• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ข่าวสิ่งแวดล้อม

ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 1 เมษายนถึง 30 มิถุนายน 2566 ควบคุมการทำประมงฤดูปลามีไข่

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์  22 มีนาคม 2566

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงได้มีการประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2528 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายนของทุกปี ในบางส่วนของพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และจังหวัดตรัง ควบคู่ไปกับการรวบรวมและวิเคราะห์ผลการศึกษาทางวิชาการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงมาตรการให้สอดคล้องกับสภาวะของทรัพยากรสัตว์น้ำ สิ่งแวดล้อมและสังคมในปัจจุบัน

ผลการศึกษาทางวิชาการในช่วงการประกาศใช้มาตรการฯ ปี 2565 พบว่าสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจหลายชนิด มีความสมบูรณ์เพศสูง โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายนพบสัตว์น้ำวัยอ่อนมีความหนาแน่นสูงสุดถึง 1,197 ตัว/1,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าช่วงก่อนประกาศใช้มาตรการฯ ที่มีความหนาแน่นเพียง 470 ตัว/1,000 ลบ.ม. อีกทั้งข้อมูลขนาดสัตว์น้ำที่จับได้จากเครื่องมือประมงที่อนุญาตให้ใช้ในช่วงประกาศใช้มาตรการฯ เช่น อวนกุ้งและอวนปู พบว่ามีขนาดเหมาะสม โดยมีขนาดความยาวมากกว่าความยาวแรกสืบพันธุ์ จึงเป็นการยืนยันได้ว่ามาตรการที่ใช้มีความสอดคล้องกับผลการศึกษาทางวิชาการทั้งในด้านพื้นที่และช่วงเวลาในมาตรการฯ ว่ามีความถูกต้องและเหมาะสมกับฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ และยังเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำเพื่อคงความสมดุลทางธรรมชาติอีกด้วย

กรมประมง จึงประกาศใช้มาตรการ บริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามันประจำปี 2566 ในเขตพื้นที่บางส่วนของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และจังหวัดตรัง ตั้งแต่ปลายแหลมพันวา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ถึงปลายแหลมหยงสตาร์ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ครอบคลุมพื้นที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายนนี้ ตามประกาศฯ และกำหนดชนิดของเครื่องมือประมง วิธีการทำการประมง และเงื่อนไขที่สามารถทำการประมงได้ในช่วงประกาศใช้มาตรการ

กรมประมง ขอให้พี่น้องชาวประมงทุกคน ที่ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐในการปฎิบัติตามกฎหมายในมาตรการปิดอ่าวทะเลอันดามัน มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืนและเกิดความมั่นคงในการประกอบอาชีพประมงต่อไป


© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.