สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 28 พฤษภาคม 2565
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกประกาศแนวปฏิบัติในการบ่งชี้แหล่งที่มาของน้ำมัน คราบน้ำมัน ก้อนน้ำมันดิน และผลิตภัณฑ์น้ำมันในประเทศไทย เพื่อใช้สืบหาต้นตอผู้ก่อมลพิษมารับโทษตามกฎหมายและชดใช้ความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ สถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการศึกษาการบ่งชี้แหล่งที่มาของน้ำมัน คราบน้ำมัน ก้อนน้ำมันดิน และผลิตภัณฑ์น้ำมันในประเทศไทย หลังเกิดปัญหาน้ำมันรั่วไหลในทะเลและไม่สามารถบ่งชี้แหล่งที่มาได้ โดย คพ.ได้ออกประกาศเรื่อง “แนวปฏิบัติในการบ่งชี้แหล่งที่มาของน้ำมัน คราบน้ำมัน ก้อนน้ำมันดิน และผลิตภัณฑ์น้ำมันในประเทศไทย พ.ศ. 2565” แล้ว เพื่อใช้เป็นแนวทางให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้นำไปประยุกต์ใช้บ่งชี้แหล่งที่มาของน้ำมัน คราบน้ำมัน ก้อนน้ำมันดิน และผลิตภัณฑ์น้ำมันในประเทศไทย สำหรับวิธีวิเคราะห์ในประกาศนี้เป็นวิธีหลักที่จะนำมาใช้วิเคราะห์หาลายนิ้วมือน้ำมันที่พบเพื่อบ่งชี้แหล่งที่มา โดยการเปรียบเทียบผลที่ได้กับข้อมูลในฐานข้อมูลลายนิ้วมือน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่เกี่ยวข้องในไทย หรือลายนิ้วมือน้ำมันที่สงสัย ซึ่งข้อมูลลายนิ้วมือน้ำมันนี้จะเป็นส่วนประกอบสำคัญส่วนหนึ่งสนับสนุนการบ่งชี้แหล่งที่มาของน้ำมัน คราบน้ำมัน ก้อนน้ำมันดิน และผลิตภัณฑ์น้ำมันในไทย และเพื่อบังคับใช้กฎหมายกับแหล่งกำเนิดหรือผู้ประกอบการที่สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศทางทะเล ต่อไป
สำหรับการปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวจะนำข้อมูลผลการวิเคราะห์องค์ประกอบสารอินทรีย์และองค์ประกอบสารอนินทรีย์ไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลลายนิ้วมือน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่เกี่ยวข้องในไทยหรือต่างประเทศ หรือผลวิเคราะห์ตัวอย่างของแหล่งที่มาของน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยมาประกอบกัน โดยสามารถสรุปผลการบ่งชี้แหล่งที่มาของน้ำมัน คราบน้ำมัน ก้อนน้ำมันดิน และผลิตภัณฑ์น้ำมันในไทยได้ใน 4 กรณี คือ กรณีที่ 1 มีความเป็นไปได้สูงที่จะมาจากแหล่งเดียวกัน โดยผลจากทั้ง 2 ส่วนไปในทิศทางเดียวกันอยู่ในช่วงที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะมาจากแหล่งเดียวกัน // กรณีที่ 2 มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นน้ำมันชนิดเดียวกัน โดยมีผลจากทั้ง 2 ส่วนไปในทิศทางเดียวกันมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นน้ำมันชนิดเดียวกัน หรือมีผลใดผลหนึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นน้ำมันชนิดเดียวกัน
ส่วนกรณีที่ 3 สรุปได้ว่าเป็นน้ำมันคนละแหล่ง โดยมีผลจากทั้ง 2 ส่วนไปในทิศทางเดียวกันมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นน้ำมันคนละแหล่ง (Non - Match) ซึ่งในกรณีที่ไม่สามารถสรุปผลได้ให้บันทึกผลการวิเคราะห์ไว้ในฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบในอนาคตต่อไป และสุดท้าย กรณีที่ 4 สรุปไม่ได้ โดยมีผลจากการวิเคราะห์องค์ประกอบสารอินทรีย์แล้วไม่สามารถสรุปได้