นางวราภรณ์ ไม้สนธิ์ จังหวัดตาก
อายุ 37 ปี
อาชีพปัจจุบัน: รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลพบพระ ระดับ 7
บุตรชาย 2 คน
- เด็กชายกฤติธี ไม้สนธิ์ อายุ 12 ปี กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
- เด็กชายก้องภพ ไม้สนธิ์ อายุ 8 ปี กำลังศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
การทำงานด้านสิ่งแวดล้อม
- การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า (ปลูกป่า บวชป่า ทำแนวกันไฟ)
- การจัดการขยะ (คัดแยกขยะ ทอดผ้าป่าขยะ)
- การขุดแหล่งกักเก็บน้ำ (ขุดสระ)
- การสร้างความเข้าใจให้ผู้ประกอบลดใช้สารเคมีในเกษตรกรรม เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างเสริมสุขภาพที่ดี
- เป็นวิทยากรด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- สร้างเครือข่ายและจิตสำนึกให้กับผู้นำในท้องถิ่น
- การขุดแหล่งกักเก็บน้ำ (ขุดสระ)
- การสร้างความเข้าใจให้ผู้ประกอบลดใช้สารเคมีในเกษตรกรรม เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างเสริมสุขภาพที่ดี
- เป็นวิทยากรด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- สร้างเครือข่ายและจิตสำนึกให้กับผู้นำในท้องถิ่น
ผลงานที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม
- บุกเบิกกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คือ การจัดกิจกรรมขอคืนพื้นที่ป่าที่ถูกประชาชนบุกรุก เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ พ.ศ. 2554
- รณรงค์สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลพบพระ คือ กิจกรรมคืนธรรมชาติสู่ชาวตำบลพบพระ เพื่อความปรองดองสมานฉันท์ สามัคคี โดยการปรับพื้นที่และปลูกป่า ที่ได้รับคืนมา จำนวน 30 ไร่ เพื่อเป็นป่าอนุรักษ์ เป็นระยะเวลา 2 ปี และทำต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
การเลี้ยงดูบุตร
- สอนและปลูกฝังบุตรชายเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้แก่ ลดการใช้ถุงพลาสติกและกล่องโฟมโดยการใช้ถุงผ้าหรือวัสดุจากธรรมชาติ
- การร้องเพลงหรือเปิดเพลงเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ลูกฟัง
- สอนการประหยัดน้ำ เช่น การปิดก๊อกน้ำให้สนิท การใช้บัวรดน้ำ
- สอนการกำจัดขยะอย่างเหมาะสม ไม่ทิ้งขยะปฏิกูลลงในแม่น้ำลำคลอง
- สอนการประหยัดน้ำมันและลดมลพิษทางอากาศโดยการเดินหรือขี่จักรยานเมื่อต้องสัญจรในระยะทางใกล้ ๆ
- สอนให้ปลูกและดูแลต้นไม้ในบ้าน และสร้างทัศนคติที่ดีต่อการปลูกต้นไม้ว่าเป็นการทดแทนอากาศที่เราใช้หายใจ
- สอนและปลูกฝังบุตรชายเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้แก่
- สอนทำปุ๋ยน้ำชีวภาพจากการหมักเศษผลไม้ เพื่อนำมาใช้รดน้ำต้นไม้ภายในบ้าน และใช้ทำความสะอาดห้องน้ำ
- ส่งเสริมให้บุตรชายเข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่
- ปล่อยนก ปลา หรือเต่าไปขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ
- ปลูกต้นไม้ในวันพ่อ วันแม่
นางพอทิพย์ เพชรโปรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร
อายุ 54 ปี
อาชีพเกษตรกร
บุตร 3 คน
1) พญ.สุดชีวิต กิจไกรลาศ อายุ 28 ปี ปัจจุบันเป็นแพทย์ รพ.ตากสิน
2) นายพอพัฒน์ กิจไกรลาศ อายุ 26 ปี ปัจจุบันเป็นนักดนตรี ศึกษาต่อประเทศออสเตรเลีย
3) น.ส.พัฒนทิพย์ กิจไกรลาศ อายุ 24 ปี ปัจจุบันทางานอิสระ
การทำงานด้านสิ่งแวดล้อม
- มีการปรับปรุงอู่รถเดิมเป็นพื้นที่สีเขียวศูนย์การเรียนรู้เกษตรในเมือง ออร์แกนิคเวย์ (Organic way) เพื่อให้คนเมืองเข้าใจวิถีเกษตรที่ไม่ใช้สารเคมี
- ภายในศูนย์ฯ มีการแยกขยะ การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อนามูลไส้เดือนมาทาปุ๋ยลงแปลงผัก
การเพาะถั่วงอกปลอดสารพิษ การทาอาหารเพื่อสุขภาพ การรีไซเคิลโดยนาวัสดุเหลือใช้
มาทาให้เกิดประโยชน์ เช่น ขวดน้า กระเป๋าเดินทาง อ่างอาบน้า ยางรถยนต์ ฯลฯ
- ทากิจกรรมในชุมชน โรงเรียน และหน่วยงานอื่นๆ อีกมากมาย
- เปิดหลักสูตรปลูกผักสาหรับคนเมืองที่มีพื้นที่จากัด และออกแบบหลักสูตรเพื่อทากิจกรรมที่
สอดคล้องกับวัยของเด็ก
- เป็นวิทยากรเพื่อพัฒนาครู และบุคคลที่สนใจ ในเรื่องของการใส่ใจสิ่งแวดล้อมผ่านแปลงผัก
จัดทาค่ายครอบครัว บอกพ่อแม่ผ่านกิจกรรมปลูกผักทาอาหาร
- เป็นแหล่งเรียนรู้ให้เด็กพิเศษได้เข้ามาฝึกทักษะการใช้ชีวิต การใช้กิจกรรมในสวน เพื่อบาบัด ผู้ที่มีอาการป่วยทางจิต
ผลงานที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม
- ศูนย์การเรียนรู้เกษตรในเมือง ออร์แกนิคเวย์ (Organic way)
- เปิดหลักสูตรปลูกผักสาหรับคนเมืองที่มีพื้นที่จากัด
- ทากิจกรรมเพื่อให้เด็กและผู้สนใจได้เรียนรู้และใส่ใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อม
- การทากิจกรรมในสวน เพื่อบาบัดผู้ที่มีอาการป่วยทางจิต
การเลี้ยงดูบุตร
การเลี้ยงดูบุตรให้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยได้มีการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก พาไปเข้าร่วมกิจกรรมทำให้ลูกได้ซึมซับการทำงานไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ทำให้ลูกมีบุคลิกที่ที่ติดตัวจนถึงวัยทำงาน เช่น การแยกขยะ ถุงกระดาษ ถุงพลาสติกพับเก็บไว้ใช้ต่อ ขวดน้ำดื่มไม่ทิ้ง ปัจจุบันนี้ลูกๆ ดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อมไม่ต่างจากแม่
นางสวิงทอง กุดวงค์แก้ว จังหวัดสกลนคร
อายุ 75 ปี
อาชีพปัจจุบัน : ทำานา
บุตร 6 คน ผู้หญิง 2 คน ผู้ชาย 4 คน
การทำงานด้านสิ่งแวดล้อม
- ปลูกป่าครอบครัวในชุมชนบ้านค้อน้อยมานานกว่า 20 ปี แบบผสมผสานบนที่ดิน 62 ไร่ 3 งาน แบ่งเป็น ปลูกข้าวไร่ 12 ไร่ ข้าวนาลุ่ม 6 ไร่ ผลไม้อื่นๆ 8 ไร่ และขุดสระ 36 ไร่ - แนวคิดเริ่มต้นปลูกต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่นา เพราะคิดว่าต้นไม้ใหญ่จะช่วยดูดซับน้า จึงปลูกยางนาคละไม้อื่นๆกว่า 2000 ต้น กลายเป็นการฟื้นฟูตาน้าเก่าให้กลับมา
ผลงานที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม
- ปี พ.ศ. 2525 เป็นประธานกลุ่มแม่บ้านทอผ้าไหมบ้านค้อน้อย และเป็นผู้ถ่ายทอด ภูมิปัญญาเกี่ยวกับการทอผ้าให้กับศูนย์ศิลปาชีพและกลุ่มแม่บ้านในจังหวัดสกลนคร
- ปี พ.ศ. 2538 ดาเนินการทาสวนป่าในเนื้อที่ 20 ไร่ แบบครบวงจร ณ ปัจจุบันเป็น แหล่งเรียนรู้ให้กับเยาวชน ในพื้นที่ และชุมชนใกล้เคียง โดยแม่ได้เป็นวิทยากร
- ปี พ.ศ. 2551 ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียวประเภทบุคคล
- ปี พ.ศ 2554 ได้รับเกียรติบัตร คนดีกุดบาก สาขาผู้นาประชาชน จาก อ.กุดบาก จ.สกลนคร
การเลี้ยงดูบุตร
แม่สวิงทองประกอบอาชีพทานา เวลาทานาก็ต้องเลี้ยงลูกไปด้วย ลูกๆทุกคน จึงได้เรียนรู้เรื่องการปลูกข้าว และการปลูกพืชผักสวนครัว มาตั้งแต่เด็กๆ นอกจากนี้ จะสอนให้ลูกๆ นาเมล็ดพันธุ์พืชมาเพาะ ปลูก และดูแลรักษาพื้นที่ป่าให้คนรุ่นหลัง ได้เห็นต่อไป
นางสุดธนา ปัทมวัฒน์ จังหวัดน่าน
อายุ 51 ปี
อาชีพปัจจุบัน: นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ
บุตรสาว 2 คน
- นางสาวสุพิชญา ปัทมวัฒน์ อายุ 22 ปี กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- นางสาวดลพร ปัทมวัฒน์ อายุ 17 ปี กำลังศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงราย
การทำงานด้านสิ่งแวดล้อม
- ร่วมกับโรงเรียนศรัทธาศิลาเพชรรังสรรค์ พัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น และก่อตั้งโรงเรียนชาวนาตำบลศิลาเพชร
- เป็นเครือข่ายโครงการอาหารปลอดภัยของตำบลศิลาเพชร (การปลูกผักปลอดสารพิษ การสุ่มตัวอย่างผักเพื่อตรวจประเมินคุณภาพผักและสารเคมีปนเปื้อน)
- เป็นเครือข่ายการโครงการสุขภาวะ สสส. ในการรณรงค์การคัดแยกขยะในพื้นที่น้ำตกศิลาเพชร
- เป็นเครือข่ายที่ร่วมดูแลรักษาป่าของตำบลศิลาเพชร
- เป็นวิทยากรสอนเยาวชนในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
- เป็นคณะทำงานทีมสื่อสมัชชาสุขภาพน่าน
ผลงานที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม
- โรงเรียนชาวนาตำบลศิลาเพชร ที่ใช้เป็นพื้นที่เรียนรู้การทำนาข้าวอินทรีย์ เป็นระยะเวลา 5 ปี
- ร่วมกับชุมชน ส่วนราชการ ในตำบลศิลาเพชร ดำเนินกิจกรรมผักปลอดสารพิษ
- จัดทำสื่อหนังสั้น เรื่อง “สิ่งที่เหลืออยู่” เพื่อปลูกฝังเยาวชนและกระตุ้นชุมชนในเรื่องพิษจากการใช้สารเคมี
การเลี้ยงดูบุตร
สอนและปลูกฝังบุตรสาวและหลานได้เรียนรู้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การทำเกษตรอินทรีย์ ได้แก่ ข้าวไรท์เบอรี่และผักปลอดสารเคมี และการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
นางหน่อแอริ ทุ่งเมืองทอง จังหวัดเชียงใหม่
อายุ 41 ปี
อาชีพปัจจุบัน: เกษตรกร
บุตร 2 คน
- บุตรสาว 1 คน กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 2
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ - บุตรชาย 1 คน กำลังศึกษาต่อด้านการเกษตรที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้
การทำงานด้านสิ่งแวดล้อม
2540 – ปัจจุบัน
- รองประธานเครือข่ายสตรีชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย
- ประธานเครือข่ายการศึกษาชนเผ่าพื้นเมือง
- คณะกรรมการโฉนดชุมชน
- ผู้รู้ด้านทอผ้าย้อมสีธรรมชาติ
- ผู้รู้ด้านสมุนไพร อาหาร และเมล็ดพันธุ์
- ตัวแทนขับเคลื่อนกฎหมาย 4 ฉบับสำหรับคนจน
2547 - 2549
- ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปงตอง หมู่ 1 ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่
2551 – 2555
- สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่วิน
ผลงานที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม
- การจัดการดูแล “ป่าแดปอทู” ที่เป็นพื้นที่สำคัญทางพิธีกรรม และเป็นแหล่งอาหารของคนในชุมชน
- ผลักดัน (ร่าง) พระราชบัญญัติสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมสิทธิและสร้างสุขภาวะที่ดีกับชนเผ่าพื้นเมือง
การเลี้ยงดูบุตร
คุณแม่ไม่มีเงินทองมอบให้ลูก จึงเติมเต็มด้วยองค์ความรู้ของชุมชน คุณแม่เป็นต้นแบบให้แก่ลูกๆ ในกิจกรรมสิ่งแวดล้อม ลูกๆ เข้ามาช่วยเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนา