โฟมชีวภาพต้นแบบจากเส้นใยเห็ดผสมผสานกับกากกาแฟ กากชา และเปลือกไข่
Keywords:
ไมซีเลียม, โฟมชีวภาพ, กากกาแฟ, กากชา, เปลือกไข่Abstract
เศษของเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก กาแฟและชาเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดของเสียประเภทกากกาแฟและกากชาในปริมาณมาก งานวิจัยนี้ได้พัฒนาโฟมชีวภาพจากเส้นใยเห็ด (Mycelium-based Bio foams) โดยใช้กากกาแฟ (C) กากชา (T) และเปลือกไข่บด (E) เป็นวัสดุเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรผสานกับเส้นใยไมซีเลียมของเห็ดนางรม (Pleurotus ostreatus, PO) และเห็ดนางฟ้าภูฏาน (Pleurotus pulmonarius, PP) ทำหน้าที่เป็นกาวชีวภาพยึดวัสดุชีวมวลเข้าด้วยกัน โดยทำการทดลองปรับอัตราส่วนเชื้อเห็ดที่ 10%, 25% และ 35% และเติมเปลือกไข่บดที่ 10%, 20% และ 30% โดยน้ำหนัก ผลการศึกษาพบว่าอัตราส่วนเชื้อเห็ดที่ 25% ทำให้โครงข่ายเส้นใยหนาแน่นและมีความหนาสูงสุด โดยสูตรกากชาผสมเปลือกไข่บด 10% มีความหนาเฉลี่ยสูงสุด คือ 2.70±0.19 µm เมื่อใช้เชื้อเห็ดนางรมและ 2.63±0.12 µm เมื่อใช้เชื้อนางฟ้า การเติมเปลือกไข่บด 10% ช่วยเร่งการเจริญของเส้นใย ขณะที่ระดับ 20–30% กระตุ้นการออกดอกเห็ด แต่ทำให้เส้นใยเห็ดหยุดการเจริญเติบโต เส้นใยเห็ดทั้ง 2 ชนิดเจริญได้ดีในกากชามากกว่ากากกาแฟ การเลือกสูตรที่เหมาะสมทำให้ได้โฟมชีวภาพต้นแบบที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรง ขึ้นรูปง่าย และย่อยสลายได้ในดินและในคอมโพสท์ สามารถประยุกต์ใช้เป็นวัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อมในอนาคตเช่น แผ่นโฟม บรรจุภัณฑ์ และวัสดุกันกระแทก ทดแทนการใช้โฟมหรือพลาสติกทั่วไป สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ด้านการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน
