การจัดการแบตเตอรี่หมดอายุการใช้งานในยานยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย
Keywords:
ารจัดการแบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน, ประเมินจานวนแบตเตอรี่ที่หมดอายุ, BEV3R Concept (Refurbish, Reused, Recycle), ทางเลือกการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, นโยบายAbstract
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดการแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่หมดอายุการใช้งานในประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลจากยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าและคานวณปริมาณแบตเตอรี่ที่สิ้นสุดอายุการใช้งานโดยอ้างอิงสถานะสุขภาพแบตเตอรี่ (State of Health: SoH) ร่วมกับทฤษฎี Stock Turnover ผลการศึกษาคาดว่า ภายในปี 2035 ประเทศไทยจะมีแบตเตอรี่หมดอายุประมาณ 2,132,653 แพ็คเพื่อการจัดการที่มีประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ถูกจาแนกออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ (1) First Life (SoH 80–100%) ใช้งานในยานยนต์ไฟฟ้าต่อไป (2) Second Life แบ่งเป็น High Performance (SoH > 80%) สาหรับยานยนต์ และ Low Performance (SoH ≤80-40%) สาหรับระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) (3) Third Life (SoH < 40%) เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล กาหนดให้ตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ทุก 5, 10 และ 15 ปี ภายใต้ 3 มาตรการหลัก มาตรการที่ 1: ไม่มีการรีไซเคิล (BAU) ปล่อยก๊าซ CO2 สะสม 14.8 ตัน/คัน, มาตรการที่ 2: มีการรีไซเคิลแบตเตอรี่ ปล่อยก๊าซ CO2 8.2 ตัน/คัน, มาตรการที่ 3: BEV3R (Refurbish, Reuse, Recycle) ปล่อยก๊าซ CO2 ต่าสุด 7.0 ตัน/คัน ผลการศึกษาชี้ว่า มาตรการ BEV3R มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 52.7% ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero Carbon 2050 ของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
