามกุดเป่ง

แม่ผาเริ่มสนใจและมีกิจกรรมในการช่วยเหลือชุมชน กิจกรรมงานพัฒนาคุณภาพชีวิตตั้งแต่ประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ได้แก่ การทำงานกับองค์กรชุมชนทั้งกลุ่มพันธุ์ไม้ การจัดการป่าทามชุมชนกุดเป่ง เพื่อให้มีป่าชุมชนที่ใช้เป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้าน และการรักษาพื้นที่ป่าบุ่งป่าทามในพื้นที่ราษีไศล จนผลงานด้านสิ่งแวดล้อมของแม่ผาเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชุมชน จนได้รับเลือกเป็นอาสาสมัครชุมชนดีเด่น มีบทบาทในกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และเป็นตัวแทนชุมชนเข้าร่วมการประชุมในระดับนานาชาติ "ผู้หญิงอยู่กับป่า" ที่ประเทศเนปาล ต่อมาในปีพ.ศ.2532 มีการจัดตั้งคณะกรรมการอนุรักษ์ป่าทามกุดเป่งเพื่อดูแลพื้นที่ป่าจำนวน 3,000 ไร่ ซึ่งมี 4 หมู่บ้านที่ใช้ประโยชน์จากผืนป่าร่วมกัน แม่ผาก็ได้รับคัดเลือกเป็นกรรมการ และมีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการ แม่ผา "ทำงานด้วยใจรัก คอยประคับประคอง" จนได้รับความร่วมมือในชุมชนระดับต่างๆในการร่วมด้วยช่วยกันอนุรักษ์ป่าทามกุดเป่ง

นางเคลื่อน สร้างอำไพ

ชื่อ - นามสกุลนางเคลื่อน สร้างอำไพ อายุ 75 ปี
อาชีพ หมอนวดแผนโบราณ ค้าขาย (ผัก)
ที่อยู่ 15 หมู่ 1 บ้านเทียรยา ตำบลตาแกะ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
นางเคลื่อน

ชีวิตในวัยเด็กของแม่เคลื่อนต้องอาศัยอยู่กับยายตั้งแต่เด็กเนื่องจากมารดาเสียชีวิตตั้งแต่แม่เคลื่อนอายุแค่ 6 เดือน จนอายุได้ 21 ปีก็ได้สมรสกับนายคลิ้ง สร้างอำไพ และมีบุตรด้วยกัน 3 คนซึ่งปัจจุบันบุตรของแม่เคลื่อนทั้ง 3 คนได้เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว ซึ่งก็ทำให้แม่เคลื่อนเสียใจกับการที่ต้องสูญเสียลูกไป ต่อมาแม่เคลื่อนก็ช่วยเลี้ยงดูเหล่าบรรดาหลานและเหลนอย่างเหน็ดเหนื่อยด้วยอายุที่มาก และต้องประสบปัญหาฐานะครอบครัวที่ยากจนต้องต่อสู้อย่างยากลำบากมาโดยตลอด

แม่เคลื่อนเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีเป็นที่รู้จักของชาวบ้านทั้งชาวไทยและชาวมุสลิม เมื่อปี พ.ศ.2523 แม่เคลื่อนได้รวมตัวกับเพื่อนๆ 2-3 คน ต่อต้านการตัดคลองชลประทาน ผ่านป่าของชาวบ้านแต่ก็ไม่เป็นผล จนทำให้เกิดการขายหน้าดินให้พ่อค้า และไม่สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวได้อีก ต่อมาเมื่อปีพ.ศ. 2535 แม่เคลื่อนได้ช่วยหน่วยงานเจ้าหน้าที่ทำวิจัยป่าชุมชนภาคใต้วิจัยพื้นที่ป่าสันทรายซึ่งเป็นงานวิจัยชิ้นแรก และแม่เคลื่อนยังศึกษาประโยชน์ของพืชพรรณในป่าสันทราย และมีการถ่ายทอดความรู้ให้แก่เด็กๆ ในชุมชน และผู้สนใจที่เข้ามาในพื้นที่ รวมทั้งมีการสอนและส่งเสริมให้เด็กๆ และชาวบ้านหาพืชผักชนิดต่างๆ ที่มีอยู่ในป่าสันทรายมาขาย เพื่อให้ได้เรียนรู้และใกล้ชิดกับธรรมชาติโดยตรง ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ของการอนุรักษ์ป่าสันทรายของชุมชนไว้ และตอนปลายปี 2535 ชลประทานก็เข้ามาขอพื้นที่เพื่อทำคลองชลประทานอีก แม่เคลื่อนจึงขอความร่วมมือกับนักวิชาการและนักพัฒนาเอกชน ไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ชลประทานให้ใช้คลองภูมี ตามเดิม ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ ทำให้ปัจจุบันมีป่าชุมชนที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันหลายไร่ นอกจากนี้แม่เคลื่อนนำพืชสมุนไพรจากป่าสันทรายและป่าพรุมาใช้เป็นยาหม้อ แคปซูล และยาบด ซึ่งชาวเทียรยาต่างก็รับทราบถึงความชำนาญด้านสมุนไพรของแม่เคลื่อนเป็นอย่างดี ปัจจุบันพื้นที่ป่าสันทรายกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของกลุ่มชนรุ่นหลังถึงแม้ว่าอายุของแม่เคลื่อนจะมากแล้วแต่แม่เคลื่อนก็ยังจะดำเนินการอนุรักษ์และถ่ายทอดความรู้จากป่าชุมชนแห่งนี้ให้แก่กลุ่มผู้รักษ์ธรรมชาติต่อไป

Accordion Menu

Newsletter Subscribe

About The Flex

Good seasons, day place male evening life after together gathered let void she'd grass created days upon after above great. Creative, prolific and ever-ready to serve you.


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.