สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 20 กุมภาพันธ์ 2566
กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ร่วมกันเร่งหาองค์ประกอบทางเคมีของ PM 2.5 ในการจำแนกแหล่งกำเนิดหลักในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาฝุ่น หลังพบสูงขึ้นบ่อยครั้ง
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ทำโครงการ “องค์ประกอบทางเคมีของฝุ่นละออง PM 2.5 ในการจำแนกแหล่งกำเนิดหลักในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหนองคาย” ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบหลักทางเคมีของฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่เทศบาลเมืองหนองคาย // เพื่อประเมินสัดส่วนของแหล่งกำเนิดหลักของฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่เทศบาลเมืองหนองคาย และสุดท้าย เพื่อค้นหาปัจจัยที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละออง PM 2.5ในพื้นที่เทศบาลเมืองหนองคาย ขณะเดียวกันได้ศึกษาการวิเคราะห์ลักษณะขององค์ประกอบทางเคมีและหาสัดส่วนของแหล่งกำเนิดหลักของ PM 2.5 ร่วมกับข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา , ข้อมูลการเคลื่อนที่ของกระแสอากาศ (Back Trajectory) , การใช้ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงจุดเผาไหม้ในพื้นที่ใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้าน และการใช้แบบจำลอง (PMF) มาช่วยวิเคราะห์ ซึ่งผลจากการศึกษาได้ข้อมูลสำคัญที่บ่งชี้ถึงองค์ประกอบทางเคมี สัดส่วนของแหล่งกำเนิดสำคัญ และปัจจัยที่มีผลต่อการสะสมของ PM 2.5 ในพื้นที่เทศบาลเมืองหนองคายได้ รวมทั้ง ยังได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะผลการศึกษาระหว่างหน่วยงานต่างๆนำไปสู่การแก้ปัญหา PM 2.5 ในเทศบาลเมืองหนองคาย พร้อมขยายผลสู่จังหวัดต่างๆในภูมิภาคที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันต่อไป
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวย้ำว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่อนข้างได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) พบฝุ่น PM 2.5 สะสมสูงในบางช่วงของปี ซึ่งเทศบาลเมืองหนองคายเป็นเมืองขนาดกลางตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงจากลักษณะดังกล่าวไม่ควรมีการสะสมของ PM 2.5 สูงบ่อยครั้ง แต่ที่ผ่านมากลับพบมีปริมาณ PM 2.5 สูงบ่อยครั้งและบางครั้งสูงกว่าเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง จึงจำเป็นต้องหาสาเหตุและเร่งแก้ปัญหา