สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 9 มกราคม 2568
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (https://www.bangkokbiznews.com/environment/1160273)
การศึกษาโดยนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมและธนาคารกลางยุโรป ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Communications, Earth and the Environment พบว่าราคาอาหารและอัตราเงินเฟ้อโดยรวมเพิ่มขึ้น เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดยนักวิจัยคำนวณได้ว่า ภายในเวลาประมาณ 10 ปี ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 1.5-1.8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยจะสูงขึ้นในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนอยู่แล้ว เช่น ตะวันออกกลางหมายความว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมจะเพิ่มขึ้น 0.8-0.9% ภายในปี 2035 เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่เลวร้ายอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ และภายในปี 2060 สภาพอากาศจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น โดยราคาอาหารทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2-4.3 เปอร์เซ็นต์ต่อปี นั่นหมายถึงอัตราเงินเฟ้อโดยรวมจะเพิ่มขึ้น 1.1-2.2% ตัวเลขอาจดูเล็กน้อย แต่สำหรับธนาคารที่ต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อแล้วตัวเลขเหล่านี้มีความสำคัญมาก
แม็กซ์ คอตซ์ หัวหน้าคณะนักวิจัยด้านสภาพอากาศจากสถาบันพ็อทซ์ดัมเพื่อการวิจัยผลกระทบต่อสภาพอากาศ ในเยอรมนี กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจะมีผลต่อภาวะเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าภาวะโลกร้อนสามารถทำลายสวัสดิการของมนุษย์ สวัสดิการทางเศรษฐกิจได้” จนถึงปัจจุบัน ผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศมักจะเกิดขึ้นในระยะสั้น แต่หลักฐานบ่งชี้ว่าถ้าหากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ทวีความรุนแรง และยังไม่มีนโยบายด้านสภาพอากาศมาหยุดยั้ง หรือเกิดขึ้นสายเกินไป อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารอาจสูงถึง 3.23 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และส่งผลต่อเงินเฟ้อทั่วไปทั่วโลก 1.18% ภายในปี 2035
ผลการวิจัยดังกล่าวมาจากการวิเคราะห์ดัชนีราคาผู้บริโภครายเดือนและข้อมูลสภาพอากาศใน121 ประเทศในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งใช้ในการหาว่าอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงส่งผลต่อเงินเฟ้ออย่างไร จากนั้นจึงนำไปรวมกับแบบจำลองสภาพอากาศที่คาดการณ์ว่าโลกจะร้อนขึ้นในอนาคตในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้าภายใต้สถานการณ์การปล่อยมลพิษต่าง ๆ แม้ว่าตัวเลขข้างต้นจะพิจารณาถึงอัตราเงินเฟ้อในบริบทของสถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้ เพราะในตอนนี้แทบยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ เพื่อบรรเทาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของมนุษย์ที่เป็นปัจจัยหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ผู้วิจัยกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อโดยรวมสูงขึ้น แม้แต่ในสถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ดีที่สุด โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.3% และอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารจะเพิ่มขึ้น 0.9% จนถึงปี 2035 โดยปกติแล้ว เมื่อนักเศรษฐศาสตร์พูดถึงภาวะเงินเฟ้อและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มักจะพูดถึงราคาพลังงานที่สูงขึ้น เพื่อเร่งให้เกิดความพยายามในการควบคุมภาวะโลกร้อน แต่คอตซ์กล่าวว่านั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาเท่านั้น