





(Nudging strategies for pro-environmental agricultural behaviors)
หัวหน้าโครงการ:
รศ. ดร.สุกัญญา เสรีนนท์ชัย
แหล่งทุน:
โครงการขับเคลื่อนนโยบายชี้นำสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ปีงบประมาณ 2566
วัตถุประสงค์
- เพื่อทดลองและเปรียบเทียบผลของการสะกิดพฤติกรรมไม่เผาฟาง
- เพื่อทดลองและค้นหาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนทำเกษตรแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- เพื่อทดลองและประเมินพฤติกรรมการปกป้องผืนดินเกษตรเพื่อการเพาะปลูกในระยะยาว
- เพื่อสังเคราะห์กลยุทธ์การสะกิดพฤติกรรมการเกษตรแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การดำเนินงาน
- ลงพื้นที่เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ร่วมกับกระบวนการทดลองและเปรียบเทียบผลของการสะกิดพฤติกรรมไม่เผาฟาง และการทำเกษตรแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กับกลุ่มเกษตรกรทำนาใน 8 อำเภอ ของ จ.ชัยนาท อำเภอละ 25 คน รวมจำนวนเกษตรกรทั้งสิ้น 200 คน โดยในแบบสอบถามมีประเด็นคำถามหลัก 6 หัวข้อ ได้แก่ 1) ปัจจัยส่วนบุคคล 2) การปลูกข้าว การจัดการตอซังฟางข้าว วิธีการทำเกษตรแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 3) ความรู้สึกและความคิดเห็นต่อข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการฟาง 4) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนทำเกษตรแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 5) การปกป้องผืนดินเกษตรเพื่อการเพาะปลูกในระยะยาว 6) ความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำเกษตรแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปกป้องผืนดินเกษตรเพื่อการเพาะปลูกในระยะยาว
- ดำเนินการทดลองและเปรียบเทียบผลของการสะกิดพฤติกรรมไม่เผาฟางผ่านการให้ข้อมูลหลากหลายแบบ รวมถึงได้วิเคราะห์และอภิปรายผลของการสะกิดพฤติกรรมไม่เผาฟาง
- ดำเนินการทดลองและค้นหาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนทำเกษตรแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ดำเนินการทดลองและประเมินพฤติกรรมการปกป้องผืนดินเกษตรเพื่อการเพาะปลูกในระยะยาว
- วิเคราะห์และสังเคราะห์กลยุทธ์การสะกิดพฤติกรรมการเกษตรแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากผลการวิจัยที่ตอบวัตถุประสงค์ทั้ง 3 ข้อข้างต้น ร่วมกับข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์จากการเก็บข้อมูลดินในแปลงเกษตรกรแกนนำไม่เผาฟาง และการคืนข้อมูลผลการวิเคราะห์ดินให้กับเกษตร เพื่อตรวจสอบความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อกลยุทธ์การสะกิดพฤติกรรมการเกษตรแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผลการดำเนินงาน
งานวิจัยพบว่า การชักจูงให้เกษตรกรเลิกเผาฟางข้าวและหันมาใช้ประโยชน์จากฟาง สามารถทำได้ผ่านการสื่อสารจากหลายกลุ่ม เช่น แกนนำเกษตรกร สมาชิกกลุ่มเกษตรกร หรือเพื่อนบ้าน โดยมีปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของเกษตรกร ดังนี้:
- การเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกรและการเป็นเจ้าของที่ดิน
- เกษตรกรที่อยู่ในกลุ่มเกษตรกรและมีที่ดินเป็นของตนเอง มักจะไม่เผาฟาง และให้ความสนใจกับแนวทางเกษตรปลอดภัยและเกษตรผสมผสาน
- ส่วนเกษตรกรที่ยังเผาฟาง ส่วนใหญ่มักไม่ได้เข้ากลุ่ม แต่หากมีที่ดินเป็นของตนเอง ก็มีแนวโน้มเปิดรับแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น
- อายุของเกษตรกรมีผลต่อการรับข้อมูล
- เกษตรกรที่อายุน้อยมีแนวโน้มนำแนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปใช้ได้มาก โดยเฉพาะเมื่อได้รับข้อมูลจากแกนนำเกษตรกร
- เกษตรกรที่มีอายุมากกว่ามักจะเปิดรับแนวทางไม่เผาฟางและเกษตรปลอดภัยมากขึ้น เมื่อได้รับข้อมูลจากเพื่อนบ้านที่ทำเกษตรแบบเดียวกัน
- ปัจจัยที่ทำให้เกษตรกรเลือกเลิกเผาฟาง
- การรับรู้ถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากการเผาฟาง เช่น มลพิษและผลเสียต่อสุขภาพ
- การได้รับแรงจูงใจทางเศรษฐกิจ เช่น เงินสนับสนุน หรือทางเลือกที่ทำให้เห็นผลประโยชน์ที่ชัดเจน
- ความมั่นใจในตนเองของเกษตรกรก็มีผลสำคัญ ทำให้พวกเขาสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
- วิธีส่งเสริมให้เกษตรกรนำฟางข้าวมาใช้ประโยชน์แทนการเผา
- ทำให้ง่าย: จัดให้การใช้ฟางเป็นตัวเลือกหลักที่สะดวก และเพิ่มขั้นตอนให้การเผาฟางทำได้ยากขึ้น เช่น ต้องขออนุญาตก่อน
- ทำให้น่าสนใจ: สร้างรายได้เสริมจากการใช้ฟาง เช่น ทำปุ๋ยหรืออาหารสัตว์
- ทำให้อยู่ในกระแสสังคม: สร้างกระแสให้การใช้ฟางเป็นเรื่องปกติในชุมชน ผ่านกิจกรรมหรือโครงการร่วมกัน
- ทำให้สะดวก: จัดอบรมให้ความรู้เรื่องการใช้ฟางในช่วงใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว และให้ข้อมูลผ่านช่องทางที่เข้าถึงง่าย
สรุป
การเลิกเผาฟางข้าวและหันมาใช้ฟางอย่างคุ้มค่า ไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม ลดต้นทุน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้การสื่อสารที่เหมาะสมกับกลุ่มเกษตรกรแต่ละกลุ่ม และทำให้แนวทางนี้เป็นเรื่องปกติในสังคมเกษตรกรรม