• +662 441 5000
  • This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
Research talk 1/2567 "Update สถานการณ์ทุนวิจัย แผน ววน.ใหม่ มีอะไรน่ารู้"

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.00 – 15.30 น.

คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยงานบริหารการวิจัย จัดการบรรยายด้านการวิจัย ครั้งที่ 1/2567

หัวข้อ “อัปเดตสถานการณ์ทุนวิจัย แผน ววน. ใหม่ มีอะไรน่ารู้”

โดยได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มณฑิรา ยุติธรรม รองคณบดีฝ่ายนโยบาย แผนและคลัง

กล่าวเปิดกิจกรรมและร่วมพูดคุยเกี่ยวกับนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยตามแผนยุทธศาสตร์ของคณะในปัจจุบัน

ผศ.ดร.มณฑิรา ยุติธรรม คุณยุทธพล ผ่องพลีศาล 

และคุณยุทธพล ผ่องพลีศาล เจ้าหน้าที่วิจัย (ผู้ชำนาญการพิเศษ) เป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับสาระสำคัญแผนยุทธศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) พ.ศ. 2566 – 2570

และอัปเดตข้อมูลทุนวิจัยที่คาดว่าจะเปิดรับในปีงบประมาณ 2567

การบรรยายดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจแผนวิจัยตามยุทธศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) พ.ศ. 2566 - 2570

และอัปเดตสถานการณ์ข่าวสารจากแหล่งทุนวิจัย ให้กับอาจารย์ นักวิจัย และผู้สนใจภายในคณะฯ ได้รับทราบ

กิจกรรมจัดขึ้น ณ ห้องประชุมนาทตัณฑวิรุฬห์ (1103) คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ และรูปแบบออนไลน์ผ่านทาง Cisco Webex

มีผู้เข้าร่วมรับฟังจำนวนรวม 37 คน

>> รับชมย้อนหลัง << 
>> เอกสารประกอบการบรรยาย <<



21 สิงหาคม 2566 เวลา 13.00 น. รองศาสตราจารย์ ดร.สุระ พัฒนเกียรติ
คณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานกล่าวต้อนรับ

รองศาสตราจารย์ ดร.ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต รองประธานคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคนชุดกลาง มหาวิทยาลัยมหิดล

ในโอกาสเป็นวิทยากรใน กิจกรรมเสวนาด้านการวิจัย (Research Talk) ครั้งที่ 2/2566 หัวข้อ “แนวทางเตรียมความพร้อม การขอรับรองจริยธรรมการวิจัยในคนด้านสังคมศาสตร์”

ทั้งนี้ โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.สุวลักษณ์ สาธุมนัสพันธุ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ เป็นผู้ดำเนินกิจกรรมเสวนา

ซึ่งมีเนื้อหาหลักเกี่ยวข้องกับประเด็นจริยธรรมที่สำคัญต่อการวิจัยด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ อาทิ การเขียนรายงาน การนำเสนอข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

ตลอดจนมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการวิจัยในมนุษย์ โดยมีบุคลากรจากทั้งภายในและภายนอกส่วนงานเข้าร่วมรับฟังการบรรยาย ณ ห้องศาสตรเมธี ดร.พงศ์พิศน์ ปิยะพงศ์

และในรูปแบบออนไลน์ผ่านทาง Cisco WebEx และ Facebook Live จัดขึ้นโดย งานบริหารการวิจัย คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

รับชมย้อนหลังได้ที่ >> https://youtu.be/ceEz_Hf_D4o

>> เอกสาร ประกอบการบรรยาย <<


สรุปการเสวนา เรื่อง “Tips and Tricks with Two Editors: What an editor wants”

สรุปการเสวนา เรื่อง “Tips and Tricks with Two Editors: What an editor wants

17 มกราคม 2566 รองศาสตราจารย์ ดร.จำลอง อรุณเลิศอารีย์ รองคณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้แทนคณบดีกล่าวต้อนรับ ศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ ปัญหา บรรณาธิการวารสาร Tropical Natural History วารสารทางการของพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รองศาสตราจารย์ ดร.ดุษณี ธนะบริพัฒน์ บรรณาธิการวารสาร Current Applied Science and Technology จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในโอกาสเป็นวิทยากรผู้ร่วมเสวนาด้านการวิจัย เรื่อง “Tips and Tricks with Two Editors: What an editor wants” ทั้งนี้โดยมี อาจารย์ ดร.วิชญา รงค์สยามานนท์ รองบรรณาธิการวารสาร Environment and Natural Resources Journal คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้ดำเนินรายการ

สรุปรายละเอียดการเสวนา

อาจารย์สมศักดิ์เกริ่นนำเกี่ยวกับวารสาร โดยมีแนวความคิดว่าการตีพิมพ์ผลงานพื้นฐานมาจากงานวิจัยและมีโจทย์วิจัย มีการพัฒนาองค์ความรู้ให้ใหม่ขึ้นไปเรื่อยๆ การวิจัยมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยจึงเกิดโจทย์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งวารสาร Tropical Natural History เน้นเรื่องชีววิทยา สิ่งแวดล้อม และมนุษยศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

อาจารย์ดุษณีเกริ่นนำเกี่ยวกับวารสาร เป็นวารสารแบบ Multidisciplinary โดยสาขาวิชาที่มี Impact เพิ่มมากขึ้นมีอยู่ 3 ด้านคือ Biochemistry, Biotechnology และ Environmental Sciences ซึ่งการจัดการวารสารของ Current Applied Science and Technology มีการจัดการโดยหน่วยงานสำนักบริหารวารสารวิชาการ ขึ้นตรงกับมหาวิทยาลัยโดยตรง

ช่วงถาม-ตอบ

  1. ในมุมมองของบรรณาธิการการเลือกวารสารที่ถูกต้องมีส่วนสำคัญต่อผู้เขียนมากหรือน้อยอย่างไร

อาจารย์สมศักดิ์: ผู้เขียนต้องประเมินขอบเขตงานวิจัยของตนเองให้ถูกต้อง เช่นดูจากการอ้างอิงในบทความของตนเองว่าหนักไปทางไหน และขึ้นอยู่กับระดับผู้ทำวิจัย สำหรับผู้เขียนมือใหม่ควรเลือกให้เหมาะสมกับงานก่อนจึงค่อยๆ ขยับความยากของวารสารเพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้ตนเอง

อาจารย์ดุษณี:  ถ้าบทความเป็นด้านงานประยุกต์จะค่อนข้าง ให้ดูเรื่องของเครื่องมือของงานวิจัยนั้นๆ ว่าเน้นหนักไปทางด้านไหน ผู้เขียนบางท่านอาจจะชอบส่งวารสารด้าน Applied ไปก่อนเนื่องจากมีความกว้างของขอบเขตงานวิจัยจึงจะได้รับการตอบรับตีพิมพ์ง่ายกว่าวารสารที่เฉพาะทางแต่ส่วนนี้ก็ต้องขึ้นกับบบรรณาธิการพิจารณา

 

  1. Format หรือ Template ของวารสารมีความสำคัญอย่างไร และมีผลต่อการพิจารณาในเบื้องต้นกองบรรณาธิการอย่างไร

อาจารย์สมศักดิ์: ผู้เขียนควรศึกษา Instruction for Authors ของวารสารมาให้ดี ซึ่งหากเราเลือกวารสารใดเพื่อจะส่งบทความแล้วต้องพิจารณาให้ดีเนื่องจากนนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำตามมิใช่ให้เลือกทำหรือไม่ บรรณาธิการเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญมากในการพิจารณาบทความ

อาจารย์ดุษณี:  หากพบว่าไม่เป็นไปตามที่กำหนดบรรณาธิการส่งไปแก้ไข หากไม่แก้ไขกลับมาก็จะไม่พิจารณาบทความต่อ

 

  1. บรรณาธิการพิจารณาบทความขั้นต้นอย่างไรว่าบทความนั้นๆ ไม่มีความซ้ำซ้อน หรือผิดจริยธรรมการวิจัย

อาจารย์สมศักดิ์: เรื่องนี้ยากมากในการประเมิน แต่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของบรรณาธิการในส่วนหนึ่ง และหากสงสัยบรรณาธิการจะส่งต่อให้ Editorial Board ช่วยพิจารณาและช่วยตัดสินบทความนี้

อาจารย์ดุษณี:  ให้ Editorial Board ช่วยพิจารณาและช่วยตัดสินบทความนี้

(โดยทั้ง 2 วารสารได้ใช้โปรแกรม Turn-it-in ช่วยในการความซ้ำซ้อนของบทความก่อนเข้ากระบวนการ Review)

 

  1. 4. จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของบรรณาธิการ เหตุผลในการ reject บทความส่วนใหญ่แล้วเกิดขึ้นจากปัญหาอะไรบ้าง

อาจารย์สมศักดิ์: บทความไม่มีคุณภาพในระดับเนื้อหางานวิจัย ไม่พบองค์ความรู้ใหม่จากบทความ และส่งให้ Editorial Board ช่วยพิจารณาและตัดสิน อีกส่วนนึงคือเรื่องภาษาไม่ดีทำให้อ่านแล้วไม่เข้าใจ

อาจารย์ดุษณี:  1. ขอบเขตงานวิจัยไม่ตรงกับวารสาร 2. เข้าโปรแกรม Turn-it-in แล้วมีความซ้ำซ้อนสูงกว่าที่วารสารกำหนด 3. เนื้อหางานวิจัยไม่ดีและข้อมูลไม่สมบูรณ์

(ทั้ง 2 วารสารมีบทความต่างชาติส่งเข้ามาจำนวนมากและถูก reject เป็นจำนวนมากกว่าประเทศไทย และทั้ง 2 วารสารไม่มีการเก็บค่าตีพิมพ์บทความ (Page charge) จึงทำให้มีผู้เขียนส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก)

 

  1. ปัจจุบันมีเว็บไซต์หลอกลวง มีการซื้อขายบทความเพื่อผู้เขียน ในฐานะบรรณาธิการและกองบรรณาธิการต้องมีวิธีกี่รับมืออย่างไร

อาจารย์สมศักดิ์: บรรณาธิการรับมือค่อนข้างยาก จึงขอฝากให้มีคุณธรรมจริยธรรมการวิจัยทุกท่าน

อาจารย์ดุษณี:  บรรณาธิการไม่สามารถรับมือได้ทันและทั้งหมด เนื่องจากกลโกงมีหลากหลายรู้แบบ จึงของฝากผู้เขียนว่าต้องมีจริยธรรมการวิจัยเป็นพื้นฐาน

 

  1. การส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เขียนพัฒนาและแก้ไขบทความดียิ่งขึ้น บรรณาธิการมีแนวทางอย่างไรในการสร้างแรงจูงใจผู้เขียนแก้ไขบทความ

อาจารย์สมศักดิ์: บรรณาธิการพิจารณาผลของ reviewer ว่ามีรายละเอียดการแก้ไขเป็นอย่างไร ตรงกับทิศทางที่ควรจะเป็นไปของบทความนั้นไหม หากพบว่าดีและช่วยสงเสริมก็จะมีประโยชน์ต่อบทความ แต่หากไม่มีการให้ข้อคิดเห็นใดๆ มาบรรณาธิการจะต้องพิจารณาผลของ reviewer เพิ่มเติมอีกครั้ง ข้อเสนอแนะบทความต้องสร้างสรรค์ช่วยให้ผู้เขียนพัฒนาบทความกลับมาได้อย่างดี

อาจารย์ดุษณี:  บรรณาธิการต้องพิจารณาผลของ reviewer เช่นเดียวกัน เพื่อพัฒนาบทความให้ดีขึ้น

 

  1. การเสนอชื่อ reviewer จากผู้เขียนช่วยบรรณาธิการให้ง่ายต่อขั้นตอนต่อไปไหม Trick ในการเสนอชื่อ reviewer ควรทำยังไงบ้าง

อาจารย์สมศักดิ์: การเสนอชื่อ reviewer ควรเสนออย่างตรงไปตรงมา และควรดูเรื่องของ Conflict of interest ในการเสนอด้วย

อาจารย์ดุษณี:  เห็นด้วยกับอาจารย์สมศักดิ์

 

  1. บทคัดย่อต้องเขียนอย่างไร มี Tip and Trick อย่างไร

อาจารย์สมศักดิ์: การเขียนต้องมาจากผลการศึกษาก่อนให้น่าสนใจ บทความพบอะไรใหม่ เป็นอย่างไร วิธีการทำงานวิจัยอะไรที่ทำให้ได้ผลการศึกษาเช่นนี้ ในบทคัดย่อไม่ควรใส่ตัวย่อเยอะๆ ควรอ่านซ้ำๆ เพื่อแก้ไขให้น่าสนใจ ข้อควรระวังของการเขียนคือไม่ควรใส่ผลการศึกษาที่เกินจริงมากๆ แต่ข้อมูลจริงไม่พบข้อมูลดังกล่าว ควรตรงไปตรงมา

อาจารย์ดุษณี:  วัตถุประสงค์งานวิจัยคืออะไร พบอะไรใหม่และมีอะไรน่าสนใจ การเขียนบทคัดย่อดีมีผลต่อการอ้างอิงบทความจึงควรต้องน่าสนใจและกระชับ ข้อควรระวังที่พบมากๆ คือการเขียนผลการศึกษาที่เกินจริงไม่ดีต่อบทความ

 

  1. การเขียน Introduction อย่างไรให้น่าสนใจและควรมีปริมาณเท่าไหร่จึงเหมาะสม

อาจารย์สมศักดิ์: ต้องบอกในรายละเอียดว่ามีความจำเป็นในการศึกษาอย่างไร ควรศึกษางานวิจัยในระดับโลกและมีการอ้างอิงที่ชัดเจน การดำเนินการศึกษาก่อนหน้ายังขาดอะไรงานวิจัยนี้ถึงจำเป็นต้องทำขึ้นมา ควรมีการร้อยเรียงเนื้อหาให้ดี การอ้างอิงแบบผิดจริยธรรมเช่นการอ้างโดยไม่ได้อ่านอย่างละเอียด และการเขียนในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่สำคัญเพื่อบ่งบอกถึงการปิดช่องว่างงานวิจัยอื่นที่ยังขาด

อาจารย์ดุษณี:  ควรเขียนประมาณ 1 หน้าและความมีความเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการทำวิจัย เพราะจะอธิบายว่าทำไมต้องทำงานวิจัยชิ้นนี้ การเขียนอ้างอิงในเนื้อหาเยอะๆ ก็เป็นผลเสีย เนื่องจากไม่ได้ระบุชัดเจนว่าแต่ละอ้างอิงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างไรต่องานวิจัย ถ้าใส่มาเยอะแบบที่ไม่มีความจำเป็นก็ไม่สมควรใส่มา

 

  1. การเขียนผลการศึกษาแบบไหนที่เหมาะสมกับงานวิจัย การเขียนเชิงพรรณา กับการใส่รูป กราฟ ตารางอย่างไรให้เหมาะสม

อาจารย์สมศักดิ์: การเขียนเชิงพรรณามีความจำเป็นสำหรับวารสารบางประเภท แต่ควรมีรายละเอียดที่แน่นและไม่เป็นการเกริ่นไปเรื่อยๆ

อาจารย์ดุษณี:  ส่วนใหญ่จะเป็นรูป ตาราง แต่ผู้เขียนต้องอธิบายตารางหรือรูปนั้นๆ ต้องอธิบายจุดสำคัญของตารางไม่อธิบายผลทั้งหมดในตารางมา การใส่รูป กราฟ ตารางต้องไม่มากเกินไปและต้องเกี่ยวข้องกับงานวิจัยจริงๆ

 

  1. ในส่วนของ Discussion ผู้เขียนควรเขียนแบบไหน

อาจารย์สมศักดิ์: ควรอธิบายว่าผลการศึกษาของเราปิดช่องว่างอะไรในงานวิจัยนี้ ผู้เขียนร่วมควรช่วยอ่านบทความ แก้ไขและเสนอข้อคิดเห็นเพื่อพัฒนาบทความให้ดียิ่งขึ้น

อาจารย์ดุษณี:  ถ้าบทความค้นพบผลที่ค่อนข้างใหม่ควรนำเสนอในอภิปรายผล และอธิบายเสริมว่าเราต่างกับบทความอื่นอย่างไร ควรให้ผู้เขียนอื่นช่วยอ่านให้ด้วยเพื่อให้ผู้เขียนมั่นใจว่าเข้าใจตรงกัน

 

  1. การที่ผู้เขียนมีการแจ้งว่าบทความได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจภาษามาแล้วในเบื้องต้นมีผลดีต่อบรรณาธิการไหม

อาจารย์สมศักดิ์: มีผลดีกับวารสารมาก โดยทางวารสาร Tropical Natural History ได้ให้ Editorial Board ช่วยอ่านอีกที

อาจารย์ดุษณี:  มีผลดี แต่ขึ้นกับข้อกำหนดของแต่ละวารสาร อย่างวารสาร Current Applied Science and Technology ไม่ได้มีการขอกับผู้เขียนแบบจริงจัง แต่ทางวารสารมี Native Speaker อ่านบทความก่อนเผยแพร่ และท่านควรเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จบมาตรงกับสาขาวิชาและขอบเขตของวารสาร

 

  1. หากบทความที่เคย Proceedings มาแล้วจะนำมาตีพิมพ์ในวารสารได้ไหม

อาจารย์สมศักดิ์: หากผู้เขียนมั่นใจกับงานวิจัยควรเขียนมาตีพิมพ์ในวารสารจะดีกว่า แต่หากตีพิมพ์ไปแล้วควรต้องเพิ่มและปรับแก้ไขให้มีสิ่งใหม่

อาจารย์ดุษณี:  ไม่ควรทำ หากจะทำควรมีการศึกษาเพิ่มเติมและต้องต่างจาก Proceedings เดิมมากกว่า 50% เพื่อไม่ให้เกิดการตีพิมพ์ซ้ำซ้อน

 

  1. ทิศทางการวิจัยในด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้มในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้าควรเป็นไปในทิศทางใด และมีหัวข้อใดบ้างที่น่าสนใจ

อาจารย์สมศักดิ์: เกี่ยวข้องกับ Climate change โดยศึกษาร่วมกับศาสตร์อื่นๆ เช่น ผลกระทบของภาวะโลกร้อนกับระบบนิเวศต่างๆ การศึกษาเรื่องไมโครพลาสติกกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลทั้งมนุษย์และสัตว์ งานด้านสิ่งแวดล้อมผนวกรวมกับ Material Science, Social Science หรือไปรวมกับเศรษฐศาสตร์

อาจารย์ดุษณี:  ขอเสริมอีกส่วนเรื่องของ Health Science เช่น PM2.5 จะช่วยแก้ปัญหาร่วมกับสุขภาพได้อย่างไร

 

งานเสวนานี้จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้ แนะนำเทคนิค วิธีการ รวมถึงสาระสำคัญสำหรับการเตรียมบทความทางวิชาการให้ได้รับการตีพิมพ์ โดยถ่ายทอดจากประสบการณ์ของบรรณาธิการวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่อยู่ในฐาน Scopus โดยมีผู้สนใจจากทั้งภายในและภายนอกส่วนงานเข้าร่วมรับฟังการเสวนา และในรูปแบบออนไลน์ผ่านทาง Cisco Webex และ Facebook Live จำนวน 47 คน


เสวนาด้านการวิจัย เรื่อง “Tips and Tricks with Two Editors: What an editor wants”

เสวนาด้านการวิจัย
เรื่อง “Tips and Tricks with Two Editors: What an editor wants”

17 มกราคม 2566 รองศาสตราจารย์ ดร.จำลอง อรุณเลิศอารีย์ รองคณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิด
เป็นผู้แทนคณบดีกล่าวต้อนรับ ศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ ปัญหา บรรณาธิการวารสาร Tropical Natural History
วารสารทางการของพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ
รองศาสตราจารย์ ดร.ดุษณี ธนะบริพัฒน์ บรรณาธิการวารสาร Current Applied Science and Technology
จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ในโอกาสเป็นวิทยากรผู้ร่วมเสวนาด้านการวิจัย
เรื่อง “Tips and Tricks with Two Editors: What an editor wants” ทั้งนี้โดยมี อาจารย์ ดร.วิชญา รงค์สยามานนท์
รองบรรณาธิการวารสาร Environment and Natural Resources Journal คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้ดำเนินรายการ


การเสวนาดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้ความรู้ แนะนำเทคนิค วิธีการ รวมถึงสาระสำคัญสำหรับการเตรียมบทความทางวิชาการให้ได้รับการตีพิมพ์
โดยถ่ายทอดจากประสบการณ์ของบรรณาธิการวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่อยู่ในฐาน Scopus โดยมีผู้สนใจจากทั้งภายในและภายนอกส่วนงานเข้าร่วมรับฟังการเสวนา
ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องศาสตรเมธี ดร.พงศ์พิศน์ ปิยะพงศ์ อาคารสิ่งแวดล้อมพัฒนดล คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และในรูปแบบออนไลน์ผ่านทาง Cisco Webex และ Facebook Live จำนวน 40 คน

เอกสารประกอบการบรรยาย
ศ.ดร.สมศักดิ์  , รศ.ดร.ดุษณี


รับชมย้อนหลังได้ที่ >> https://www.youtube.com/watch?v=hT7WAPq3OLY 


ขั้นตอนการส่งบทความในวารสารผ่านระบบสากล Editorial Manager และการสืบค้นดัชนีวัดคุณภาพวารสาร (Journal Metric) ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ

การบรรยายด้านการวิจัย (Research Talk) เรื่อง “ขั้นตอนการส่งบทความในวารสารผ่านระบบสากล Editorial Manager และการสืบค้นดัชนีวัดคุณภาพวารสาร (Journal Metric) ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ

คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยงานบริหารการวิจัยได้จัดกิจกรรมบรรยายด้านการวิจัย (Research Talk) ในหัวข้อเรื่อง “ขั้นตอนการส่งบทความในวารสารผ่านระบบสากล Editorial Manager และการสืบค้นดัชนีวัดคุณภาพวารสาร (Journal Metric) ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ” ในวันพุธที่ 18 สิงหาคม 2564 เวลา 13.20 – 15.00 น. แบบออนไลน์ ผ่านทาง Cisco Webex และ Facebook live

โดยมี นางสาวอิสรีย์ อภิญญา Journal manager วารสาร EnNRJ เป็นผู้บรรยาย

สรุปเนื้อหาสำคัญแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

1. ระบบ Editorial Manager

- ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับระบบวารสารออนไลน์ Editorial Manager เป็นระบบสำหรับการส่งบทความทางวิชาการออนไลน์ของ Aries Systems และใช้สำหรับบริหารจัดการงานวารสารทางวิชาการ ที่ใช้กันโดยแพร่หลายในระดับสากล ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้การจัดการงานวารสารง่าย สะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งมีการดำเนินงานที่การเชื่อมโยงระหว่าง ผู้ส่งบทความ บรรณาธิการ และผู้ตรวจประเมินบทความ ระบบยังมีระบบการติดตามและการแจ้งเตือนอัตโนมัติจึงทำให้การทำงานของวารสารเป็นไปได้อย่างเรียบร้อย

- ขั้นตอนการส่งบทความในวารสารผ่านระบบ Editorial Manager ผู้ใช้งาน จะต้องสมัครเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์ของวารสารที่ผู้เขียนสนใจ ตัวอย่างเช่น วารสาร Environment and Natural Resources Journal (EnNRJ) โดยไปที่ เว็บไซต์ https://www.editorialmanager.com/ennrj/default.aspx โดยผู้เขียนต้อง Register (สำหรับผู้ใช้งานครั้งแรก) และ Login เพื่อส่งบทความเข้าระบบตามขั้นตอน

- ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนการส่งบทความตั้งแต่การระบุประเภทของบทความ การแนบไฟล์ตามที่วารสารต้องการ การใส่ข้อมูลเบื้องต้นของผู้เขียน รวมทั้งการระบุหมวดหมู่ของบทความ ซึ่งมีความเป็นที่จะต้องระบุให้ถูกต้องและสอดคล้องกับบทความมากที่สุด เนื่องจากหมวดหมู่นี้จะถูกเชื่อมโยงเพื่อให้เหมาะสมกับความเชี่ยวชาญของผู้เชี่ยวชาญที่จะเป็นผู้ตรวจประเมินบทความในขั้นตอนต่อไป และขั้นตอนที่สำคัญของการส่งบทความอีกอย่างหนึ่งคือ ข้อมูลรายละเอียดของบทความ มีความจำเป็นจะต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนทั้งหมด ก่อนที่จะทำการส่งบทความ

- สำหรับอาจารย์ยังมีอีกหน้าที่ที่อาจจะได้ใช้งานระบบ EM คือ ท่านได้รับเชิญให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจประเมินบทความ (Reviewer) โดยระบบจะมีอีเมลส่งเชิญไปยังผู้เชี่ยวชาญ ท่านสามารถตอบรับหรือปฏิเสธที่จะอ่านบทความได้ หากตอบรับตรวจประเมิน ลิงก์จะเชื่อมต่อไปยังระบบ EM ในส่วนการประเมินบทความให้ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการประเมินบทความได้อย่างสะดวก - ระบบ EM จะมีการอัพเดทสถานะของบทความอย่างเป็นปัจจุบัน ซึ่งผู้แต่งสามารถเข้าไปเช็คการอัพเดทได้ตลอดเวลา


 

2. ประกาศมหาวิทยาลัยและส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนค่าตอบแทนผลงานตีพิมพ์ และดัชนีวัดคุณภาพวารสาร (Journal Metrics) เบื้องต้นและที่เกี่ยวข้องกับประกาศ

- ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับประกาศของมหาวิทยาลัย (3 ประกาศ) และส่วนงาน (1 ประกาศ) ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนค่าตอบแทนผลงานตีพิมพ์ หลักเกณฑ์ ข้อกำหนดต่างๆ ที่ควรรู้

- ความหมายของดัชนีวัดคุณภาพวารสารที่สำคัญของฐานข้อมูลหลัก 2 ฐานข้อมูล ได้แก่ Scopus และ Web of Science

- การแปลความหมายของดัชนีวัดคุณภาพวารสารในฐานข้อมูล Scopus ที่สำคัญและจำเป็น ได้แก่ CiteScore, Scimago Journal & Country Rank (SJR) และ Quartile ของ SJR

- การแปลความหมายดัชนีวัดคุณภาพวารสาร (Journal Metric) ในฐานข้อมูล Web of Science ที่สำคัญและจำเป็น ได้แก่ Journal Impact Factor (JIF) และ Quartile ของ JIF

- สาธิตขั้นตอนและวิธีการสืบค้นข้อมูลดัชนีวัดคุณภาพวารสาร ได้แก่ 1) การสืบค้นค่า Top10% ในฐานข้อมูล 2) การสืบค้นข้อมูลวารสารในฐานข้อมูล Scopus และข้อมูลของดัชนีวัดคุณภาพวารสารที่ควรรู้ 3) การสืบค้นข้อมูลวารสารในฐานข้อมูล Web of Science และข้อมูลของดัชนีวัดคุณภาพวารสารที่ควรรู้

โดยการบรรยายนี้ผู้เข้าร่วมชมจำนวน 57 คน

รับชมย้อนหลัง | เอกสารประกอบการบรรยาย EM | Journal Metric


สิ่งที่ควรรู้ทุนวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) และแนวคิดการเขียนข้อเสนอโครงการวิจัยรูปแบบใหม่

สรุปสาระสำคัญจากกิจกรรมบรรยายด้านการวิจัย (Research Talk) ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2564
หัวข้อ เรื่อง “สิ่งที่ควรรู้ทุนวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) และแนวคิดการเขียนข้อเสนอโครงการวิจัยรูปแบบใหม่"

ผู้บรรยาย ศาสตราจารย์ ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช

วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 13.00 -15.30 น. ผ่านระบบ Cisco Webex และ Facebook Live

สรุปเนื้อหาโดย ยุทธพล ผ่องพลีศาล งานบริหารการวิจัย

 

คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ โดยงานบริหารการวิจัยร่วมกับสำนักงานวิทยบริการด้านสิ่งแวดล้อมได้จัดกิจกรรมบรรยายด้านการวิจัย หรือ Research Talk ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2564 ในหัวข้อเรื่อง "สิ่งที่ควรรู้ทุนวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) และแนวคิดการเขียนข้อเสนอโครงการวิจัยรูปแบบใหม่" เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ระหว่างเวลา 13.00 – 15.30 น. ผ่านระบบ Cisco Webex และ Facebook Live โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร. ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ และเมธีวิจัยอาวุโส สกว.ประจำปี 2556 และ 2559 เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ในกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายผ่านทั้งสองระบบดังกล่าวจำนวน 103 คน ทั้งบุคลากรภายในส่วนงาน และภายนอกส่วนงาน อาทิ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และบุคลากรภายนอกมหาวิทยาลัย อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก    

เริ่มต้นกิจกรรมด้วยการกล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมเพื่อบรรยายให้ความรู้ เทคนิคการขอทุนวิจัย และแนวคิดการดำเนินโครงการวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องตามจุดมุ่งหมายของทุนวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม รวมทั้งกล่าวเปิดกิจกรรมโดยรองศาสตราจารย์ ดร. จำลอง อรุณเลิศอารีย์ รองคณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพากรศาสตร์ จากนั้นเป็นการกล่าวแนะนำกำหนดการและประวัติวิทยากรโดยคุณสวัสดิรักษ์ ใสงาม หัวหน้างานบริหารการวิจัย คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์

 

      รศ. ดร.จำลอง อรุณเลิศอารีย์ 

รองคณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์
กล่าวเปิดกิจกรรม

จากนั้นเป็นการบรรยายโดยวิทยากร ศ.ดร. ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช โดยในช่วงแรกได้กล่าวถึงบริบทวิจัยไทยในโครงสร้างใหม่ สิ่งที่ควรรู้เบื้องต้นสำหรับอาจารย์และนักวิจัยรุ่นใหม่ และบริบทผู้ทำวิจัยในมหาวิทยาลัยไทยโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีความเชื่อมโยงเป็นระบบตั้งแต่ระดับผู้จัดทำข้อเสนอการวิจัย ได้แก่นักศึกษาต่ำกว่าระดับบัณฑิตศึกษา นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา (ป.โท-ป.เอก) ซึ่งผ่านการกลั่นกรองเบื้องต้นจากระดับผู้ตรวจสอบปรับปรุงผลงาน ได้แก่ นักวิจัยหลังปริญญาเอก (Post-Doctoral) และระดับผู้ตัดสินใจหรือนำเสนอผลงาน ได้แก่ นักวิจัยอาวุโส หรือ อาจารย์ประจำที่มีตำแหน่งทางวิชาการต่าง ๆ ของส่วนงาน เพื่อตรวจสอบ แก้ไข หรือปรับปรุงข้อเสนอการวิจัยในขั้นสุดท้ายก่อนที่จะยื่นเสนอต่อแหล่งทุนต่าง ๆ (Funding Program manager) อันนำมาสู่หัวข้อสำคัญของการบรรยายในครั้งนี้ เกี่ยวกับแนวทางการเตรียมข้อเสนอโครงการ เพื่อนำไปสู่การได้รับทุนวิจัย และการสร้างผลงานวิจัยอย่างมีคุณภาพ 

 

ในช่วงถัดมา เป็นการบรรยายเนื้อหาเกี่ยวกับทุน ววน. ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิจัยต้องเรียนรู้ ศึกษาให้เข้าใจและพัฒนาเทคนิคเพื่อเตรียมจัดทำข้อเสนอโครงการวิจัยและนำเสนอแหล่งทุนได้อย่างเหมาะสม ที่สำคัญได้แก่

  •  ประเภทงานวิจัย แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่ 1) งานวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ กล่าวคือ เป็นงานวิจัยเน้นสร้างผลกระทบหรือสร้างแก่นความรู้ และ 2) งานวิจัยเพื่อขยายฐานองค์ความรู้ กล่าวคือ เป็นงานวิจัยที่มุ่งขยายฐานองค์ความรู้ในสิ่งที่มีผู้สร้างองค์ความรู้หรือศึกษามาก่อนแล้ว โดยพบว่าส่วนใหญ่นักวิจัยไทยจะมุ่งเน้นสร้างงานวิจัยประเภทที่ 2 เป็นหลัก จึงต้องเพิ่มผลงานประเภทที่ 1 เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ในวงวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอตำแหน่งวิชาการในระดับรองศาสตราจารย์ขึ้นไปควรเน้นสร้างผลงานวิจัยในลักษณะดังกล่าวนี้
  • เป้าหมายหรือผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญ (Objective Key Results) หรือ OKRs เป็นรูปแบบการเขียนดัชนี้ชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ของข้อเสนอโครงการวิจัยในปัจจุบัน กล่าวคือ โครงการต้องมีความแปลกใหม่ เข้ากับยุทธศาสตร์ชาติในประเด็นสำคัญ มีผลสัมฤทธิ์ทั้งทางวิชาการ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จำนวนการเผยแพร่ผลงานในวารสารวิชาการที่มีคุณภาพสูงและได้รับการอ้างอิงสม่ำเสมอ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับประโยชน์ ได้เครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการภายนอกส่วนงาน นอกจากนั้นแหล่งทุนบางประเภท อาจต้องการตัวชี้วัดประเภททรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property: IP) อาทิ สิทธิบัตรต่าง ๆ  ด้วย    
  •  ประเภทแหล่งทุน แบ่งเป็น 5 ประเภทที่สำคัญ ได้แก่ (1) ทุนสนับสนุนจากเงินรายได้คณะ/มหาวิทยาลัย (2) ทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund) หรือ SF.  เป็นงานวิจัยตามยุทธศาสตร์ชาติ เหมาะสำหรับนักวิจัยผู้มีประสบการณ์ (3) ทุนสนับสนุนงานพื้นฐาน (Fundamental Research Fund) หรือ FF. เป็นทุนมุ่งเน้นการเผยแพร่ผลงานตีพิมพ์เพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเป็นหลัก โดย สกสว.จัดสรรงบประมาณโดยตรงแก่มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งสามารถกำหนดแนวทางหัวข้อวิจัย คุณสมบัตินักวิจัย การเปิดรับข้อเสนอโครงการและคัดเลือกผู้ที่ได้รับทุนตามเกณฑ์เฉพาะของมหาวิทยาลัย (4) ทุนวิจัยหน่วยงานรัฐ / รัฐวิสาหกิจ และ (5) ทุนวิจัยจากหน่วยงานภาคเอกชน ซึ่งเป็นแหล่งทุนที่ใม่ได้อยู่ในระบบ อววน. อันมีข้อแนะนำว่านักวิจัยไม่ควรส่งข้อเสนอโครงการวิจัยเรื่องเดียวกันซ้ำซ้อนหลายแหล่งทุน เนื่องจากเป็นข้อกำหนดทั่วไปของการประกาศรับทุน และสามารถตรวจสอบผ่านระบบ NRIIS ได้    
  •  สิ่งที่ควรรู้ในการเขียนข้อเสนอโครงการ (Proposal) ที่สำคัญ โดยนักวิจัยต้องรู้รายละเอียด ตั้งแต่ Format Template อัตรางบประมาณแต่ละหมวด (Budget Management) การเปิดรับ Concept Proposal และ/หรือ Full Proposal รวมทั้งการระบุประเภทโครงการวิจัยเดี่ยว หรือชุดโครงการ ข้อกำหนดระดับความพร้อมด้านเทคโนโลยี หรือ TRL ตลอดจน OKRs ของแต่ละแหล่งทุนซึ่งมีความแตกต่างกัน

 

แนวทางการจัดสรรงบประมาณ ววน. ปัจจุบันงบประมาณดังกล่าวส่วนใหญ่ร้อยละ 60 ถูกจัดสรรเป็นทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (SF.) แก่หน่วยงานด้านการให้ทุน (7PMUs) และร้อยละ 40 ถูกจัดสรรเป็นทุนสนับสนุนงานพื้นฐาน (FF.) แก่สถาบันอุดมศึกษา จำนวน 96 สถาบัน หน่วยงานด้านการวิจัยที่ไม่ใช่สถาบันอุดมศึกษา จำนวน 75 หน่วยงาน เช่น MTEC NECTEC เป็นต้น นักวิจัยจึงควรศึกษายุทธศาสตร์ อววน. เพื่อการพัฒนา ซึ่งประกอบด้วย 4 Platform / 16 Program และ Program 17: การแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศในปัจจุบัน โดยเฉพาะสถานการณ์ COVID-19 เนื่องจากแหล่งทุนแต่ละแห่งรับผิดชอบแพลตฟอร์มการดำเนินงานเชิงยุทธศาสตร์อันแตกต่างกัน เพื่อประเมินความสอดคล้องของข้อเสนอโครงการกับความต้องการของแหล่งทุน รวมทั้งมีกรอบกติกา และเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ อาทิ  In Kind/In Cash จากภาคเอกชน  

 

        แพลตฟอร์มและโปรแกรมการดำเนินงานเชิงยุทธศาสตร์ และแหล่งทุน (PMU) ที่รับผิดชอบ

 

  • ระดับความพร้อมด้านเทคโนโลยี (Technology Readiness Level: TRL) มี 9 ระดับกล่าวคือนักวิจัยต้องกำหนดตำแหน่ง (Positioning) ข้อเสนอโครงการวิจัยว่ามีความพร้อมด้านเทคโนโลยีอยู่ในระดับใด สอดคล้องกับเงื่อนไขของแหล่งทุน (PMU) หรือไม่ และยื่นภายใต้โปรแกรมอะไร โดยทั่วไประดับ 1-3 เป็นงานวิจัยประเภทการพัฒนาองค์ความรู้และการวิจัยพื้นฐาน ซึ่งเหมาะสมกับการสนับสนุนทุนของ วช. หรือ บพค. ระดับ 4-5 ระดับ 6-7 และระดับ 8 เป็นต้นแบบห้องปฏิบัติการ ต้นแบบภาคสนาม และต้นแบบภาคสนามที่ผ่านมาตรฐาน ซึ่งเหมาะสมกับการสนับสนุนทุนของ สวก. สวรส. บพท. และ บพข. ตามลำดับ และระดับ 9 เป็นงานวิจัยที่มีเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์ซึ่งถูกนำไปใช้งานจริงโดยลูกค้า จึงเหมาะสมกับการสนับสนุนทุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ภาคเอกชน หรือ สถาบันการเงินต่าง ๆ

ระดับความพร้อมทางเทคโนโลยี (TRL) และแหล่งทุน (PMU) ที่เหมาะสม

 

               ในส่วนคำถามจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวได้ว่ามีผู้สนใจสอบถามข้อสงสัย ขอคำแนะนำ และข้อเสนอแนะจากวิทยากรเกี่ยวกับเทคนิคการเขียนข้อเสนอโครงการอย่างน่าสนใจ อาทิ

  • แนวทางการพิจารณาประเภทแหล่งทุน (PMU) ระดับ TRL ที่เหมาะสมกับการต่อยอดโครงการวิจัยซึ่งได้จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาหรือมีเงื่อนไขความต้องการร่วมมือกับภาคเอกชน
  • การทำความเข้าใจข้อกำหนด OKRs ของแหล่งทุนที่ปรากฏในระบบ NRIIS เพื่อประยุกต์ให้สอดคล้องกับการเขียนผลที่คาดว่าจะได้รับในข้อเสนอโครงการวิจัย
  • เกณฑ์ หรือตัวชี้วัดความสำเร็จของแผนการดำเนินงานในข้อเสนอโครงการวิจัยที่แหล่งทุนใช้ประกอบการพิจารณาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะแหล่งทุนภายใต้การกำกับของ สอวช. เช่น บพข. บพท. เป็นต้น
  • แนวทางการเขียนระยะเวลาส่งมอบผลผลิตจากงานวิจัยอย่างเหมาะสมในข้อเสนอโครงการวิจัย

           ซึ่งได้รับคำตอบ คำแนะนำ เทคนิคน่ารู้ ตลอดจนข้อพิจารณาหรือข้อควรระวังอันเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ผลงานหรือการเจรจาความร่วมมืองานวิจัยกับภาคเอกชน จากประสบการณ์ของวิทยากรเป็นอย่างดี  
ในช่วงสุดท้าย เป็นการแนะนำตัวอย่างการเขียนข้อเสนอโครงการให้มีความน่าสนใจ กล่าวคือนักวิจัยต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความแปลกใหม่และมีจุดขายในข้อเสนอโครงการวิจัย มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติในประเด็นสำคัญ มีลักษณะบูรณาการสหสาขาวิทยาการ (Multidisciplinary) มีความร่วมมือจากนักวิจัยหลากหลายสาขาวิชา มีลักษณะคร่อมศาสตร์ สามารถนำไปใช้ได้จริง เกิดประโยชน์ต่อวงวิชาการ ทั้งการเผยแพร่ผลงาน การสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ การสร้างเครือข่ายนักวิจัย และเกิดประโยชน์ต่อสังคม โดยนักวิจัยที่มีประสบการณ์สูงควรเลือกเสนอเป็นชุดโครงการ โครงการย่อยต้องมีความสอดคล้อง (synchronize) กับโครงการชุด ในขณะที่นักวิจัยประสบการณ์น้อยอาจเสนอเป็นโครงการเดี่ยวหรือโครงการย่อยภายใต้ชุดโครงการ และหัวใจสำคัญอยู่ที่ การเขียนบทสรุปผู้บริหารให้มีความน่าสนใจ ชี้ให้เห็นถึงความใหม่ของงานวิจัย ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับซึ่งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติหรือเกิดผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ การระบุ TRL อย่างสอดคล้อง ตลอดจนเทคนิคการใช้รูปภาพ / Infographic ต่าง ๆ บรรยายแทนข้อความเพื่อลดจำนวนหน้า ดึงดูดความสนใจ และประหยัดเวลาในการอ่านข้อเสนอโครงการของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ทั้งนี้ได้แนะนำให้นักวิจัยควรเตรียมข้อเสนอโครงการล่วงหน้า โดยสามารถศึกษาข้อมูลปฏิทินทุนวิจัยของแหล่งทุนต่าง ๆ เรียนรู้ข้อกำหนดและเงื่อนไขการพิจารณา และดูตัวอย่างรายชื่อข้อเสนอโครงการวิจัยที่ได้รับทุนตามแพลตฟอร์มและโปรแกรมที่เกี่ยวข้อง จะทำให้สามารถประเมินความต้องการของแหล่งทุนได้  

 


  1. การประชุมหารือแนวทางการพัฒนาโครงการความร่วมมือระหว่างคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ และ คณะวิศวกรรมศาสตร์
  2. ทุนวิจัยจากต่างประเทศ เคล็ดลับทำได้ไม่ยาก
  3. การบรรยาย Research Talk ครั้งที่ 1/2565 เรื่อง “อัพเดทสถานการณ์ทุนวิจัย รู้เขารู้เรา เตรียมพร้อมอย่างมีประสิทธิภาพ”
  4. การบรรยายด้านการวิจัย (Research Talk) เรื่อง “ขั้นตอนการส่งบทความในวารสารผ่านระบบสากล Editorial Manager และการสืบค้นดัชนีวัดคุณภาพวารสาร (Journal Metric) ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ
  5. กิจกรรมบรรยายด้านการวิจัย (Research Talk) ในหัวข้อเรื่อง “เทคนิคการเตรียมเอกสารการเบิกจ่ายสำหรับโครงการวิจัย”
  6. สรุปสาระสำคัญจากกิจกรรมบรรยายด้านการวิจัย (Research Talk) ครั้งที่ 2
ขั้นตอนปฏิบัติ

ขั้นตอนปฏิบัติ

เพื่อให้ผู้มาขอให้บริการเข้าใจขั้นตอนต่างๆ ในการขอรับบริการงานบริหารงานวิจัยจึงได้รวบรวมขั้นตอนการทำงาน (Workflow) ไว้สำหรับทุกท่าน
ดูขั้นตอนต่างๆ ในการขอรับบริการ
This image for Image Layouts addon

แบบสำรวจข้อมูล

แบบสำรวจข้อมูลเพื่อนำไปสู่การค้นหาทุนที่เหมาะสมกับความเชี่ยวชาญของนักวิจัย
เข้าสู่แบบสำรวจ
© 2024 Faculty of Environment and Resource Studies, Mahidol University . All Rights Reserved.