(วันที่ 26 กันยายน 2568) รองศาสตราจารย์ ดร.กิติกร จามรดุสิต คณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์เนื่องในโอกาส “วันคล้ายวันสถาปนาคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ครบรอบ 52 ปี” โดยเน้นย้ำถึงทิศทางการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านวิชาการ วิจัย และบริการ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกระดับ ภายใต้วิสัยทัศน์หลัก “เรื่องสิ่งแวดล้อม ต้อง ENVI Mahidol”
คณะสิ่งแวดล้อมฯ ได้มุ่งมั่นขับเคลื่อนเป้าหมายการเป็น Carbon Neutrality Faculty อย่างเข้มข้น โดยขยายขอบเขตการดำเนินงานครอบคลุมในหลายมิติ ทั้งในระดับมหาวิทยาลัย โรงเรียน ชุมชน และภาคธุรกิจ การดำเนินงานเชิงรุกนี้ยังรวมถึงการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่คณะผ่านการจัดกิจกรรมอบรมและถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียนในเครือข่ายโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ซึ่งปัจจุบันคณะกำลังดำเนินโครงการสำคัญ เช่น "School Living Lab" และการขยายความร่วมมือกับโรงเรียนขนาดใหญ่
ในมิติของการสร้างความเป็นเลิศระดับสากล คณะได้มุ่งสร้างเครือข่ายความร่วมมือในระดับภูมิภาคและนานาชาติ โดยใช้แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UNSDGs หรือ SDGs) เพื่อดึงดูดพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ โดยความเข้มแข็งของเครือข่ายดังกล่าวได้นำไปสู่การเปิดตัวหลักสูตรออนไลน์ภายใต้การสนับสนุนจาก United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific (UNESCAP) ซึ่งได้รับความสนใจอย่างสูงจากผู้สนใจจากมหาวิทยาลัยเครือข่ายของคณะในระดับนานาชาติ
ด้านงานวิจัย คณะได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ จากรูปแบบการทำงานแบบเฉพาะบุคคล (individual) สู่การทำงานร่วมกันเป็น ทีมขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขอรับทุนวิจัยในระดับมหาวิทยาลัยและแหล่งทุนภายนอกที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น ขณะนี้กำลังเริ่มต้นโครงการวิจัยร่วมกับเทศบาลในพื้นที่เพื่อยกระดับมาตรฐานด้าน คุณภาพอาหารและน้ำ (Food and Water high quality) ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญต่อการพัฒนาจังหวัดนครปฐม
นอกจากนี้ คณะกำลังเร่งปรับปรุงหลักสูตรให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยได้พัฒนาหลักสูตรใหม่ เช่น หลักสูตรการจัดการองค์กรอย่างยั่งยืนและเตรียมความพร้อมเพื่อเข้ารับการประเมินคุณภาพตาม มาตรฐาน AUN-QA พร้อมกันนี้ ยังเร่งดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรในระดับปริญญาโทและปริญญาตรี รวมถึงการพัฒนาบุคลากรให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการสอนตามที่กำหนด เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของคณะไว้
การก้าวไปข้างหน้าทั้งหมดนี้ สะท้อนถึงการมุ่งสู่การเป็น “Carbon Neutrality Faculty” ที่มีความเป็นเลิศทั้งในระดับชาติและระดับสากล และเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยและประชาคมโลกสู่อนาคตที่ยั่งยืน
